ทำเอาแฟนๆ ตามหากันใหญ่ สำหรับพิธีกรดัง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ที่ก่อนหน้านี้ขอพักสมองไปเที่ยวกับแก๊งเพื่อนที่ จ.น่าน ซึ่งมีพระเอกดัง นาย ณภัทร เสียงสมบุญ ไปร่วมทริปด้วย พอได้เจอ หนุ่ม กรรชัย หรือพี่หน่วงของแฟนๆ มาร่วมงาน “หอแว่น The New Vision By Better Vision” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว นักข่าวเลยถามถึงเรื่องทริปเที่ยว

รวมไปถึงกรณีที่แจ้งความนักร้องนักแสดงหนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กรณีคลิปเสียงเรียกเงินจากบอสดิไอคอน 20 ล้านบาท โดยอ้างเป็นค่าพีอาร์ และมีการอ้างชื่อหนุ่มและรายการโหนกระแส รวมไปถึงกรณีที่ทนายดังโพสต์ว่ารวยจากการนินทา และมีคนโยงถึง หนุ่ม กรรชัย ด้วย

คนตามหาพี่หน่วงกันใหญ่?
“(หัวเราะ) ไม่ต้องตามหา ขอไปพักสักแป๊บนึง”

เหมือนได้ดีท็อกซ์ตัวเองเลยไหม?
“ก็แฮปปี้ดีครับ เหมือนเราไม่ได้พักนานมาก ก็ไปล้างท่อสักที คืออย่างนี้จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้พี่รู้จักกับคนที่เขาจับงูเก่งๆ อยู่คนนึง แล้วเขาพูดคำนี้กับพี่ว่าพวกเขาจับงูจนชินแล้ว เขารู้สึกว่ามันง่าย แล้วพอง่ายเสร็จ ความประมาทมันจะเกิด พอความประมาทเกิด เขาก็จะไม่ระวัง งูก็จะฉกเขา ซึ่งมีน้องคนนึงก็โดนไปเหมือนกัน เพราะด้วยความเคยชินนี่แหละ เขาเลยบอกว่าจริงๆ คนเราทำอะไรก็ตาม แต่พอเรารู้สึกว่าเริ่มชินแล้ว ง่ายแล้ว มันควรจะต้องล้างท่อสักที เอาใหม่ เริ่มต้นใหม่ พักสักแป๊บนึงแล้วค่อยกลับมาแล้วค่อยทำ”

...

แฟนคลับถามหากันใหญ่เลย?
“เอาตรงๆ นะ แทบไม่ได้ดูเลยว่ามีคนเขียนถึง แค่เราลงรูปไป จริงๆ เราก็ลงเล่นๆ ของเราอยู่แล้ว พอกลับมามีคนบอกก็เลยได้รู้ ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ (ยกมือไหว้) ช่วงที่พักผ่อนไม่ได้ดูโซเชียลเลย”

ได้ฮีลใจกลับมายังไงบ้าง?
”มันไม่ได้ฮีลใจ อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้พักมานานมาก แล้วช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาคือคดีมันเยอะแล้วมันก็เครียดตั้งแต่แม่ตั๊กมาเรื่อยๆ ก็ปวดหัว ก็เลยรู้สึกว่าน่าจะไปพักบ้าง อย่างที่บอกว่าเราก็อยากไปล้างท่อให้กลับมาแล้วมันสดชื่นหน่อย“

หายไปกี่วัน?
”ไปมา 3 วัน“

ก็มีคอมเมนต์ว่ากลับมาทำงานได้แล้ว พรุ่งนี้เริ่มทำงานเลยไหม?
”มีคนมาบอกว่าพรุ่งนี้จะกลับมาทำงานไหม เอาตรงๆ นะกำลังคิดอยู่ (หัวเราะ) ก็อยากจะพักแต่ว่าก็เดี๋ยวขอตัดสินใจสักนิดนึงก่อน“

ตอนไปพักไม่ได้ดูแม้กระทั่งความคืบหน้าของเราเลย?
“คือแทบไม่ได้ตามดูในโซเชียล แม้กระทั่งรายการตัวเองก็ไม่ได้ดู ไม่ได้ดูเลย เคยพักไปต่างประเทศก็จะมีการดูแล้วโทรบอกต้องอย่างนี้ ต้องทำแบบนี้ แต่อันนี้คือเป็นครั้งแรกที่จะไม่บอก ไม่พูดอะไรเลย ก็ทำกันไปเลย ก็รู้สึกว่าพอเราไปพูดปุ๊บ จะไปกดดันทางปุ้ย (รสริน) เขาด้วย ก็ปล่อยให้เขาทำเต็มที่ของเขาไป”

จุดไหนที่เรารู้สึกว่าอันนี้มันต้องพักแล้ว?
“จริงๆ อยากพักมาตั้งนานแล้วเพราะว่า คือพี่เชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้าวันนี้ไปถามคนที่ดูรายการโหนกระแสหรือคนที่ตามข่าว แค่ไม่ใช่คนทำข่าวก็ยังเครียดเลย มันเครียดไปหมด แล้วคนทำล่ะ คนหาข้อมูล คนรับข้อมูลคือพี่ มันก็หนัก เพราะฉะนั้นก็รู้สึกว่าขอไปทำอะไรให้ตนเองบ้างดีกว่า อยากไปเที่ยวกับเพื่อนกับน้อง”

ถามถึงเรื่องที่ไปฟ้องคนใกล้ตัว (ฟิล์ม รัฐภูมิ)?
“ใกล้ตัวตรงไหน ถามว่าเป็นคนใกล้ตัวไหม พี่เคยพูดไปแล้วว่ากับคุณฟิล์มรู้จักกันมานาน แต่คนรู้จักกันมานานไม่ได้หมายความว่าต้องสนิทกัน มันก็มีระยะของมันอยู่ แต่วันนี้เป็นไปตามระบบที่เกิดขึ้น เรื่องคดีส่วนตัวพี่เอง พี่รู้สึกว่าครั้งนี้มันหนักเกินไป มันล้ำเส้นเกินไป ที่ผ่านมาเคยเจอเอาชื่อไปแอบอ้าง เอารายการไปแอบอ้าง แต่พอเป็นคนที่เรารู้จักเขาอยู่แล้ว แล้วกลับทำแบบนี้ มันยิ่งรู้สึกไม่ดีมากกว่าทุกคน สำหรับตัวพี่เองไม่โอเค”

เคยให้โอกาสเขาพูดความจริง แต่เขาก็ไม่พูดความจริง?
“คือเราก็ไม่ได้บอกเขาว่าเราให้โอกาสเขานะครับ เพียงแต่ว่าเราพูดกับตัวเอง เราแค่คิดในใจของเราเองว่าครั้งแรกที่โทรไป จำได้เลยวันนั้นถ่าย 3 แซ่บเสร็จแล้วรู้เรื่องก็โทรไปครั้งแรก อยู่บนรถ ก็ถามว่ามันมีแบบนี้ๆ จริงหรือเปล่า เขาบอกไม่จริง ครั้งที่สองก็โทรไปอีก พี่บอกว่าอันนี้มีคนมาบอกว่าคุณไปพูดแบบนี้นะ เค้าก็ยังเหมือนเดิมก็คือไม่เคยพูด จนสุดท้ายก็เอาวะ พูดเลยแล้วกัน เผื่อเค้าจะยอมรับกับเรา

ตอนนั้นก็โทรไปครั้งที่สามตอนห้าทุ่มกว่าๆ บอกว่าเราได้ยินเสียงแล้วนะ เพราะมีคนเปิดให้เราฟัง แต่ไม่ได้บอกว่ามีอยู่ในมือ คุณเอาชื่อผมไปบอกแบบนี้ เค้าก็บอกว่ามันน่าจะเป็นการตัดต่อ เราก็โอเค ก็พอ ก็คือจบ พอวางหูเสร็จ โทรหาพี่เต่าก่อนว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมไม่โอเค ผมจะแจ้งความดีไหม พี่เต่าบอกว่าก็ถ้าเกิดคิดว่ามันปกป้องสิทธิ์ของเราก็สมควร ผมก็ยกหูหาทนายให้จัดการเลย บอกว่าเดี๋ยวผมส่งคลิปไปให้นะ ฟังทั้งหมดแล้วแกะเลย แล้วพรุ่งนี้ส่งใบตั้งทนายมา ใบมอบฉันทะ แล้วเซ็นทุกอย่าง ตอนเช้าก็ส่งทนายไปที่สอบสวนกลางเพื่อดำเนินการ“

...

หลังจากนั้นเขาติดต่อมาไหม?
”พอวันนั้นเปิดคลิปไปใช่ไหมครับ เย็นวันนั้นเค้าไปออกรายการอาจารย์ยิ่งศักดิ์ แล้วหลังจากนั้นเค้าโทรกลับมาหาพี่ แต่พี่ไม่ได้รับ เพราะพี่รู้สึกว่าไม่รู้จะต้องคุยอะไร ที่ไม่รับไม่ได้โกรธ ไม่ได้รู้สึกไม่อยากคุย แต่เอาจริงๆ นะ เขินแทน เพราะรู้สึกว่าเขาจะพูดกับเรายังไง“

เสียความรู้สึกมากกับกรณีนี้?
”ไม่ได้เสียความรู้สึก แต่ผิดหวัง คนที่เราคุยด้วย มาหาเรา แต่กลับเอาชื่อเราไปทำแบบนี้ ซึ่งมันไม่ดีเลย แล้วลองคิดดูนะถ้าวันนั้นพี่ไม่ได้เอาคลิปนี้มาอยู่ในมือ แต่คลิปนี้ไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ชอบพี่ หรือไปอยู่ในมือของคนที่เป็นคู่กรณีของพี่ แล้วเขาตัดแค่สั้นๆ ออกมา แล้วมาปั่น คนที่ซวยคือพี่นะ มันกลายเป็นว่าอ้าว ไอ้หนุ่มไปเรียกเงินเขา 20 ล้าน ทำแบบนี้ได้ยังไง มันล้ำเส้นไป“

จะเอาเรื่องอื่นที่สุดไหมถ้าเค้าขอโทษ?
”อ๋อ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขอโทษดีกว่า ไม่อยากฟังด้วย คือไม่ใช่ไม่รับ ไม่อยากฟัง ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะว่าทุกอย่างต้องให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะสิ่งที่คุณทำมันเป็นความเสื่อมทรามในสังคม คือไม่ควรมีใครจะต้องโดนแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือคนที่เป็นผู้ต้องหา“

...

อันนี้ฟ้องกี่คดี?
“ที่มีการฟ้องไปเป็นเรื่องของหมิ่นประมาทก่อน อันนี้ไปแจ้งความ แต่ในมุมข้อกฎหมาย ก็ปรึกษากับฝ่ายกฎหมายอยู่ว่าถ้ามุมไหนที่ไปถึงหรือช่องไหนที่ไปถึงเรื่องนี้ได้ก็เอาหมด ถามว่าจะฟ้องแพ่งไหม เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้รายการ ไม่หรอกครับ ผมเชื่อว่าคนดูเขารู้ว่ารายการคงไม่ทำแบบนั้นหรอก เพราะเราเคยเอาคนไปจับคนทำแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่ที่เราทำแบบนี้ไม่เกี่ยวข้องกับรายการเลยนะ ที่ทำแบบนี้คืออยากให้มันมีมาตรฐานของสังคมว่ามันไม่ควรจะมีคนไปทำอะไรแบบนี้ แล้วอย่างที่ผมเคยพูดไปแล้วว่าคุณเองก็ไม่ได้ลำบากยากแค้นอะไร ถึงต้องทำแบบนี้ แล้วคุณทำแบบนี้เพื่ออะไร คุณเอาเปรียบคนน่ะ คุณเป็นคนมีชื่อเสียง คุณจะมาบอกว่าเป็นงานพีอาร์ แต่เอาตรงๆ นะ ทุกคนฟังแล้วรู้สึกยังไงล่ะ รู้สึกว่าเป็นงานพีอาร์ไหม ไม่ต้องถามผม

เราไม่ได้กินหญ้า เราไม่ใช่วัว ไม่ใช่ควาย ฟังดูก็รู้ว่ามันคืออะไร จะแถทำไม จริงๆ แล้ววันนั้นที่โทรไปครั้งแรก ฝากบอกไปเลย จริงๆ ก็เคยพูดไปแล้วก็ฝากบอกอีกครั้งว่าวันนั้นถ้าคุณพูดกับผมว่า พี่ครับผมยอมรับ ผมทำจริง ผมอาจจะถูกชักจูงไปแบบนี้ ผมจะทำยังไงดี มีทางออกยังไง วันรุ่งขึ้นคือวันอังคารผมจะไม่เปิดคลิปนี้เลยนะ แต่ผมจะให้ทนายไปแจ้งความไว้เฉยๆ แล้วผมจะบอกน้องเขาว่าคุณต้องออกมาพูดนะ อย่างน้อยคุณต้องแฟร์กับสังคมด้วย คุณต้องแฟร์กับตัวคุณเอง คุณต้องแฟร์กับครอบครัวคุณด้วย ควรจะมีความซื่อสัตย์กับตัวเอง คนเรามันพลาดได้ แต่ถ้าพลาดแล้วไม่ยอมรับนี่มันอีกเรื่องนึงนะ“

พอมีคนมาแอบอ้างแบบนี้ มีมาตรการยังไงมั้ย?
”มาตรการมันยากมากครับ มันไม่มีมาตรการ ก็แค่ฝากพี่ๆ น้องๆ สื่อนี่แหละครับว่ารายการโหนกระแสไม่มีการเรียกเก็บเงินแม้แต่สลึงเดียวนะครับ ยกเว้นคนที่มาเป็นสปอนเซอร์ เดี๋ยวสปอนเซอร์มาเห็นบอกไม่เก็บตังค์ ไม่ใช่นะครับ สปอนเซอร์เก็บนะครับ (หัวเราะ) แต่ว่าคนที่มีเรื่องเดือดร้อนหรืออยากให้เราเป็นกระบอกเสียงให้ และเราเชิญมา ไม่มีการเก็บตังค์แม้แต่สลึงเดียวแน่นอน ก็ฝากกระจายข่าวนี้ด้วย เพราะมันไม่ได้มีแค่คนกลุ่มนี้กลุ่มเดียว ก็จะมีคนนั้นคนนี้มากมาย หรือแม้แต่ทนายบางท่านก็มีที่ไปพูดว่าเป็นทนายของรายการโหนกระแสนะ เรียกเงินเท่านั้นเท่านี้ ต้องบอกว่าไม่เกี่ยวกับโหนกระแสนะครับ แต่มันอาจจะเป็นสไตล์ของเขาที่เขาอาจจะพูดอะไรก็ได้ ก็เป็นเรื่องของเขาไป“

...

แฟนคลับก็ห่วงเรื่องความปลอดภัยของพี่หนุ่ม?
”สัมภาษณ์ๆ อยู่มีเดินมาแล้วตบปากอย่างนี้เหรอ (หัวเราะ) ผมว่าผมเป็นคนที่ดีพอ คนที่สัมภาษณ์อยู่แล้วมีเดินมาตบปาก อันนี้ไม่ได้พูดถึงใครนะ เขาอาจจะมีสิ่งที่มันไม่ดีอยู่หรือเปล่า มันก็อาจจะโดนอย่างนี้ได้ สำหรับผมเวลาไปออกงานเขาก็จะมีคนมาคอยดูแลให้อยู่แล้ว (ยิ้ม)“

ทนายที่โดนตบปากเขาแซะว่าเรารวยจากการนินทา?
”เขาไม่ได้เอ่ยชื่อผม แต่คนก็เข้าใจได้ว่าเป็นผม ก็ไม่เป็นไรครับ เขาคงเหงาแหละ ก็เป็นสิทธิของเขา อยากจะพิมพ์อะไรก็พิมพ์ไป แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับว่าบางทีจะพิมพ์อะไรออกมาบางอย่าง อันนี้ไม่ได้พูดถึงทนายนะ ผมก็พูดถึงคนทั่วไปจะพิมพ์อะไรมาบางทีก็ต้องดูตัวเองก่อน กระจกก็มี ถ้ากระจกที่บ้านไม่มี ก็เอากะลาตักน้ำแล้วก็มอง (ยิ้ม) มันจะได้รู้ว่าคนเราจะไปวิพากษ์วิจารณ์ใครได้คุณก็ต้องดูตัวเองก่อนว่าคุณดีพอหรือยังก่อนที่จะไปด่าคนอื่นเขาเท่านั้นเอง“

แต่เขาเหมือนกัดเราไม่ปล่อย?
”เขาเป็นหมาเหรอถึงบอกว่าเขากัด (หัวเราะ) เขาเป็นคนนะ ไม่ใช่หมานะ อย่าไปบอกเขาเป็นหมานะ (หัวเราะ)“

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม