เจอมรสุมชีวิตอย่างหนักสำหรับ แอนนา วรินทร วัตรสังข์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่ตกเป็นข่าวร้อน ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยเป็นคดีความเกี่ยวกับธุรกิจอาหารเสริมและธุรกิจของเจ้าตัว โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งยังมีคดีความอีกหลายท้องที่ มูลค่าความเสียหายนับสิบล้านบาท ซึ่งในเวลานี้แอนนาตกเป็นหนี้จำนวนมาก

ล่าสุด แอนนา วรินทร ถ่ายแบบพรีเซนเตอร์กาแฟ “D-NIE Thailand ณ Shoot Dee Studio ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม นักข่าวเลยอัปเดตชีวิตหลังเจอมรสุม ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าตอนนี้มีปัญหาค้างเงินเดือนพนักงาน พร้อมทั้งประกาศจะขายบ้าน อีกทั้งเผยว่าตอนนี้มีหนี้นับร้อยล้าน และคิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีถึงจะหมด

พร้อมทั้งเผยเรื่องแปลก แมวของเพื่อนซี้ แตงโม นิดา หายออกจากบ้าน แต่พอไปบอกต่อหน้ารูปโมให้ช่วยตามหาก็เจอแมวพอดี และเจอเหตุการณ์แปลกๆ ได้ยินเสียงคนเรียก เสียงเคาะประตู เสียงร้องไห้ แต่ออกมาไม่เจอใคร ก่อนจะรู้จากนักข่าวว่ารูปแตงโมที่ท่าเรือถูกเก็บออกไปแล้ว

...

ถามถึงมรสุมชีวิตช่วงนี้ดูเบาลง?

“ไม่เบาเลยค่ะ เมื่อวานเพิ่งร้องไห้ คือเมื่อวานน้องๆ ในออฟฟิศไม่ได้มาทำงานตอนบ่ายโมง แต่เป็นความเข้าใจผิด เราก็ร้องไห้ เรารู้ว่าน้องสร้างกลุ่มไลน์ขึ้นมาคุยเรื่องเรา เราประกาศตรงนี้เลยแล้วกันว่า เราจะขายบ้านทุกหลังที่มีอยู่ ซึ่งอาจมีส่วนต่างเล็กน้อย 1-2 ล้าน เรามีบ้าน 2 หลัง บ้านที่รามฯ คือบ้านพุดเดิ้ล ส่วนบ้านที่ประชาชื่นคือบ้านแอนนา 2 หลังนี้จะมีส่วนต่าง

คือเราซื้อมารีโนเวทและปรับปรุง ช่วงปรับปรุงน้องๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเราเอาเงินไปปรับปรุงบ้านแต่ไม่จ่ายเงินเดือน ซึ่งจริงๆ เราจ่ายเงินเดือน แต่เราผ่อนจ่าย แต่เราผิดเองด้วยแหละที่เราไม่จ่ายเงินเดือนน้องเป๊ะๆ เมื่อวานก็เกิดเหตุการณ์ เราน้อยใจตัวเองว่าพอเราจ่ายไม่เป๊ะ เขาไม่มาทำงานให้เราหรือเปล่า

แต่จริงๆ เราไปนครนายก แล้วเขาเข้าใจว่าเราค้างที่โน่นแล้วไม่กลับบ้าน ก็เลยไม่มาทำงานทั้งออฟฟิศ พอกลับมาบ้านแล้วเจอคนไม่อยู่เลยสักคน เราก็ร้องไห้ ไลฟ์สดรับพนักงานใหม่ ซึ่งเราคุยกันตอนหลัง จริงๆ เราใช้อารมณ์ตอนนั้นด้วยแหละ”

เราค้างเงินเดือนพนักงานเท่าไร?

“คนละหมื่นกว่าบาทค่ะ เดือนเดียว”

พอเขากลับมาเราได้เคลียร์กันไหม?

“ปกติเรื่องเงินเดือนเราจะไม่ค่อยค้างนะ เพราะเรารู้ว่าทุกคนต้องใช้เงิน แต่แอนนาจะบอกว่าเดือนที่ผ่านมาแอนนามีการเยียวยาผู้เสียหายไปบ้าง ในจำนวนที่เยียวยาไปแล้วทั้งหมดตอนนี้ประมาณ 10 กว่าล้าน ซึ่งทำให้เราชักหน้าไม่ถึงหลังจริงๆ ค่ะ รุ่นน้องก็ออกไปคนนึงแต่ไม่ได้ออกเพราะว่าไม่ได้เงินเดือน แต่ออกเพราะเขารู้สึกว่าเขาช่วยเราจนถึงฝั่งฝันแล้ว เราไม่ต้องไปอยู่ในคุกตารางแล้ว เขาเลยมองว่าวันนี้แอนนาลุกขึ้นได้แล้ว ทำงานหาเงินคืนผู้เสียหายได้แล้ว เขาก็เลยออกค่ะ”

ในการคืนเงินผู้เสียหาย เราคืนอย่างสม่ำเสมอ?

“คือเงินผู้เสียหาย เราเล่าให้ฟังตรงๆ ว่าแอนนาคืนไม่สม่ำเสมอ บางวันไม่มีสักบาท อย่างเมื่อวานแอนนาเอาโทรศัพท์ไปขายเพื่อคืนเงินผู้เสียหาย เมื่อวานแอนนาไม่มีเงินคืนผู้เสียหาย เราไม่มานั่งบอกว่าเราไม่มีตังค์ เราก็ทำได้เต็มที่ว่าเออ เอาโทรศัพท์ไปขาย แล้วโอนให้เขา โอนมากน้อยอย่างน้อยก็ได้โอน”

ยังมีผู้เสียหายบางส่วนที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพยายามไหม?

“20% ไม่เข้าใจ อีก 80% เข้าใจ”

เวลาคนมาคอมเมนต์ว่าเรา เรารู้สึกยังไงบ้าง?

“เราก็ไม่ไลฟ์เลย 3-4 วันเพราะว่าเราดาวน์ คือเรามีอาการทางจิตอยู่แล้ว เรามีอาการป่วย ดังนั้นพอเจออะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าดาวน์มากเลย เดี๋ยวให้ดูรูปแล้วกันค่ะ เราร้องไห้แต่บางทีคนคิดว่าเราร้องปลอม ถ่ายให้ดูแบบไม่อายว่าเราร้องไห้จริงๆ เราไม่มีความจำเป็นต้องโกหก (โชว์รูปที่ร้องไห้)”

ค้างเงินอยู่กี่คน?

“ทุกคนค่ะ ค้างคนละหมื่น เงินเดือน 3 หมื่น ค่าคอมมิชชั่นแยก ค่าคอมฯ บางคนก็ค้างอยู่เยอะ หลักแสนค่ะ”

...

ถามถึงเรื่องบ้าน?

“ล่าสุดแอนนาเอาแมวมาอยู่บ้านตัวเองแล้ว บ้านที่ประชาชื่นก็ขาย ตอนนี้ก็อยู่ประชาชื่น แต่เราเหมือนจะอยู่ไม่ได้แล้ว ด้วยเพราะว่าเราโดนบุกถึงบ้านทุกวัน แต่ช่วงนี้ไม่โดนแล้วนะ ที่ขายคือมี 2 ส่วนค่ะ ขายเพราะว่าบ้านไม่ใช่บ้านแล้ว เราเคยรู้สึกว่าบ้านปลอดภัย แต่พอมีคนเข้ามาไม่ได้บอก เรารู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยเลย บางทีมีคนมาหาแบบไม่ได้นัดไว้ ถ้าคนนัดไว้ไม่เป็น แต่บางคนไม่ได้บอก แล้วพอมาดึกๆ ก็ตกใจ ดึกที่สุดก็ 4 ทุ่มกว่า”

ตอนนั้นเคยให้สัมภาษณ์ว่าให้มาก่อน 6 โมงเย็น?

“ก็มีแค่เคสเดียว เขาอาจไม่ได้ดูข่าว”

มีเคสไหนที่น่ากลัวมากๆ ไหม?

“เอาปืนวางค่ะ ส่งรูปปืนเข้ามาในกลุ่มแล้วบอกว่าเดี๋ยวผมจัดการเองให้มันจบๆ ก็แคปไว้อยู่ค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งความเพราะเราเป็นลูกหนี้ ต่อให้เจ้าหนี้มาจ่อขมับแล้วยิงก็ให้เขายิงเถอะค่ะ”

ตอนนี้หนี้ลดลงเท่าไรจากเดิม?

“คือเราตั้งใจทำงานทุกวันเพื่อใช้หนี้ แม้กระทั่งวันนี้เราก็ยังทำงาน แม้มันจะเหนื่อยมากขนาดไหนแต่เราตั้งใจทำงานทุกวัน เพื่อใช้หนี้ให้หมด”

...

หนี้น่าจะหมดภายในกี่ปี?

“หนี้ตอนนี้มันร้อยกว่าล้านแล้วค่ะที่เรานับกันมาได้ ดังนั้นคิดว่าน่าจะใช้เวลา 2 ปี”

กลัวคนมองว่าขายบ้านหนีเจ้าหนี้ไหม?

“ไม่ค่ะ เพราะว่าขายบ้านไปเจ้าหนี้ก็รู้อยู่ดีว่าไปอยู่บ้านหลังไหนต่อ”

วางแผนยังว่าจะไปอยู่ที่ไหนยังไง?

“ยังไม่มีเงินที่จะไปวางแผน ยังไม่มีเงินจะไปเช่าอะไรใหม่ทั้งนั้นค่ะ แม้ได้พรีเซนเตอร์มา เงินพรีเซนเตอร์ที่ได้มาก็โอนให้ลูกค้า”

ยืนยันไม่หนีไม่หายไม่ตายแน่นอน?

“ไม่หนี ไม่หาย ไม่ตาย ไม่รู้ ไม่รู้คือไม่รู้ว่าตายหรือไม่ตายค่ะ เพราะว่าคนเรามีจุดรับไหว”

ได้ปรึกษาครอบครัวไหม?

“ไม่มีใครให้ปรึกษาหรอกค่ะ มีแค่แม่ แต่เราไม่ได้เล่า ยิ่งเล่ายิ่งดาวน์ทั้งบ้าน แล้วแฟนก็ไม่ได้เล่าเพราะเราเลิกกันนานแล้ว ใครที่แอนนาปรึกษาได้บ้างล่ะ ไม่มี เอาจริงๆ เพจคุณท้าวที่เขาด่าเขาตีทุกวัน เป็นเพจเดียวที่ปรึกษาเรื่องกฎหมาย นอกนั้นเราไม่มีใครให้ปรึกษาเลย”

...

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขจริง?

“เป็นตัวเลขที่ยังไม่ได้ลบกำไรที่เขาได้ไปค่ะ”

มันไม่เยอะเกินไปเหรอสำหรับเราคนเดียว?

“ไม่เยอะค่ะ เพราะแอนนามียอดขายสูงสุดต่อเดือน 30 ล้าน แต่แอนนาขาดทุนเพราะแอนนาไม่ได้ทำบัญชี ถ้าสรรพากรมาดูจะเห็นเลยว่าขาดทุนค่ะ”

หลังจากนี้วางแผนชีวิตยังไงบ้าง?

“ก็ทำงานทุกวันเลย ไม่มีวันไหนที่ไม่ทำงานเลย ก็สู้มาตลอด ชีวิตแอนนาเคยแม้กระทั่งไปทำงานเมืองนอกเพื่อใช้หนี้รายวันให้ที่บ้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ต้องเอาตัวเข้าไปแลก แค่ต้องใช้พลังใจเยอะ และก็กำลังใจมากๆ มันก็จะหมด”

คิดว่าที่เกิดเรื่องแบบนี้เพราะอะไร?

“เพราะประมาทค่ะ ถ้าเราไม่ประมาทป่านนี้เราก็รอดแล้ว”

ได้ไปเช็กดวงไหม?

“ไม่ได้เช็กเลยค่ะ ไม่ใช่ไม่เชื่อเรื่องดวงนะ ไม่เชื่อว่าถ้าไปดูหมอแล้วหมอบอกว่าพรุ่งนี้จะหมดหนี้แล้วจะหมด คือยังไงเราก็ต้องทำงานอยู่ดี กลัวว่าถ้าดูดวงแล้วหมอบอกว่าจะหมดภายใน ธ.ค. แล้วเราไปหวังและทำงานน้อยลง พอไม่ได้มันก็จะเฟล”

เรื่องบ้านเตรียมจะขายแล้ว?

“ก็ประกาศตรงนี้เลยแล้วกัน ถ้ามีใครสนใจบ้านที่ประชาชื่น หมู่บ้านเศรษฐสิริ ก็ขายค่ะ ตั้งไว้ 15 ล้านค่ะ ติดแบงก์อยู่อีก 10 กว่าล้าน แต่ยังเหลือส่วนต่างบ้างก็ยังเอา”

เห็นว่าจะไปออดิชันงานเดินแบบอีกรอบ?

“ก็ต้องพูดตรงๆ นะคะว่าการไปเดินแบบมันไม่คุ้มหรอก แต่รอบนี้จะ economy ไป แต่งหน้าเอง ออดิชันเอง ถ้าได้ก็ได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ค่ะ ที่ตามฝันอีกครั้ง คืออย่างน้อยช่วงเดินแบบปีที่แล้ว เราขายของได้วันละหลายพันบ้าง เพราะคนที่เขากลับมาศรัทธาเราก็มี เราเลยคิดว่าการทำงานตามความฝันเราก็ไม่เสียหายอะไร และก็อยู่ที่ดุลยพินิจด้วยว่าเจ้าหน้าที่จะให้เราออกไปทำงานหรือเปล่า (หมายถึงไปต่างประเทศ?) ใช่ค่ะ”

เราต้องยื่นเรื่องไปที่ไหน?

“ตำรวจค่ะ”

ถ้าเราได้ไปก็ต้องเอาหน้าอกออกอีกไหม?

“ไม่ต้องค่ะ แค่รักษาหุ่นให้ดี ลดน้ำหนักให้ได้”

เราต้องยื่นโปรไฟล์ให้เอเจนซี่เก่าอีกไหม?

“เรายื่นหุ่นไปแล้ว หุ่นเราไม่ผ่าน เราไปเสริมหน้าอกมาค่ะ เปลี่ยนหมดเลย แต่หน้าเขาไม่ซีเรียส เพราะโครงยังมีความเหมือนเดิม เขาซีเรียสอย่างเดียวแค่เรื่องหน้าอกที่ใหญ่กว่าสะโพก ก็ต้องลดลงให้เอวเล็กที่สุดค่ะ เรื่องไปแคสต์ไม่กลัว กลัวตำรวจบอกว่าไม่ให้ออก หรือให้ออกแต่ต้องวางเงิน ซึ่งเราไม่มีเงินมาวางหรอกค่ะ”

ทางเขารู้เรื่องคดีไหม?

“รู้ค่ะ คือตำรวจเขาต้องการเอกสารอยู่แล้ว เราก็เอาจดหมายให้เขาดูว่ามันจะมีจดหมายแบบนี้มา (เหมือนเป็นใบรับรอง?) ใช่ค่ะ”

ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?

“คิดว่าโอกาสได้ไปน้อย แต่ถ้าไม่ได้ไป เดินในไทยก็ได้นะ ถ้าแบรนด์ไหนจะให้เดินก็เดิน”

ที่ว่าจะไปคือประเทศไหน?

“ขอไม่เล่าดีกว่า เพราะเคยไปอเมริการอบนึงแล้วเข้าไม่ได้ ถ้าจะได้ไปก็คงแค่ 2-3 วัน ไปเดินแล้วกลับเลย น่าจะประมาณ ก.ย. ค่ะ”

ถามถึงเรื่องแมวของแตงโมหายออกจากบ้านเมื่อวาน?

“แมวชื่อแบมบี้หาย หายไปบ่ายโมงกว่าๆ แล้วเราเดินหากัน 5 ชม. ไม่เจอ เดินไปบอกที่รูปโมแล้วบอกว่าโม ไม่ไหวแล้วนะ ใจเสียหมดแล้วนะ หาแมวให้หน่อยสิ เดินออกจากบ้านเจอแมวเลยค่ะ แมววิ่งเข้าบ้านเองเลย ปกติแบมบี้ไม่ชอบออกนอกบ้าน อยู่ๆ ก็หายไปแล้วก็กลับมาแล้ว”

มันก็ตรงกับเหตุการณ์ที่เมื่อวานเขาเก็บรูปแตงโมที่ท่าเรือไป?
“(หน้างง) เหรอ ไม่รู้ เก็บหมดเลยเหรอ เสียใจอะ คอนเทนต์เหรอ”

ได้คุยกับแม่แตงโมบ้างไหม?

“คุย ก็คุยกับแม่ตลอด วันที่ขึ้นศาลยังให้กำลังใจแม่อยู่เลย แม่ยังบอกว่าให้เอาเสื้อผ้าโมไปขายก็ได้นะ แต่เราคิดว่าสภาพเราตอนนี้ถ้าขายคือทัวร์ลงแน่นอน ก็เลยไม่ได้เอาเสื้อผ้าโมมาขายเลย ก็เล่าได้เนอะเรื่องนี้ โมเป็นคริสต์เราขอโทษ (ยกมือไหว้)

เราไม่รู้เรื่องเก็บรูปโมนะ แต่ 3 วันมานี้มีคนมาเรียกหน้าบ้าน 3 วันละ 2 วันก่อนมีคนมาเคาะประตูบ้าน แต่ออกไปดูก็ไม่มีคน ดูกล้องวงจรปิดก็ไม่มีคน รอบแรกคือได้ยินเสียงคนพูดว่าแอนนาๆ รอบสองเสียงร้องไห้ รอบสามเคาะประตูบ้าน เป็นเสียงผู้หญิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ”

พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้คิดว่าเขายังอยู่ไหม?

“ก็เพิ่งมารู้เนี่ยว่าเขาเก็บรูปโมออกจากท่าเรือ แล้วเราเอารูปวางอีกได้ไหม ไม่ได้แล้ว? (นักข่าวบอกว่าแค่เอาดอกไม้ไปวางได้อย่างเดียว) เหรอ (คิดว่าเพื่อนยังวนเวียนอยู่ไหม?) เราเชื่อว่าโมอยู่บนสวรรค์ แต่เราเชื่อว่าโมก็คงทำใจยากกับเรื่องนี้ ไม่รู้อะ เรารับรู้อะไรบางอย่างได้ตลอด ไม่ใช่แค่เรานะ ฮิปโปก็ฝัน โม อมีนา ก็ฝันถึงนะ แต่เราไม่เล่ารายละเอียดแล้วกัน เดี๋ยวเล่าผิดแล้วทัวร์ลงอีก”

แสดงว่าเราคิดว่าแตงโมยังอยู่ ไม่ไปไหน?

“โมก็ต้องรอความยุติธรรมค่ะ”

เขายังมีความเป็นห่วง?

“เราเชื่อว่าเขาต้องรอความยุติธรรมให้ตัวเขาเองอยู่แล้ว แล้วเขาต้องช่วยแม่อยู่แล้ว”

เวลาเจอเหตุการณ์ในชีวิตตัวเราเอง เราเคยเล่าต่อหน้ารูปโมไหม?

“ไม่เอาเรื่องไม่สบายใจให้เพื่อนรู้ แค่เดินไปจับรูปเขาแล้วบอกว่าฉันโอเค เธอไม่ต้องกลัวนะ”.

คลิกเพื่ออ่าน “ข่าวบันเทิงวันนี้”