ถึงจะงานยุ่งแค่ไหนก็ไม่พลาดมีโมเมนต์วันวาเลนไทน์สุดหวานกับแฟนสาว “ดรีม–อภิชญา พานิชตระกูล” หนุ่ม “มีน–พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” มีดอกไม้ช่อใหญ่มอบใหญ่พร้อมป้ายไฟสุดน่ารัก เจอ มีน งานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ ร่วมเปิดหน้ารับความฮาสยองครั้งใหม่ใน “พี่นาค 4” ณ ลาน Infinicity พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เลยถามถึง

วาเลนไทน์หวานฉ่ำ? “ภายใต้ความหวานมันลำบากมาก ผมออกกอง ดรีมก็ออกกอง แล้วไม่รู้ว่าจะทำยังไง เพราะไม่รู้เลยว่าเวลาออกกองจะเสร็จกันกี่โมง เวลาเราทำงานเราจะเทกคิวให้กับกองละครเลยบางทีมันถึงสี่ทุ่ม เลยจองร้านที่ใกล้โลเกชันที่สุด เผื่อเวลานิดนึงไปทันเวลาพอดี” รอดมั้ย? “รอด ทุกอย่างมันฉุกละหุก ดอกไม้คือวินาทีสุดท้ายเลย”

เป็นไปตามแผนมั้ย? “ไม่มีแผนอะไรเลย (หัวเราะ) เอาว่าดีที่สุดในตอนนั้น” ดรีมรู้ตัวมั้ย? “ไม่รู้ แต่ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร เป็นการนัดไปกินข้าวกันอยู่แล้ว ส่วนดอกไม้ก็คือสั่งมาทีหลัง” เค้าชอบมั้ย? “ดีเลย ชอบเพราะปกติไม่ค่อยหวานกันเท่าไหร่”

...

แต่ละปีต้องแพลนเยอะมั้ย? “วาเลนไทน์เรามองเป็นเรื่องปกติมากกว่า เพราะว่าเรายังคุยกันเลย ปกติเราไม่ชอบตรงวันด้วยซ้ำ เพราะว่าถ้าทำงานก็ไปทำงานก่อนได้ไม่ซีเรียส ค่อยมาทีหลังก็ได้” เค้าให้อะไรเรา? “เราได้อะไรไม่ได้เลย แต่ไม่ได้ทวงเพราะว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับวันเกิดซะส่วนใหญ่ ส่วนวันวาเลนไทน์ไม่ได้จัดเต็มสักเท่าไหร่”

แต่บอกรักไปแล้ว? “อุ๊ย ไปแอบได้ยินมาจากไหน (ยิ้ม) คนมีความรักก็เป็นเรื่องปกติ” แต่ความรักเราก็เรื่อยๆ? “ใช่เรื่อยๆ ไม่เร่งรีบค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆอีกนาน” วาเลนไทน์ปีที่เท่าไหร่แล้ว? “3-4 ประมาณนี้ ประมาณ 4 สัมภาษณ์ครั้งนี้วัดใจอีกแล้วว่าจำได้มั้ย คือจริงๆ จะเอางานไว้ก่อน ถ้าเกิดวาเลนไทน์มีงานเราจะไปรับงาน ยกเว้นวันเกิด แต่วันเกิดเราทำงานเราก็ทำได้ จะก่อนหน้านั้นหรือหลัง จากนั้นเราค่อยมาย้อนหลังกัน”

เงินสำคัญ? “เรียกว่าความรับผิดชอบต่องานดีกว่า” ยังไม่ต้องลุ้นข่าวดี? “ไม่ลุ้นๆ ถามว่ากี่ปีก็อย่าเพิ่งเลย พูดไปจะเป็นห่วงรัดตัวเองเปล่าๆ ขอเป็นปั๊บปี้เลิฟ” อัปเดตเรื่องคุณแม่หน่อยเป็นยังไงบ้าง? “ดีขึ้นมาก ล่าสุดไปเที่ยวเชียงใหม่เพิ่งกลับมา อาการดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวไปรีเช็กนิดหน่อย คือเจอก้อนเนื้อร้ายที่ตับ โชคดีที่ผ่าตัดไม่ต้องให้คีโม คือเจอระยะเริ่มเลย โชคดีมากที่ไม่เป็นอะไร คือจริงๆ ญาติป่วยเลยกังวลไปตรวจบ้างและเจอเลย คือตอนแรกตรวจค่าตับมันขึ้น เราเผื่อใจกันไว้แต่ว่าสุดท้ายมันเป็นจริงๆ ถือว่าโชคดีที่เจอเร็ว เจอระยะเริ่มยังส่องกล้องได้ไม่ต้องให้คีโม แต่เดี๋ยวไปรีเช็กอีกที”

พอได้ยินว่าเป็นเนื้อร้ายเราหดหู่ใจมั้ย? “มันก็คือมะเร็ง แต่หมอพูดให้เรารู้สึกดีขึ้นว่าเป็นเนื้อร้าย คุณแม่ก็คงไม่สบายใจเท่าไหร่ แต่เราก็พยายามให้กำลังใจเค้า คุณพ่อพยายามทำให้แกไม่เครียด ก็ชวนคุยว่าเดี๋ยวรีบผ่าตัดให้หายแล้วไปเที่ยวกัน พอแกหายกลับมาดีขึ้นก็อยากไปเที่ยว อยากไปใช้ชีวิต ก่อนหน้านี้ปกติแม่จะไม่ยอมไปไหนไกลๆ เลย พอรู้สึกว่าตัวเองหาย ควรออกไปใช้ชีวิต แล้วดีขึ้นมากแต่ตอนนี้เป็นโรคกระเพาะเพิ่มขึ้น ก็ต้องรักษาต่อ ช่วงนี้ก็คือจะต้องรีเช็กกับหมอเรื่อยๆ ทุก 3-6 เดือน”

เราต้องเข้มแข็งยังไงบ้าง? “เรารู้สึกว่าถ้าเราเสียใจคนที่เค้าอยู่กับเราจะได้รับความเสียใจไปด้วย เราเลยมองในแง่ดีอย่างเดียวว่าโชคดีที่เจอในระยะนี้ เพราะคนปกติกว่าจะแสดงอาการก็ระยะที่ยากจะรักษาแล้ว โชคดีที่เจอระยะนี้ รีบรักษา รีบหาย แม่ไม่ได้กลัวว่าจะเป็นมะเร็ง แต่กลัวว่าต้องให้คีโม ผ่าตัดหรือทำอะไรที่มันยืดเยื้อ โชคดีที่ไม่ยืดเยื้อ”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

...