ยังคงเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ในวันที่ 8 พ.ย.นี้ กรณีนายเจมส์ โคเมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางแห่งชาติสหรัฐฯหรือเอฟบีไอ ส่งจดหมายแจ้งต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯว่าจะเปิดการสอบสวนรอบใหม่ กรณีการใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ของนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ และเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมได้ออกเตือนนายโคเมย์ว่าการกระทำดังกล่าวอาจผิดระเบียบกระทรวง และอาจถูกมองว่าแทรกแซงการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายเฮนรี รีด ส.ว.รัฐเนวาดา แกนนำอาวุโสพรรคเดโมแครต ได้ร่างจดหมายเปิดผนึกถึงนายโคเมย์ว่า การที่เอฟบีไอออกมาเปิดเผยถึงการสอบสวนนางฮิลลารีรอบใหม่นั้น เป็นการเลือกข้างและอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยละเมิดกฎหมายแฮช แอค พ.ศ.2482 ที่ถูกร่างขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐดำรงตำแหน่งบริหารราชการเข้ายุ่งเกี่ยวทางการเมือง หรือถือข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เอฟบีไอระบุเพียงว่าทางหน่วยงานทราบเรื่องเบาะแสใหม่ในคอมพิวเตอร์ของนายแอนโธนี ไวเนอร์ อดีต ส.ส.พรรคเดโมแครต สามีของนางฮูมา อาเบดิน ผู้ช่วยระดับสูงของนางฮิลลารีมานานหลายสัปดาห์แล้ว และอีเมลในคอมพิวเตอร์มีถึง 650,000 ฉบับ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าจำนวนจดหมายที่มหาศาลดังกล่าว ทำให้เป็นไปได้ว่าเอฟบีไออาจจะสรุปสำนวนไม่ทันก่อนวันเลือกตั้ง กระนั้นเอฟบีไอปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าทำไมนายโคเมย์ต้องมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวก่อนหน้าเลือกตั้ง 11 วัน

ขณะที่นายเจสัน แชฟเฟตซ์ ส.ส.พรรครีพับลิกันและประธานคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านกิจการและการปฏิรูปรัฐบาล กล่าวโต้แย้งว่า การที่นายโคเมย์ส่งจดหมายถึงสภาคองเกรสมิใช่การเลือกข้าง แต่เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบสวน ซึ่งเป็นเรื่องที่สมควร นางฮิลลารีต่างหากควรจะต้องโทษตัวเองเพราะเป็นปัญหาที่ตัวเองสร้างขึ้น ไม่ใช่ผู้อำนวยการโคเมย์

...

ส่วนสำนักข่าวซีบีเอสของสหรัฐฯจัดทำแบบสำรวจความเห็นประชาชนใน 13 รัฐตัวแปร “สวิงเสตท” หรือรัฐที่อาจเป็นตัวชี้วัดผลลัพธ์ของการเลือกตั้ง โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 71 เปอร์เซ็นต์มองว่า การสอบสวนอีเมลรอบใหม่ ไม่มีผลต่อการตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ส่วนผลโพลสำนักข่าวบีบีซีระบุว่าคะแนนนิยมนางฮิลลารีอยู่ที่ 49 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันอยู่ที่ 46 เปอร์เซ็นต์.