ทำเอาแฟนๆ ถึงกับตกใจไม่น้อย เมื่อได้ฟังเรื่องราวของนักแสดงรุ่นใหญ่ ชลิต เฟื่องอารมย์ ที่มาแชร์ประสบการณ์เฉียดตายของตัวเองในรายการ แฉ เรื่องสุขภาพจากแข็งแรงดีแต่อยู่ๆ กลับเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ว่า
อยู่ที่สวนตลอด ไปคุมสวนทุเรียน ตัดทุเรียนเอง จู่ๆ เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง รู้สึกตัว แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โทรศัพท์ยังหยิบไม่ได้ ใจอยากโทรบอกให้มาช่วยหน่อยจะตายอยู่แล้ว
ก่อนจะเล่าต่อว่า นอนอยู่กับพื้นกระเถิบๆ ก็ไม่ได้ มันไม่มีแรง อยู่ดีๆ ก็ไม่มีแรง ไม่มีสาเหตุ มันเป็นไปอย่างนั้น เรามานอนตรงไหนเรายังไม่รู้ เหมือนลอยอะ เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ เมื่อเดือนกรกฎาคม อยู่ที่สวนที่จันทบุรี อยู่คนเดียว มีคนงานอยู่แต่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเรา มีอะไรจะโทรศัพท์เรียก จะใช้งานก็โทรศัพท์อย่างเดียว
ตอนเกิดอาการเราทำอะไรไม่ได้ มารู้สึกตัวโอ๊ย..เป็นอะไรเนี่ย จะตายไหมเนี่ย หรือเราตายไปแล้ว หรืออะไร คือทำอะไรไม่ได้เลย ตอนเข้านอนปกติ ตื่นเช้ามาก็ปกติ เดินชั้นบนลงมาข้างล่าง แล้วอยู่ดีๆ มันหายไปอย่างนั้น เหมือนคนโดนตัดสวิตช์ตัวเอง พยายามช่วยตัวเอง พยายามติดต่อคนนั้นคนนี้ ทำไม่ได้ แค่เปิดประตูล็อกยังไม่ได้ มันยกมือไม่ขึ้น
...
นอนอยู่กับพื้นตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนกระทั่งเที่ยง ครึ่งวัน มีคนจากข้างนอกมาดูที่สวน เขาเอ๊ะทำไมคุณชลิตไม่ออกมาสักที เลยมาดูที่บ้าน โชคดีที่ประตูนึงไม่ได้ล็อก พูดได้แต่ทำอะไรไม่ได้ บอกเขาไปเปิดเข้าประตูหลัง เขาเลยเข้ามาช่วยได้
ระหว่างนั้น 6 ชม. ที่ต้องนอนอยู่กับพื้น ชลิต ก็เล่าว่า เหมือนลอย เหมือนจิตมันออกไปข้างนอกจากตัวเรา ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ไปไหน แม้กระทั่งไปถึงโรงพยาบาลยังไม่รู้ อึฉี่แตกยังไม่รู้เลย ทำอะไรไม่ได้ เขาบอกพี่ตุ่มไปโรงพยาบาล แย่แล้ว ก็บอกไม่ไป
ด้าน น็อต วรฤทธิ์ ลูกชาย ก็บอกว่าลูกๆ ไม่มีใครรู้เรื่อง นี่ก็เพิ่งรู้นะ พูดตรงๆ เขาไม่เล่าให้ใครฟังเลย ทุกคนในครอบครัวเพิ่งรู้ดีเทลทั้งหมด เพิ่งรู้เพิ่งฟังจากปาก ถามก็ไม่บอกอะไร บอกแต่ไม่เป็นไร เรารู้วันนั้นเลย คนงานโทรหาว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลนะ เป็นอะไรไม่รู้ เรากำลังทำงานอยู่ก็ตกใจ ขอคุยกับหมอ ก็อารมณ์หมออะ จะพูดในแง่ร้ายตลอดเราก็ใจคอไม่ดี พ่อจะเป็นอะไรหรือเปล่า
ชลิต เล่าต่อว่า หมอก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร สาเหตุมาจากไหน แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ยังไม่บอก ก่อนที่ มดดำ คชาภา จะเสริมขึ้นมาว่า เขาบอกธาตุแตก เออ วันที่เกิดเหตุเขาก็พาเราไปอาบน้ำ แล้วก็ไปส่งโรงพยาบาล โดยที่เราก็ลอยไป ไปหาหมอก็ไม่รู้เรื่องยังเบลออยู่เลย
จากนั้น น็อต ก็พูดว่า คาดว่าน่าจะเกิดจากบาดแผลตอนไปทำสวน ชลิต ก็อธิบายต่อว่า ภาษาชาวบ้านเขาเรียก ไฟลามทุ่ง ไม่รู้เป็นมาวันนั้นตอนนั้นหรือเปล่า หรือเป็นมาก่อน และมดดำก็เสริมว่า ติดเชื้อในกระแสเลือดแน่นอน นี่ไง ก่อนจะเปิดแผลที่ขา มันเป็นเหมือนไฟไหม้ แต่ไม่เจ็บไม่ปวด แล้วแผลนี้เพิ่งรู้ตอนไปโรงพยาบาล เรามองไม่เห็นเป็น ตุ่มๆ พองๆ หมอจับล้างขา ทำให้พองๆ แตก แล้วอยู่สภาพนี้ 3 เดือนแล้ว ยังเป็นแบบนี้อยู่เลย
ทั้งนี้ น็อต ก็เล่าต่อว่า โทรคุยกับหมอตลอด หมอก็กำกวม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่บอกติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เกิดจากอะไร สาเหตุอะไรก็บอกยังตรวจสอบไม่ได้ว่าติดจากตรงไหน
ชลิต ยังบอกต่อว่า เขาอ้างว่าเราเดินสวนบ่อย ฉีดยาฆ่าหญ้า ฉีดยาฆ่าแมลง แล้วไม่ได้ใส่บูต ไม่ใส่ถุงเท้า เศษเคมีต่างๆ ที่ติดใบหญ้ามาโดนขาเรา แต่ไม่มีอาการปวด คัน เจ็บแสบ ไม่มีอาการอะไรเลย ก็นอนอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือน แล้วอยู่โรงพยาบาลก็เหมือนหัวใจหยุดเต้นบ้าง อะไรต่ออะไร เราแทบไม่รู้สึกตัว หลังจากรักษาแล้วทำทุกอย่างก็ดีขึ้นตามลำดับ ออกรพ.แล้วที่เคยสูบบุหรี่วันละ 2 ซองก็ไม่สูบ กาแฟก็ไม่ดื่ม งดหมดเลย
ติดตามไทยรัฐบันเทิงได้ที่ thairath.co.th/entertain