พอพูดถึงนักแสดงสาวหน้าตาน่ารักอย่าง แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ เราก็มักจะติดหน้าสลักหลังไปแล้วว่าน้องเป็นนักแสดงจากค่ายนาดาว บางกอก แต่เธอมาอัปเดตสถานะว่าตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระเป็นที่เรียบร้อย (ออกมาก่อนที่นาดาวบางกอกจะประกาศข่าวปิดตัวเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา) 

แพรวาเล่าถึงชีวิตการเป็นนักแสดงไร้สังกัด จากที่อยู่กับนาดาวมา 7 ปี ด้วยเหตุผลว่าอยากลองทำอะไรมากขึ้นกว่าเดิมโดยไม่ติดสัญญา เกรงใจผู้ใหญ่ที่คอยช่วยเหลือ และมีประสบการณ์ในการรับงานมากขึ้นแล้ว จึงไม่ได้มีอะไรที่น่ากลัวสำหรับเธออีกต่อไป 

"หนูไม่เคยลืมนาดาวเลยค่ะ เพราะถ้าไม่มีเขา หนูจะเป็นหนูอย่างทุกวันนี้ไม่ได้เลย หนูก็ยังจะเป็นเด็กที่อยู่ขอนแก่นที่ตอนนี้อาจจะขายข้าวแกงอยู่ ซึ่งเป็นการจากกันด้วยดีค่ะ อาจมีข่าวว่าสัญญาของนาดาวตึงมาก หนูบอกเลยว่า จากการที่หนูคุยกับเพื่อนๆ ที่อยู่ค่ายต่างๆ สัญญานาดาวไม่มีค่าฉีกสัญญา ถ้าบอกว่าตึงไม่น่าใช่นะคะ"

แถมแพรวายืนยันอีกเสียงว่านาดาวไม่มีสัญญาทาส ให้อิสระทุกอย่าง แม้กระทั่งการแสดงจุดยืนทางการเมืองด้วย

...

การแสดงวันแรก 

ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ เข้าวงการบันเทิงโดยการไปแคสต์ ฮอร์โมน เดอะ เน็กซ์ เจน หาคนมาแสดงในซีซั่นสอง เธอเล่าถึงประสบการณ์วันแรกที่ได้เข้าฉากแสดงสวมบทเป็นขนมปัง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

"คิวแรกในการแสดง หนูแสดงไม่ได้เลย ก็มีการเรียนการแสดงก่อนไปเข้าฉากนะคะ แต่พอเราเจอกล้องเยอะ เจอไฟเยอะ คนเยอะ รู้สึกว่าเกร็ง เราแสดงแต่ไม่ธรรมชาติเลย ตอนนั้นรู้สึกอยากถอนตัว ทำไมมันลำบากจังเลย เหมือนชีวิตตอนเราอยู่ขอนแก่นมันสบาย เราไม่ต้องมาลำบากแบบนี้
อยากถอนตัว แต่ลองโทรไปหาเพื่อนตอนมัธยมที่สนิทกัน เพื่อนบอกว่าให้คิดว่า เด็กวัยรุ่นตั้งมากที่อยากเข้าไปอยู่ตรงนี้ แต่มึงคือคนที่ได้โอกาสนี้ มึงควรจะสู้หรือเปล่า ถ่ายให้มันจบซีซั่นก่อนไหมว่ามันใช่ตัวเองหรือเปล่า พอฟังแบบนั้นด้วยความที่เราเป็นนักสู้ ก็เลยไม่ถอนตัว" 

แต่เมื่อแพรวาได้ลองสู้สุดใจ ปรับตัวได้ก็เริ่มเข้าใจการแสดงมากขึ้น และซีนที่ 'ต้าขอขนมปังเป็นแฟน' นั่นคือจุดเริ่มต้นของคำว่านักแสดงของแพรวาอย่างแท้จริง แต่ชีวิตวัยรุ่นที่จู่ๆ ก็กลายเป็นดังในข้ามคืนก็ไม่ใช่ว่าจะปรับตัวง่ายนัก 

"ชีวิตหนูเปลี่ยนไป เช่น ถ้าชีวิตปกติหนูจะแต่งตัวง่ายๆ รองเท้าแตะ กางเกงกีฬา เสื้อยืดไปห้าง ตอนที่ละครออนแอร์ก็ยังแต่งแบบนี้อยู่ค่ะ จนวันหนึ่งเราก็แต่งตัวเป็นเราไปห้างเดินซื้อของ มีคนขอถ่ายรูป แล้วเขาแท็กรูปมาในโซเชียล เราดูแล้ว โอ๊ย ทำไมสภาพเราแย่ขนาดนี้ ทำไมเราไม่แต่งตัวแต่งหน้า เลยรู้สึกว่าต้องรักษาภาพลักษณ์ตัวเองหน่อยนะ พูดตรงๆ ตอนแรกก็ไม่ชิน การที่นั่งกินข้าวแล้วมีคนมายืนดูเรา เหมือนเราเป็นปลาในตู้ แล้วเราต้องทำกิจกรรมนั้นต่อหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่หลังๆ ก็ชิลขึ้นค่ะ"

ชมคลิปฉบับเต็ม

...