"ประวิตร" เยี่ยม ก.แรงงาน ตั้งเป้าฝึกกำลังก้าวสู้ไทยแลนด์ 4.0 หวังผลอันดับค้ามนุษย์ดีขึ้น ปลื้มผลโพลคนเชื่อมั่นรัฐบาล แนะสื่อเชื่อมั่นแบบโพลบ้าง แนะเขียนแต่เรื่องจริง
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.59 ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจเยี่ยมกระทรวงแรงงาน และมอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูง ในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง โดยมี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ
พล.อ.ประวิตร กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้มาติดตามการทำงานในการพัฒนาฝีมือแรงงาน กำลังคนเพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 และได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหารของกระทรวงแรงงานในการขับเคลื่อนภารกิจให้ประสบความสำเร็จ 4 เรื่อง คือ 1. การพิจารณาให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือไอแอลโอ ที่สำคัญ 3 ฉบับ คือ อนุสัญญาฉบับที่ 98 ว่าด้วยการรวมกลุ่มและเจรจาต่อรอง อนุสัญญาฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคประมง และพิธีสารภายใต้อนุสัญญาฉบับที่ 29 ว่าด้วย แรงงานบังคับ เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของประเทศไทย ที่จะยกระดับการดูแลแรงงานตามมาตรฐานสากล 2.การประสานงานกับสำนักงาน ก.พ. อย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานตรวจแรงงานให้เพียงพอที่จะดูแลแรงงานให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย และสามารถแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้อย่างยั่งยืน 3.แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวและแรงงานในภาคประมง ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียม รวมทั้งได้รับสิทธิแรงงาน และสิทธิทางสังคมด้วย 4. การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในจังหวัดนำร่องนั้นให้ยึดตามกรอบใน 3 ประเด็น คือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ในส่วนของการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์นั้นได้มีการตั้งเป้าว่า ในปีหน้าต้องได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการมาตลอด เห็นได้จากการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ (ทิปรีพอร์ต) หรือกลุ่มประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำของกฎหมายสหรัฐฯ โดยเดิมไทยอยู่ในอันดับเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 ซึ่งได้กำชับให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย สวัสดิภาพการทำงานของแรงงานประมงด้วย ที่ต้องมีเวลาพักผ่อน มีความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
...
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ว่า ผลโพลออกมาก็ยังชัดเจนว่าประชาชนยังเชื่อมั่นในรัฐบาล อย่างไรก็ตามอยากให้สื่อมวลชนมีความคิดเหมือนประชาชน คือเชื่อมั่นในรัฐบาล อะไรที่ไม่จริงก็อย่าไปโยงหรือเขียนให้เป็นประเด็น ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ อะไรดีก็ดี อะไรไม่ดีก็ว่าไม่ดี แต่ขอให้เป็นเรื่องจริง
ด้าน นายสมคิด กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 12 นับว่าแผนฯ ดังกล่าว มีทิศทางที่ชัดเจนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในระยะยาว โดยในระยะแรกที่ได้วางรากฐานการพัฒนา มีวาระปฏิรูปเร่งด่วน อาทิ ความปลอดภัยแรงงาน แก้ปัญหาค้ามนุษย์ ส่งเสริมการมีงานทำของผู้พิการและผู้สูงอายุ เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานจะประสบความสำเร็จบรรลุผลตามแผนได้ กระทรวงแรงงานต้องเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการกับหน่วยต่างๆ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง