เป็นหนุ่มฮอตอันดับท็อปๆ แต่กลับไม่ค่อยได้พบเจอสื่อ ล่าสุด ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี มางานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรก ของ เม็ดอม ซิงค์ พลัส เลยได้เปิดใจทั้งเรื่องกำลังจะหมดสัญญากับค่าย GMM TV และความสัมพันธ์กับผู้จัดการที่มีการเปลี่ยนคนแล้ว
“ช่วงนี้ผมถ่ายหนังอยู่ครับ เรื่อง The Interest แล้วมันก็มีคิวบู๊เยอะ อันนี้ก็เจ็บตอนถ่ายคิวบู๊ครับ เจ็บขอข้อเท้าขวาครับ เหมือนขาพลิก ก็เพิ่งจะ 2 วันที่แล้วครับ ก็กะเผลกๆมานิดหน่อย ยังไม่ได้ไปหาหมอครับ คือที่กองเขาก็จะมีพี่ๆพยาบาลที่คอยเซฟอยู่แล้ว วันแรกบวมเป็นลูกมะนาวเลย ลงน้ำหนักไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ก็เริ่มที่จะกะเผลกๆมาได้แล้วครับ เขาไม่ได้ลงรายละเอียดว่าอีกกี่วันถึงจะหายครับ เขาแค่บอกว่า 24 ชั่วโมงแรกประคบเย็นนะ แช่น้ำอุ่น ก็คงจะต้องตามอาการไป ไม่ใช้มันเยอะ ก็โอเคอยู่ ช่วงนี้เจอเรื่องเยอะก็เป็นสีสันของชีวิตครับผม”
ถามถึงความสัมพันธ์กับผู้จัดการ?
“ถ้าให้พูดจริงๆความสัมพันธ์ของผมกับผู้จัดการ ก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันนี่แหละครับ เป็นศิลปินกับผู้จัดการ แล้วในเรื่องที่คนเข้าใจผิดกัน ผมยืนยันได้เลยว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดแน่นอนครับ ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ คือผมเป็นคนที่ไม่ว่าจะผู้จัดการหรือทีมงาน ไม่ว่าจะในธุรกิจส่วนตัวผมเอง หรือว่าทีมงานที่เราทำงานกันในพาร์ตบันเทิง ผมไม่เคยจะต้องมีระยะห่างว่าฉันเป็นศิลปินนะ คุณเป็นคนทำงานนะ ผมมองว่าทุกคนเป็นเพื่อนเป็นครอบครัว เพราะฉะนั้นเราก็สนิทกันอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการหรือว่าเป็นทีมงาน”
ตอนนี้เปลี่ยนผู้จัดการมั้ย?
“ไม่ได้เชิงเปลี่ยนผู้จัดการครับ จริงๆตอนนี้ผมกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงใหม่ของชีวิต ผมกำลังจะออกมาทำบริษัทของตัวเองครับ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับบันเทิงนี่แหละ คอนแท็กที่ผมเปลี่ยนในไอจีก็จะเป็นคอนแท็กทีมใหม่ของผม คือตอนนี้เราเซตทีมขึ้นมาแล้ว อย่างพี่แอ้มที่เห็นไอจีผมก็เป็นคนของทีมใหม่แล้ว”
...
คือไม่ต่อสัญญาค่าย GMM TV?
“ครับ ผมหมดสัญญากับทาง GMM TV แล้ว ตอนนี้ก็กำลังจะเริ่มออกมาทำเองแล้ว เหลืออีก 2 วันสัญญาจะหมดแล้วครับ จริงๆก็ต้องขอบคุณ GMM TV นะครับ ขอบคุณพี่ถา (สถาพร พานิชรักษาพงศ์) มากๆ คือถ้าไม่มี GMM TV ไม่มีพี่ถา ก็คงไม่มีไบร์ท-วชิรวิชญ์ ในวันนี้แน่นอน ก็ต้องขอบคุณที่ให้โอกาส ให้ประสบการณ์ผม ในตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้ผมก็ตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป แล้วก็ทำงานดีๆมาให้ทุกคนติดตามครับ”
ตัดสินใจนานมั้ย?
“นานครับ ผมว่ามันเป็นก้าวใหญ่ของชีวิต แต่ผมรู้สึกว่าในวัย 26 ปี ผมอยากขยับสเต็ปไป นอกจากที่จะเป็นแค่ศิลปิน ผมอยากที่จะทำค่ายของตัวเอง เป็นเหมือน อาร์ติสต์ เมเนจเมนต์ แล้วเราก็ตั้งใจที่จะทำเป็นค่ายเพลง”
เตรียมขึ้นแท่นท่านประธาน?
“ใช่ครับ (ยิ้ม) รู้สึกว่ายิ่งเราได้เริ่มทำตอนที่เรายังเด็ก ยังมีไฟ มันเป็นก้าวที่ดีในการที่จะทำในช่วงวัยนี้ ในช่วงแรกมันคือช่วงเซตระบบ โดยการที่มีผมเป็นศิลปินก่อน แต่หลังจากนี้มันเริ่มที่จะลงตัวขึ้น เราก็จะเริ่มดูแลศิลปินคนอื่นๆด้วยครับ”
หลังวันที่ 21 ส.ค. จะเป็นอิสระเต็มตัว?
“เป็นอย่างนั้นครับ แต่ก็จะสามารถร่วมงานได้กับทุกๆคน ทุกๆค่ายเลยครับ ทางค่ายมีข้อเสนอให้เราเหมือนกันครับมีคุยกันตลอดครับ แต่ว่าด้วยผมรู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่เรื่องทิศทางของตัวเองแล้ว แต่มันเป็นเรื่องที่เราอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย การออกมาทำตรงนี้มันก็เลยเป็นก้าวใหม่มากกว่า ผมรู้สึกว่าอยากจะทำไปนานๆ เป็นธุรกิจอยู่กับตัวผมไป”
ถามถึงถ่ายแบบแซ่บกับ CK?
“ถ่ายมาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน เป็นโปรเจกต์ลับที่เก็บเป็นความลับสุดๆ ต้องบินไปถ่ายที่เกาหลีใช้กองเกาหลีเลย แล้วทุกคนเก็บความลับกันมากๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยากให้ปล่อยแล้วทุกคนเซอร์ไพรส์ ส่วนที่คนฮือฮาว่าไม่เคยเห็นถอดขนาดนี้ ผมว่ามันก็เหมาะสมกับชิ้นงานครับ รู้สึกว่า CK เป็นแบรนด์ที่เขาขายกางเกงใน มันก็ต้องโชว์ตามสินค้า ผมโอเคนะ ผมรู้สึกว่ามันอยู่ถูกที่ถูกทาง ด้วยชิ้นงาน ด้วยมู้ดแอนด์โทน ก็ไม่แปลกที่จะเป็นการถ่ายในสไตล์นี้ ส่วนตัวก็ชอบมากๆครับ จริงๆมีรูปที่สวยๆ อีกเต็มเลย”
...
ได้ยินว่ามีรูปที่ยิ่งกว่าที่ปล่อยออกมาอีก?
“คือชีวิตนี้ผมคงจะไม่ถอดกางเกงยีนส์ถ่ายขนาดนั้น คิดว่าน่าจะอยู่แถวๆนี้แหละ (ยิ้ม) ช่วงนั้นก็ต้องฟิตเยอะขึ้นครับ ใช้เวลา 2 อาทิตย์ในการคุมอาหาร ออกกำลังกายให้รูปร่างมันดีขึ้น คือมันไม่ใช่แค่เรื่องของ CK แต่ว่ามันมีหนังที่ถ่ายด้วย ที่ต้องการหุ่นประมาณนี้ ก็เลยเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไปเลยครับ”.