เปิดใจ ‘พาที สารสิน’ ในรายการ Thairath Talk เปิดเบื้องหลังลึกความจริงทำไมลาออกนกแอร์ แบรนด์ที่ปั้นมา 14 ปี และย้ำว่าวันนี้กรีดเลือดก็ยังเป็นนกแอร์อยู่
"ถามว่าย้อนกลับไปอยากไปแก้ไขอะไร เด็ดขาดขึ้น พี่ว่านกแอร์รอด จริงๆ นะ ถ้าพี่เด็ดขาดจริงๆ รอด พี่พนันได้เลยว่ารอด..." บทสัมภาษณ์ในวาระ 57 ปี ทบทวน ชีวิต ความคิด การทำงาน 'พาที สารสิน' อดีต CEO สายการบินนกแอร์ ห้ามพลาด ที่แรกที่เดียว
57 ปี ช้า แต่ชัด
Thairath Talk อายุ 57 ปี นี่ชื่นชมหรือผิดหวังกับมัน
มันเร่ิมแก่แล้วนะ ความรู้สึกของตัวเองจะรู้ว่า เราจะนอนดึกเกินไปก็ไม่ไหวแล้ว เบสิกพื้นฐานเราจะรู้ว่าเราไหวแค่ไหน เพราะพี่เล่นสควอชทุกวัน เราก็จะรู้ว่าทำไมเราวิ่งเร็วเท่าเมื่อก่อนไม่ได้ มิน่ามันสู้ไม่ได้ ซึ่งมันก็มากับอายุแต่สมองมันไปไกลกว่าเมื่อก่อน เพราะเรามองเห็นโลกมากขึ้นรู้ไหม
Thairath Talk มันช้าแต่ชัดขึ้น
ใช่ๆ ชัดขึ้นแล้วก็สนุก
Thairath Talk เป็น 57 ให้คะแนนตัวเองเท่าไร
...
คะแนนดีนะ เพราะพี่ไม่กินเหล้าไม่เที่ยว สมัยนกแอร์พี่จะเก็บตัวพอสมควรเพราะหน้าพี่เป็นแบรนด์ เพราะฉะนั้นเราจะไม่เที่ยว เราจะเก็บตัวดีให้แบรนด์เราไม่เสีย เพราะในระยะเวลา 14 ปี เราก็อยู่สายการบิน เราก็พยายามทำภาพลักษณ์ให้มันดี แล้วเราก็ไม่กินเหล้าอยู่แล้ว ก็สบาย
Thairath Talk: คนอายุ 57 เงินทองยังสำคัญไหม
ทุกคนเงินทองสำคัญหมด เพียงแต่ว่าจะใช้มากใช้น้อย และพี่เองก็ไม่ได้ฟุ้งเฟ้ออะไรมากอยู่แล้ว แต่งตัวก็ธรรมดา เล่นอยู่ 3 อย่าง มี กีตาร์ แว่นตากันแดด โดรน
ขี้อาย ด.ช. พาที สารสิน
Thairath Talk ตอนเด็กๆ มันจะมีภาพเป็นพาที สารสิน แบบทุกวันนี้ไหม
ตอนเด็กๆ ก่อนไปอังกฤษ ผมไม่ได้เป็นแบบนี้นะครับ ผมขี้อายมาก ผมไปตั้งแต่ 10 ขวบ ข้อดีคือเราได้เรียนรู้ชีวิตคนทั่วโลก ไม่ใช่ในประเทศไทยอย่างเดียว อันที่ 2 ถ้าเราอยู่ที่นี่ก็จะไม่เห็นภาพว่าจริงๆ ก็การใช้ชีวิตแบบสันโดด อย่างอิสระอย่างแท้ จริงทำอย่างไรบ้าง แล้วเราต้องอยู่รอดอย่างไรบ้างเพราะว่าพ่อแม่ไม่ได้ให้เงินมากมายขนาดนั้น ฉะนั้นผมจึงไม่ฟุ้งเฟ้อ หรือใช้ชีวิตแบบว่า มันจะต้องรวยแล้วจะต้องมีทุกอย่างให้หมด มันไม่ใช่ ลำบากเหมือนกัน
Thairath Talk สารสิน ลำบาก ลำบาก ไม่ได้มีเงินเป็นภูเขา
โดยไปเรียนมหา'ลัยก็ต้องส่งพิซซ่า ส่งหนังสือพิมพ์ เงินพ่อจะมีลิมิตให้ แล้วเราก็ต้องหากินเองเพื่ออะไรที่มันจำเป็นนอกเหนือจากที่เขาให้มา มันก็ทำให้เราเรียนรู้การวางบัดเจตเงินของตัวเอง การรู้คุณค่าของเงินทอง ทำอะไรที่ไม่ฟุ้งเฟ้อแบบที่คนรวยทำ อันนี้คือสิ่งที่พ่อแม่ ปู่ย่าสอนให้เรารู้จักติดดินเข้าไว้
Thairath Talk เส้นทางที่เราเรียนคือเราเลือก หรือครอบครัวให้เลือก
เลือกเองหมอครับ คุณพ่อคุณแม่ ไม่เคยเลือกหรือยุ่งเกี่ยวกับเราเลย อยากทำอะไรอิสระ ตอนอยู่ม.ปริญญาตรีผมดับเบิ้ลเมเจอร์ผมหนักไปทางบิซิเนส เรียนคอมพิวเตอร์ไซ พอกลับมาไปทำงานกับพวกทีวี ไปทำงานกับบริษัทโฆษณา ก็เลยทำให้เราหนักไปทางแมสคอมมูนิเคชั่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเครื่องบินเลยแล้วก็พลิกมาที่เครื่องบินอีกแบบหนึ่ง
Thairath Talk คุณเรียนสื่อสารมวลชน เคยทำงานที่ NBC ที่อเมริกา?
ตอนนั้นพี่ไปเป็นคนตัดต่อได้เงินมากมาย ตัดต่อหนัง จบ ป.โทมา ตอนเข้าไปนึกว่าไปตัดต่อ แต่ไปทาสีห้อง ทาสีรอบสตูก่อน เขาจับเราไปทำเบสิก เก็บเทป จัดเทปก่อน ค่อยฝึกเรียนรู้ จนเป็นเอดิเตอร์เงินเยอะมาก เขาให้ชั่วโมงละ 50 เหรียญ ซึ่งเราเช่าอพาร์ตเมนต์เดือนละ 500 เหรียญ รายได้มาก ทำ 8 ชั่วโมงรวย เพราะว่าอยู่คนเดียวชีวิตสบายมาก คิดว่าถ้าอยู่อีก 2-3 ปี ซื้อปอร์เช่แล้ว
Thairath Talk พ่อบอกกลับบ้านเถอะก็กลับมาบ้าน
ใจหนึ่งเราก็ชินกับชีวิตที่โน่นมากกว่า สมมติเราทำงาน เราพัก เราไปน้ำตก อยู่ใกล้บ้าน กินแซนด์วิช ชีวิตก็สบาย ใครที่ตัดต่อก็จะรู้ว่าชีวิตเรานั่งคอมฯ มากที่สุด อยู่กับเครื่องไม้เครื่องมือมากกว่า แล้วมันก็ไม่ได้ใช้เงินอะไรมากมายแต่ว่าในที่สุดกลับมาก็ดีเหมือนกัน
...
คุณพ่อบอกให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เพราะเราห่างกันไปนานมาก หลังจากกลับมาก็ไปทำงานโฆษณาปีกว่าโปรโมต พอ 30 เขาก็โปรโมตให้เราไปเป็น CEO ของบริษัทลูก เหมือนดีตลอด แต่เราก็ไม่ตั้งใจที่อยากจะเป็นเลยสักอย่าง เราไม่เคยทะเยอทะยานที่อยากจะเป็นอะไรที่มันสูงๆ
นกแอร์ - ความลับวันที่ก้าวออก ครั้งแรก
Thairath Talk คุณเข้ามาทำงานที่นกแอร์ได้ยังไง
บังเอิญท่านประธาน คุณทนง พิทยะ ชวนให้มาทำ จริงๆ ผมไม่ได้อยากมา เพราะว่าเงินเดือนที่เก่าสูงมาก 1 ล้าน พอมาทำนกแอร์ได้ 5 แสนบาท เราเองก็บริหารสายการบินไม่เป็น ก็ใช้มาร์เก็ตติ้งล้วนๆ เอา 2 อย่างมาผสมผสานให้มันกลมกลืนให้มันพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
Thairath Talk จำวันแรกที่เข้าไปที่นกแอร์ได้ไหมแรกๆ เป็นกลิ่นคุณไหม
พอเปลี่ยนชื่อแล้วมันเป็นกลิ่นของเราเลย จากเดิมที่ชื่อสกายเอเชีย ผมรับไม่ได้ เพื่อนก็เข้ามานั่งอธิบาย ผมบอกไม่ต้องเลย เปลี่ยนชื่อเลย ก็คิดไม่ออก ผมก็เลยบอกว่าเอาชื่อเพื่อนละกัน ชื่อ 'นก' (ปิยะ ยอดมณี) เพราะเขาอยากทำสายการบิน ตอนแรกก็ไม่ได้ซื้อนะ เขากลับไปถึงคุณทนง แต่ในที่สุดก็ชอบ ตอนนั้นมีคุณกนก อภิรดี เขาบอกโอเค ชื่ออะไรก็ชื่อเหอะ
...
Thairath Talk คุณหายไปจากหน้าจอ หายไปไหน
ไปทำทราเวล ส่วนใหญ่เราไปลองศึกษาตลาดนี้ เพราะมันไม่ง่าย เพราะว่าสิ่งที่พี่จะทำขึ้นมาในอนาคตนี้มันยาก เพราะว่าการแข่งขัน อย่าลืมว่าเราอยู่สายการบินนกแอร์มา สิ่งหนึ่งที่เราได้ก็คือคนรู้จัก ในวงการแอร์ไลน์ไม่ได้เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นทั่วโลก ฉะนั้นเราต้องทำอะไรระดับโลก ถ้าทำอะไรเฉพาะประเทศไทยมันก็แค่เนี้ย เราก้าวมาถึงตรงนี้แล้วเราถอยลำบากละ ก็ต้องก้าวต่อไปในที่สุด
เรากำลังจะออกออนไลน์เอเจนซี่ ซึ่งแข่งขันทริปแอดไวเซอร์ กับบุ๊กกิ้งดอทคอม แพลตฟอร์มระดับโลก ดังนั้นการลงทุนไอเดีย ต้องไฮเทคโนโลยีมาก เราทำที่แค
ลิฟอร์เนียไม่เหมือนคนอื่นแน่นอน ผมคิดว่าน่าจะฮิตทั่วโลก
Thairath Talk คุณปีกหักออกจากนกแอร์ เป็นแบบที่คนเข้าใจไหม
การทำสายการบินมันไม่ได้เป็นอะไรที่ง่าย เราเป็นซีอีโอ แต่จริงๆ แล้วปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มาร์เก็ตติ้งจริงไหม ปัญหามันอยู่ที่โอเปอเรชั่น แล้วมันต้องซิงก์ กัน ถ้าทาง 1 กับสองไม่ซิงก์กันเมื่อไหร่โอเปอเรชั่นไม่ตามในสิ่งที่เราพูดถึงหรือเอาคนที่ถูกต้องเข้ามาใส่มันก็จะไม่เกิด
ในที่สุดพี่ก็เลยบอกผู้ถือหุ้นไปว่า จริง โอเปอเรชั่นปัญหามันอยู่ตรงนี้ พี่เองมันควบคุมไม่ได้ถ้าโอเปอเรชั่นอยากทำในสิ่งที่เขาอยากทำ ฉะนั้นให้โอเปอเรชั่นมาเป็นเฮดดีกว่า เพราะว่าปัญหามันอยู่ตรงนี้ มันไม่ได้อยู่ที่มาร์เก็ตติ้ง พี่ก็บอกว่าไอโดนด่ามาเยอะแล้ว ยูทำเถอะไอจะได้ไปทำอย่างอื่นบ้าง
Thairath Talk วันที่ตัดสินใจลาออกเองหรือถูกกดดันให้ลาออก
พี่ลาออกเอง ไอ้ที่เห็นในสื่ออย่าไปเชื่อ สื่อพี่ไม่ได้สนใจอะไรที่เป็นสิ่งแวดล้อมข้างนอก เหตุผลที่เราออกเพราะว่าเราไม่ได้สนับสนุนในด้านของข้างในพอ หรือไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงไอเดียของคนที่ทำโอเปอเรชชั่นข้างในอยู่ให้ตามเราแล้วตอนนั้น เราก็บอกว่าเมื่อคุณอยากทำในสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ยูทำไปเลยไอไปก็ได้แล้วมันก็เจ๊งต่อมาจริงๆ ถ้าย้อนกลับไป แก้ตามไอมันจะไม่เจ๊งแบบที่เป็นอยู่
...
Thairath Talk มั่นใจว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ถูกต้องแล้ว ถ้าทำแบบที่ไอพูดตอนนั้น รอดแล้วตอนนี้ แต่เรารับ เพราะถือว่าเรารับผิดชอบในหน้าที่ ไม่สามารถโน้มน้าวใจฝ่ายโอเปอเรชั่นให้ตามเราได้
พาที สารสิน - CEO สไตล์
Thairath Talk เวลาเราเป็น CEO มองย้อนกลับไป เราเป็น CEO ประเภทไหน
พี่เป็นคนตัดสินใจเด็ดขาดแต่เราละเอียดอ่อน เราปล่อยงานออกไปเราให้ความไว้วางใจกับแต่ละส่วน ทีมงาน แต่เราจะสัมผัสลูกน้อง เราจะรับฟัง เราจะต้องแฟร์ ไม่มีก๊ก ไม่มีกรุ๊ป เรามีไม่ได้ ถ้า CEO มีกรุ๊ปจบ เพราะว่าหน้าที่ของยูทุกคนคือลูกน้องของยูหมด เราต้องให้ความเท่าเทียมกัน และต้องแฟร์เท่าเทียมกัน
Thairath Talk มองย้อนกลับไปอะไรคือข้อผิดพลาดในนกแอร์ที่สุดสำหรับ พาที สารสิน
คือเราเองไม่เด็ดขาดกับคนภายในใกล้เคียงสุด เพราะเราเกรงใจ เพราะเป็นเพื่อน เราไม่อยากจะทำลายน้ำใจในขณะที่เป็นเพื่อนกัน แน่นอนเพื่อนกันมาก่อนงาน เพื่อน ไปต่อถูกไหม งานมาทีหลังก็ถึงออกไง ไม่เอาๆ ยูทำดีกว่า
Thairath Talk ย้อนกลับไปอยากไปแก้ไขอะไร ถ้าย้อนกลับไปได้
เด็ดขาดขึ้น ถ้าเด็ดขาดจุดนี้ พี่ว่านกแอร์รอด คือจริงๆ นะถ้าพี่เด็ดขาดจริงๆ อะ รอด พี่พนันได้เลยว่ารอด ทำได้ ไม่ได้ยากถึงขนาดนั้น ทุกวันนี้ก็ทำได้ ไม่ได้ถึงขนาด ว้าว ไม่สามารถทำได้
Thairath Talk ธุรกิจสายการบินมันยากมาก
มันยากมาก ยากจริงๆ แอร์ไลน์คืออะไร แอร์ไลน์ คือการทำงาน แอร์ไลน์คือการเงินถูกไหม แอร์ไลน์คือต้องดีลกับคอร์สที่เราคอนโทรลไม่ได้ มีน้ำมัน แอร์ไลน์ เกี่ยวกับอะไร เกี่ยวกับภาวะอากาศ แอร์ไลน์เกี่ยวกับเซฟตี้ แอร์ไลน์เกี่ยวกับการบริการ แอร์ไลน์เกี่ยวกับทุกอย่างบนโลกนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำตรงนี้ได้ เราทำอะไรก็ได้ เราแค่เป็นหนึ่งในแอริเมนต์ของแอร์ไลน์เอามาทำ สนุกกว่าเยอะ
Thairath Talk ทุกวันนี้ไม่ได้มีอะไรที่ตกค้าง หรือทะเลาะกัน
โนๆๆ พี่เฉยๆ โนๆ ไม่มีแบดฟีลลิ่ง พอเราออกมาปุ๊บเนี่ย เราก็จะใช้ชีวิตทำอย่างอื่นแล้ว ซึ่งเอนจอยแล้วก็ทำสนุกสนาน
Thairath Talk ถ้าสมมติมีคนเชิญไปทำสายการบิน จะไปทำไหม ทั่วโลก
ก็ถูกเชิญไปหลายสายการบินที่รู้จักกัน ที่นี่ก็มีเชิญไป แต่ไอไม่อยากทำแล้วพอ
Thairath Talk เราจะไม่เห็นว่าคุณจะไปเป็น CEO สายการบินไหนอีกแล้ว ตลอดชีวิต
ใช่ครับ ตลอดชีวิตคงไม่เอาแล้ว CEO สายการบิน
Thairath Talk เข็ด
ไม่ใช่เข็ดหรอก คือเราผ่านจุดนั้นแล้วไง คือทุกวันนี้หลับตาก็ทำได้อะ แต่เราไม่ทำ เราไปทำสวน สนุกกว่า
Thairath Talk ข้อดีการของตัดสินใจลาออก มีบ้างไหม
ข้อดีครับ ข้อดี พอเราออกมาปุ๊บเราไม่ต้องดีลกับสิ่งที่เราคิดว่าไม่ถูกต้อง เราคิดว่าโอเค ทั้งๆ ที่ออกมาเราก็เป็นห่วงนะ เราก็พยายามส่งซิกซ์ว่าเฮ้ยยูทำแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ฟังเรานะ เขาไม่ทำตามต่อ ก็พังไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้แก้ ก็เห็นชัดเจนอยู่ทุกวันนี้
Thairath Talk มีอะไรอยากจะแนะนำผ่าน Thairath Talk ถึงนกแอร์ไหม ผมคิดว่า 14 ปี ในเส้นเลือดของคุณ กรีดมาก็ยังเป็นนกแอร์อยู่
ในสายตาทุกคนก็อย่างนั้น ทุกวันนี้ มันแค่อาชีพครับ ทุกวันนี้ผมบอกได้เลยว่าราคาของเราขายก็ยังสูงกว่าคู่แข่งของเราทั้งหมด แต่คอสต์ของเราสูงกว่าเขา 3-4 เท่า มันตัดที่คอสต์ การตัดที่คอสต์บางทีที่เราต้องใช้คนข้างนอกที่มีความชำนาญจริงๆ เข้ามาทำ จ้างมาเลย คอสต์ของการจ้างคนแพงแต่เก๋ มันถูกกว่าที่เอาคนที่ไม่ค่อยเป็น ที่ดำน้ำคลำทางแล้วบอกว่าเก่งแต่ไม่เก่งจริง ทำแล้วคอสต์มันจะบานอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ผมบอกได้เลยว่าอยู่ที่ฝ่ายการทำงานที่น่าจะทำงานได้ดีกว่านี้
Thairath Talk วันหนึ่งมันจะพังลงไม่เป็นท่า
ก็ยังแก้ได้อยู่ ถ้าทิ้งไว้อย่างนี้หรอ ก็เจ๊งแน่นอน อันนี้เขาเพิ่มทุนกี่ทีแล้วไม่รู้ นี่เพิ่มทุนครั้งที่ 3 แล้วนะ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ตรงการทำงานก็เจ๊ง มันต้องแก้ให้ตรงจุดที่แก้ปัญหา
Thairath Talk พูดด้วยความรักหรือความแค้น
ผมรักๆ ผมรักสายการบินนกแอร์ ลูกผมก็ชื่อดีดี นะ แล้วก็ยังมีเครื่องบินอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็แคร์เราสร้างมากับมือ ในส่วนหนึ่งที่สร้างมากับมือ ก็คิดว่าไอ้ส่วนหนึ่งเราควรจะแก้ด้วยความเป็นมืออาชีพจริงๆ
บทที่ 5 ความรัก
Thairath Talk : ตอนนี้ Enjoy Life กับอะไรครับ
พี่เริ่มทำเรื่องท่องเที่ยว ครอบครัวก็รักลูกมาก เราก็อยากเป็นพ่อที่ดีให้ ใช้เวลาอยู่กับเขาเยอะ เท่าที่เราทำได้
Thairath Talk : ความรักของคนวัย 57 กับ ภรรยา มุมมอง การทรีตต่างจากสมัยก่อนไหม
คือคนอายุ 50 เวลามีภรรยา หรือครอบครัว มันดีอย่างหนึ่งคือเราผ่านมาเยอะแล้ว เราก็มีพื้นฐานของเรื่องการเงิน เราไม่ต้องมาทะเยอทะยาน เราก็จะใช้เวลากับการดูแลลูก ถ้าเรา 35 กำลังทำงานอยู่ เราก็จะมุ่งมั่นในการที่จะขยายการเติบโตในด้านของธุรกิจของเรา ถูกไหม เพราะฉะนั้นจะทำให้เราไม่มีเวลากับลูกกับเมียเท่าร ตอนนี้เราก็มีบ้างมากกว่า ถีงแม้ท่องเที่ยวจะเดินทางเยอะ แต่เวลาเราให้ quality time (แปลว่า เป็นเวลาที่ถูกใช้กับคนรัก หรือครอบครัว) เราไม่ต้องมานั่งคิดมาก
Thairath Talk : ความรักสำหรับ พาที สารสิน สำหรับความเป็นครอบครัวนิยามของมันคืออะไร
ความรักเหรอ ก็ต้องเข้าใจภรรยาบ้าง แล้วเราก็ต้องเข้าใจตัวเราเองด้วย คือหมายความว่า มันก็จะมีความประนีประนอม คนสองคนอยู่ด้วยกันก็ต้องมีความประนีประนอม มันไม่มีอะไรที่มันตายตัว คนเขาอยู่ของเขามา 30 กว่าปี เราก็อยู่ของเรา 30-40 ปี เราใช้ชีวิตกันคนละแบบ การที่จะมาผสมอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องใช้วิธีการ แล้วเวลามีลูกของเรามา เราก็อยากให้ลูกของเราดี ไม่ใช่ตามใจทุกอย่างไม่ใช่ อันนั้นเราก็ได้เรียนรู้มา เราก็พยายามที่จะให้มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ ให้ความรัก ให้ความรู้ มากกว่าที่จะให้เป็นสิ่งของอย่างเดียว
Thairath Talk : มีแบบยกตัวอย่างให้ผมฟัง พี่ดุ๋งสอนลูกแบบไหนสไตล์ พาที สารสิน
คือมันต้องมีคนนึงดุ คนนึงไม่ดุอะ สูตรเลย แม่ดุ พ่อใจดี มีทะเลาะกันบ่อย เพราะเราใจดีมาก เราไม่ค่อยเห็นลูกเราก็ใจดี ตามใจ แต่แม่จะดุมาก เขาก็จะบาลานซ์กัน บาลานซ์กันดีเหมือนกัน พอลูกมีปัญหาลูกวิ่งมาหาพ่อ ซึ่งเราก็อยากเจอเขาอยู่แล้ว เขาวิ่งมาเปิดดูทีวีงี้ อยากดูทีวีแม่ไม่ให้ดู วิ่งมานั่งตักเราอย่างนี้ คือแบบอยากดูทีวี ป๊ะป๋าก็ให้ดู แม่บอกว่าไม่ได้ ถึงเวลาต้องเป็นเวลา
ก็บาลานซ์ สูตรก็คือ คนนึงต้องดุคนนึงต้องใจดี นี่คือสูตรของ พาที สารสิน เป็นสูตรที่เวิร์กเหมือนกัน
อนาคต พาทีสไตล์
Thairath Talk : อีก 3 ปี 5 ปี เราจะเห็นพาที สารสิน ในรูปแบบไหน ผมตื่นเต้นนะ ผมชอบการเคลื่อนไหว ของพี่ดุ๋งเสมอ
อีก 3-5 ปีก็แก่ลงนะ แต่เราทำท่องเที่ยวให้มันเด่น ดัง ประเทศเราจะได้มีอะไรที่ภูมิใจบ้าง ทำทุกอย่างจริงๆ ไม่ใช่เพราะเงินอย่างเดียวหรอก เราทำเพื่อความสนุก ถ้าเราเอ็นจอยเราก็ทำมัน ได้เงินหรือไม่ได้เงินมันก็ไม่ใช่เรื่องแบบ... ก็เรามีพอใช้อะตอนนี้ แต่เราก็ทำพอที่จะทำให้มันฮือฮาได้ว่าประเทศไทยของเราก็มีอะไรเหมือนกันนะ คือสิ่งหนึ่งที่ความที่เราห่างจากประเทศมาตั้งแต่อายุ 16 ถอยกลับมาทำให้เรารักชาติมากกว่าในทางของเราเอง เราก็ภูมิใจในชาติของเราถูกไหม เราเองก็อยากทำอะไรก็ตามที่ไม่ให้ชาติเราน้อยหน้า เพื่อให้ประเทศเราไม่น้อยหน้าเขา เรามีของเราเหมือนกันนะ อะไรอย่างนี้ เป็นความคิดเดียวกัน แต่เป็นที่ไม่ใช่แอร์ไลน์
Thairath Talk : สุดท้ายแล้วครับ คนจะเป็นอย่างพาที สารสิน บอกเคล็ดลับสักหน่อย ทุกคนต้องทำยังไง
เอาอย่างนี้ ผมไม่อยากให้ทุกคนเป็นพาที สารสิน อยากให้เป็นตัวของตัวเอง สิ่งแรกคือเราต้องดูตัวเราเองว่าเป็นยังไง อย่าคิดว่าต้องเป็นแบบคนนี้ๆ ให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด แล้วก็อย่าให้มันยาก ทุกอย่างต้องยาก ต้องเยอะ มันไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องดังหรอก ดังอาจจะไม่ดีก็ได้นะ บางทีเงียบดีกว่าดังนะ คนชอบบอกว่าดังดีกว่า ไม่ใช่ดังถูกจ้อง ถูกปืนเล็ง แต่ไม่ดังเราจะทำยังไงก็ได้ เพียงแต่ว่าเราต้องฉลาดในการที่เราจะทำอะไรก็ตาม
Thairath Talk : มีอะไรในคนอายุ 57 ในวงการแอร์ไลน์ ที่อยากจะบอกแต่ไม่ได้บอก เชิญครับ
ในวงการอะไรก็ตามที่เราทำไป คือถ้าเราเอ็นจอยกับสิ่งที่เราทำอยู่ ผมบอกได้เลยว่าโอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จมีมากกว่า ถ้าเราไปถูกฟอร์ซว่าเราต้องทำอย่างนี้ คือเราต้องเป็นตัวของตัวเองอะดีที่สุด ง่ายที่สุด อย่าคิดถึงเงินเป็นเริ่มแรก อาจจะน้อยหน่อยแต่ทำให้มันดี โอกาสที่จะก้าวไปข้างหน้า มันก็ดี แต่ถ้าเราทะเยอทะยานเกินไป บางทีเวลาเราล้มก็เจ็บ ก้าวไปนิดนึงพลาดตกบันไดนิดๆหน่อยๆ โอเค แต่อย่าให้ตกตึก บางทีเราจะรวยเร็ว ต้องทำแบบนี้ พอเจ๊งทีแล้วมันเจ็บมาก แต่ถ้าเราล้มนิดนึง ทำใหม่ โอเค เราอย่าใช้เกินตัว ดีที่สุดในทุกอย่างนะ