ชีวิตเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง! สำหรับ ซาร่า-สลัลรักษ์ เจริญจันทร์ นางเอกสาว เปิดปากผันตัวเป็น “นักแสดงอิสระ” พร้อมฝากผลงานละครโรแมนติก-คอมเมดี้ “ไอ้หนุ่มรถไถ” ประกบคู่ เบิ้ล ปทุมราช ทางช่อง 8 เป็นการทิ้งทวน แถมกำลังเตรียมตัวเตรียมใจรับราชการ “ทหาร” อยากทำให้ “ครอบครัว” ภูมิใจ ส่วนสถานะหัวใจกับ มิกกี้-ปฐมพล นักฟุตบอลทีมชาติไทย หวานชื่นมื่นไม่เปลี่ยน ใน “คนดังนั่งคุย”
“ไอ้หนุ่มรถไถ” ซาร่ากลายเป็น “นางเอกละครภูธร” ยืนหนึ่ง
“ใช่ค่ะ ในเรื่องรับบท ครูกระแต แต่เรื่องนี้เป็นนางเอกเต็มตัว ไม่คิดว่าจะเล่นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ได้ เรื่องนี้โก๊ะมากๆ จะเป็นละครตลกเฮฮา แต่ละคนปล่อยมุกฮาคนละนิด คนนี้หน่อยก็เลยน่าดู มันทำให้เราคลายเครียด รีแลกซ์”
จำบรรยากาศตอนถ่ายได้มั้ย
...
“โหย...แต่ละคนที่ซาร่าได้ทำงานด้วยก็เป็นตัวพ่อ ตัวแม่ สุดเทพทางด้านแนวละครแบบนี้ มี พี่ด้งเด้ง ไทบ้าน พี่ตาต้า ไทบ้าน เบิ้ล ปทุมราช ฯลฯ เราเองเลยต้องทำสมาธิสุดๆ เวลาเข้าฉาก เพราะพี่ๆเค้าจะชอบมีมุก มีมีมสดๆเติมเข้ามา ตัวเราก็ไม่ได้เป็นนางเอกสายโก๊ะ ตลกจ๋าขนาดนั้น คาแรกเตอร์เราคีพความเป็นคุณครู ความเรียบร้อย บางทีซาร่าหลุดขำในสิ่งที่พี่ๆเค้าเล่นกัน เวลาไปกองไม่ค่อยมีความเครียดเพราะเวลาเจอกัน คุยเล่นกัน มันเหมือนเป็นวัยที่ใกล้เคียงกัน มีน้องลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น น้องน่ารักมากก็เลยยิ่งทำให้เราอยากไปกอง แล้วเวลาว่างๆเขาร้องเพลงกัน ซึ่งแต่ละคนเป็นนักร้องกันหมดเลย”
สกิลการร้องเพลงของเราล่ะไหวไหมมั้ย
“ก็พอได้ แต่สู้กับพี่ๆที่เป็นนักร้องอาชีพไม่ได้ เลยไม่ค่อยกล้าร้อง แต่พอพี่เบิ้ล ดนตรีก็ได้ ร้องเพลงก็ดี เอนเตอร์เทนก็ได้ น้องลิลลี่ก็เก่ง เราเป็นแฟนคลับทุกคนเลยที่เล่นละครด้วย รู้สึกว่าเราอยากทำงาน อยากเจอพี่ๆ ให้น้องร้องเพลงให้ฟัง”
เป็นนักแสดงอิสระแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ใช่ค่ะ ตอนนี้ซาร่าเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว เมื่อปลายปี 67 ที่ผ่านมา ตอนแรกก็เคว้งนิดนึง ตอนนี้เข้าใจสถานการณ์ธุรกิจทีวีมันเบาบางไปเยอะ ช่องลดค่าใช้จ่ายตรงนั้นด้วย บางคนย้ายค่าย บางคนยกเลิกสัญญา ไปทำงานอื่นเลย”
แล้วเคสซาร่าเป็นกรณีไหนเหรอ
“เป็นคนยื่นคำร้องขอยกเลิกสัญญาก็คุยด้วยกัน จริงๆตอนแรกๆซาร่าตั้งใจจะไปสมัครทหาร ลองสอบทหารดู เพราะเรียน รด.มา 5 ปี ก็มียศว่าที่ร้อยตรีก็เลยลองสอบดู สรุปก็ได้จริงๆ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ ก็บอกเขาตรงๆ จริงๆตอนนั้นเราไม่พร้อม มีความรู้สึกเหมือนเป็นการตัดโอกาสการแสดงของตัวเอง เราเพิ่งเริ่มต้น ก็อยากรู้ทำได้มั้ยกับตรงนี้ก็คือทำได้ มีแพลนหลายอย่างมาก ยังคุยกับคุณแม่เลยว่าเราไม่ได้มีงานละครมาก หรือไม่ได้มาตรงนี้มากเราก็ไปทางอินฟลูฯ อาจจะไปเรียนต่อด้วยซ้ำ”
ทิศทางงานแสดงหลังจากนี้ล่ะ
“ถ้ามีติดต่อเข้ามาก็ทำเพราะยังสนุกกับการเล่นละคร ยังโหยหาอยู่ ตอนนี้ที่สนใจอีกอย่างหนึ่งคือซีรีส์แนวหญิง-หญิง อยากเล่นยูริมาก รู้สึกว่าน่าจะเป็นคาแรกเตอร์ที่เราน่าจะเหมาะนะกว่าการเล่นเป็นนางเอก มีอะไรท้าทาย มีอะไรหลายๆอย่างให้เราได้ทำ แค่รู้สึกว่าพอเป็นซีรีส์เปิดกว้างกว่าละคร ทำงานง่ายกว่า หนูเคยเล่นละครกับพี่สิงโตมารอบนึงพอมันอยู่ในบรรยากาศการทำซีรีส์ เราสนุกและเอนจอย เรายังเป็นเด็ก มีความรู้สึกว่าแบบเดี๋ยวมันได้ไปโน้นทำนี่ สนุก พอมันเป็นละครเราต้องอยู่ที่เดิม กว่าจะถ่ายเสร็จ กว่าจะผ่านเทกเทกนึงไปได้นานเหลือเกิน แต่ถามว่ายังอยากเล่นละครมั้ยก็ยังอยากเล่นค่ะ”
มีคนติดต่อเข้ามาบ้างมั้ยเพราะว่าเราเป็นนักแสดงอิสระแล้ว
“ไม่เลยค่ะเพราะว่าจริงๆก่อนหน้าแอบเกรงใจทางช่อง 8 อยู่ เพราะยังมีละคร หนุ่มรถไถที่กำลังออนอยู่ ก็เลยอยากให้ละครเรื่องนี้จบก่อนค่อยพูดคุยกับที่อื่นๆ ซาร่าเป็นอิสระแล้ว ไม่อยากมีปัญหากับช่อง เพราะยังมีสัญญากับละครที่เราจะต้องไปโปรโมตให้เค้า มีบวงสรวงหรืออะไรหลายๆอย่างที่ยังมีคอนเนกชันกับละครเรื่องนี้อยู่ก็เลยอยากให้ละครจบไปก่อนเหมือนเป็นการให้เกียรติกับช่องด้วย เราไม่อยากออกมาปุ๊บแล้วไปหาที่อื่นใหม่เลย ไม่อยากให้มันเร็วขนาดนั้น”
...
งงมากที่จู่ๆตัดสินใจไปสมัครทหาร มีอะไรดลใจหรือเปล่า
“แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ค่ะ คือคุณแม่มีความอยากให้ลองดู คือที่บ้านค่อนข้างเป็นอะไรที่ ลองสิ ทำได้มั้ย แม่อยากรู้ทำได้หรือเปล่า เราก็รู้สึกเรื่องแค่นี้เองสบายมากเลย ด้วยความที่เราก็รู้ว่าระบบราชการสอบยากและคนสมัครกันเยอะ ตำแหน่งแต่ละตำแหน่งจะรับคนแค่ คน หรือ 2-3 คน ตอนแรกก็ไม่คาดหวังเลย จำนวนคนสมัครก็แอบตกใจนิดนึง เขารับตัวจริงแค่ 2 คนแต่คนสมัครไป 300 เราก็แบบความรู้พื้นฐานตอนนั้นมันหายไปหมดแล้ว ช่วงจะสอบไม่ได้กลับไปอ่านหนังสือเลย ลุยหน้างานอย่างเดียวเลย อาจจะด้วยความที่เราเคยขยันตอนเด็กๆ ทำให้เราสอบทุกรอบ ได้ที่ 1 มาตลอดเลย สุดท้ายทำให้แม่เห็นว่าสุดท้ายหนูก็ทำได้นะ”
ตำแหน่งที่จะเข้าไปทำ
“เป็นแอร์ฯ ของทหารอากาศค่ะ ตอนนั้นที่ยื่นไปเป็นยศจ่า ไม่ใช่วุฒิปริญญาตรี เลยได้ตำแหน่งนี้ ตอนนี้รอเรียก ถ้าอยากสอบใหม่วุฒิสัญญาบัตรก็ต้องยื่นวุฒิปริญญาตรี”
น่าจะเอาดีรับราชการ
“ค่ะ ด้วยความที่คุณตาเป็นทหารเก่าด้วย คุณยาย คุณตาก็มีความคิดอยากให้หลานรับราชการ พ่อแม่เบิกได้ งานมั่นคงนะ เงินเดือนน้อยหน่อยเราก็อยากทำให้เขาภูมิใจ เรารู้ว่าเงินเดือนไม่ได้เยอะแต่เราอยากทำให้เขารู้ว่าเราทำได้นะ เหมือนได้พิสูจน์กับตัวเองและพิสูจน์ให้แม่เห็นด้วย แม่หนูทำได้ เพราะที่บ้านเป็นแบบนี้ด้วย เพราะแม่จะชอบพูดว่าอยู่บ้านไม่เห็นหนูทำอะไรเลย ไม่เห็นอ่านหนังสือเลย สอบไม่ได้หรอก หนูก็แบบแม่ไม่ต้องอ่านหรอก สบายๆ ชิลๆ อย่าไปกดดัน เลยทำให้ดูเลย ตอนนี้แม่ไม่ได้ว่าอะไร แต่ลึกๆเขาก็ภูมิใจ แต่ใจจริงๆก็ยังอยากเป็นหมออยู่ ยังคุยกับคุณแม่เลย อยากกลับไปเรียนหมอ 6 ปี เพื่อที่จะตามฝันของตัวเอง ถ้าพอมีเวลานะคะ”
...
สถานะหัวใจตอนนี้กับพี่มิกกี้เป็นยังไงบ้าง
“ดีขึ้นเรื่อยๆ น่ารักขึ้นเรื่อยๆ มีเวลามากขึ้น ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทำให้เราโตกันมากขึ้น ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มันหายไป ปัญหาทุกวันนี้มันไม่มีปัญหาอะไรเลย ยกเว้นวันนี้เราจะกินอะไรดี เถียงกันเรื่องกินทุกวัน เราอยากกินอันนี้ เขาอยากอันนั้น แยกกันไปกินมั้ย ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องถามพี่เค้าว่าจะพร้อมอนาคตอะไรหนูไม่รู้เลย เราแค่ทำให้ทุกวันแฮปปี้และมีความสุขเพราะทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันเราจะหา ความสุขของเราสองคน”
ด้วยวัยตอนนี้พร้อมสร้างครอบครัวขนาดไหน
“พร้อมค่ะ ไม่ติด แต่ไม่อยากเร่งรัดเค้าเพราะเรายังอายุน้อยอยู่ ตัวพี่เค้าก็คิดเหมือนกันว่าตัวซาร่าก็ยังอายุน้อย ส่วนเขาอยากมุ่งมั่น โฟกัสกับหน้าที่การงานที่เค้าทำเพราะเขารู้สึกว่าอาชีพที่เขาเป็นมันไม่ได้เป็นตลอดชีวิต มันมีช่วงเวลาของเขา ด้วยสภาพร่างกายเหมือนใช้หนักๆ ทุกวัน เหมือนร่างกายก็ดรอปลงๆ เลยอยากเต็มที่กับตรงนั้นมากๆก่อน เราเข้าใจกันมากกว่า ซัพพอร์ตกัน ทุกอย่างกลายเป็นเราซัพพอร์ตเขา เขาซัพพอร์ตเรา”
...
ก่อนหน้าหลายๆคนไม่ชอบสบประมาทเดี๋ยวก็เลิก
“จริงๆแล้วเรื่องพวกนี้อยู่ที่คนสองคนคุยกัน อยู่ที่ความเข้าใจของทั้งคู่ คำว่าไม่รอด ซาร่าไม่ได้รู้สึกโกรธคนที่มาพูดว่าไม่รอดหรอก เดี๋ยวก็เลิกกัน คือวันนึงต้องแยกจากกันอยู่แล้วค่ะ แค่ไม่รู้ว่าเราจะแยกจากกันแบบไหน หนูคุยกันยันวันนึงเราแยกจากกัน เราก็อยากแยกจากกันด้วยดี กลายเป็นคนที่เราสนิทกันมากๆ ด้วยความที่เราอยู่กันนานๆ เรารู้สึกกันมากๆ มากกว่าคนอื่นอีก เลยรู้สึกอย่าไปคิดหรือปักหมุดเราจะต้องเป็นเจ้าของเค้า หรือเขาเป็นเจ้าของเรา”
แอบเผื่อใจ
“ค่ะ ยอมรับมีการเผื่อใจและเข้าใจกับมันมากกว่า วันนึงเราต้องจากนั้น ตอนนี้แฮปปี้กับสิ่งที่ทำมองอนาคตบ้างแต่ไม่ได้มองไกลมากๆ เพราะถ้ามองไกลมากๆ ถ้าไม่ถึงที่เราหวังเราจะผิดหวังได้ค่ะ”.
เรื่อง : วรรณี ห่อวโนทยาน
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม