เพิ่งจะลาจอไปแต่ยังทิ้งความขนลุกไว้ทุกครั้งเมื่อนึกถึงความร้ายของ “ฟองฟ้า” ในละครเรื่อง “ขวัญหล้า” ทางช่อง 7 ที่รับบทโดย “ศิตา ชู” หรือ ศิตา ชุติภาวรกานต์ วันนี้เลยจะมาทำความรู้จักเธอคนนี้ที่นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว ยังเป็นนักธุรกิจสาวสวยเจ้าของแบรนด์ BCHU RUNWAY รวมทั้งมุมมองความรักที่เติบโตมาท่ามกลางความรักจาก “คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว” พร้อมกับแฟนของแม่ที่เป็น “ผู้หญิง” ก็เพิ่งมารู้ว่าความรักของ “คู่รัก” ไม่ได้มีแค่ “หญิงกับหญิง” เท่านั้น ยังมี “ผู้ชายกับผู้หญิง” ด้วย
โดย ศิตา เล่าว่า “ศิตาเริ่มจากเดินแบบถ่ายแบบก่อน ซึ่งก็เป็นหนึ่งเส้นทางในการทำงานในอาชีพนี้ แต่สิ่งที่จริงจังก็คือการแสดงละครเวทีเรื่อง “หยุดภพ” เป็นเรื่องแรก หลังจากนั้นก็เข้ามาแคสต์ละครกับทางช่อง 3 ศิตาคิดว่าเสน่ห์ของวงการนี้คือการที่เรามาสวมบทเป็นใครก็ตาม ตามคาแรกเตอร์ที่เราได้รับมานั้น ได้ลองสุข ได้ลองทุกข์ ได้ลองเป็นใคร ซึ่งในชีวิตจริงเราอาจจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อนเลยก็ว่าได้ พอเราได้ลองเป็นคนคนนั้นในโลกของเขา ศิตาคิดว่ามันได้ทำอะไรใหม่ๆที่ท้าทาย ซึ่งเราคิดว่านี่เป็นเสน่ห์ของวงการนี้”
เข้ามาวงการบันเทิงแล้ว เราคาดหวังอะไร?
“ก็เหมือนกับหลายคนที่ได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้ ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นตัวเองกระโจนเข้าไปในบทบาทบทนึง และเราได้เห็นว่าเราสำเร็จในบทบาทอันนั้น แล้วได้รับคำชม ได้รับโอกาสที่ได้เล่น ซึ่งคนดูได้เห็นว่าเราเหมาะสมกับโอกาสนี้ อีกอย่างเราคาดหวังว่า เราจะได้อยู่ในโอกาสที่จัดวางให้เราได้ถูกจังหวะกับบทบาทนั้นๆ เพราะว่า เราทำงาน เราก็อยากจะประสบความสำเร็จ ในเส้นทางของอาชีพที่เราทำอยู่”
...
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ
สำหรับบทฟองฟ้า ในละครเรื่องล่าสุด “ขวัญหล้า” ทางช่อง 7HD เป็นยังไงบ้างกับบทร้ายครั้งแรกของเรา?
“ยากมากๆ เพราะเล่นร้ายเป็นเรื่องแรก ซึ่งศิตาเองในชีวิตจริง เราไม่คิดร้ายกับใครเลย แต่เป็นคนที่มักจะเข้าใจคน เข้าใจมนุษย์ ซึ่งเราเกิดมาเป็นลูกคนเดียว ที่บ้านเราหญิงล้วน คุณแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่บ้านเป็นคู่รักหญิง-หญิง เลี้ยงมาเหมือนมาตาลดาเลย แต่มาตาลดาเขาเป็นผู้ชาย-ผู้ชาย แต่บ้านศิตาเป็นคู่รักผู้หญิง-ผู้หญิง คุณแม่มีแฟนเป็นผู้หญิง คุณป้าคุณอาก็มีแฟนเป็นผู้หญิง ช่วยกันเลี้ยงศิตามา ผู้หญิง 2 คู่เลี้ยงเด็กผู้หญิงคนนึงมาตั้งแต่เบบี้เลย ซึ่งศิตาอยู่ในโลกใสๆ เขาพยายามสอนให้เรามองโลกในแง่ดี ทุกอย่างมันสีชมพูไปหมด ศิตายังไม่รู้เลยว่าในสังคมมีเพศอะไรอีก มารู้ตอนอายุ 15-16 คือรู้ช้ามาก มันเลยทำให้เราไม่เคยมองใครในแง่ร้ายเลย กลับมาบ้านแบบทุกคนรุมเลี้ยงเรา รุมให้ความรักเรา แต่พอเรามารับบทเป็นนางร้าย ต้องการความรักจากผู้ชายคนนึงมากๆ มีผู้ชายคนนี้แค่คนเดียว พอเราได้มารับบทนี้ เราก็รู้สึกว่ามันจะมีใครที่มีชีวิตแบบนี้ รักคนคนนึงแบบยอมตายได้ แต่เราก็ต้องคิดว่าเราเป็นคนคนนั้นตามบทบาท ไม่ใช่คิดเอาตัวเอง
เข้ามาในคาแรกเตอร์ มันคือความยากตรงนี้ มันไม่สามารถเอาความเป็นตัวเองลงไปในคาแรกเตอร์นี้ได้เลย เพราะเราไม่เคยต้องเจอเหตุการณ์เหมือนที่ตัวละครต้องเจอ ชีวิตส่วนตัวไม่มีอะไรคล้ายคาแรกเตอร์เลย”
นอกจากเป็นนักแสดง ยังเป็นนักธุรกิจสาวไฟแรงด้วย?
“ค่ะ ตอนนี้ก็มีธุรกิจส่วนตัว พอกระแสดี เราก็เริ่มทำร้านอาหารต่อ และช่วยธุรกิจที่บ้านด้วย นอกจากนี้ก็เล่นดนตรีไทย เพราะที่บ้านอยากให้เราเรียบร้อย (ยิ้ม) แต่พอไปอยู่เมืองนอก เราก็อยากออกนอกกรอบ จนกลับมาเมืองไทย แม่ก็พูดว่าฉันเลี้ยงเธอแบบลูกปลาวาฬ คือปล่อยลงไปในทะเล ว่ายๆไปไกล สักวันนึงลูกมันจะว่ายกลับมาเอง มันจะเก่งขึ้นมาเอง แต่พอเธอกลับมา เธอกลับมาเป็นปลาฉลาม ฉันรู้สึกปล่อยผิดตัวไปเลย (หัวเราะ) เราไม่ได้ทำตัวเป็นเลดี้ อะไรแบบเป็นเลดี้แล้ว แต่กลับทำอะไรที่เอ็กซ์ตรีมเกินไป ในส่วนของยูทูบก็เพิ่งเริ่มทำ เพราะเราอยากให้ทุกคนรู้จักไลฟ์ สไตล์ของเรา เราอยากแชร์ในเรื่องที่เราได้เจอมา ถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์”.
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่