เศรษฐกิจทั้งโลกอยู่ในภาวะถดถอยมาหลายปี ตั้งแต่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์สุดชีช้ำในอเมริกา เมื่อปี 2008 ลามมาถึงวิกฤติหนี้สาธารณะยุโรป ที่ทำลายเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาค จนทุกวันนี้ก็ยังแก้ไขปัญหาไม่ตก ซ้ำร้ายเศรษฐีบ่อน้ำมันอย่างชาติตะวันออกกลาง ซึ่งเคยกุมอำนาจซื้อในโลกก็ทำท่าจะจนลง เพราะขายน้ำมันไม่ออก เนื่องจากซัพพลายล้นตลาด แถมยังมีพลังงานทางเลือกอื่นๆมาตัดราคาสะบั้นหั่นแหลก

งานนี้มังกรยักษ์อย่างจีนก็เลยซี้แหงแก๋ ชักดิ้นชักงอ!! เพราะเศรษฐกิจจีนที่เติบโตอู้ฟู่อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายทศวรรษมานี้ ล้วนแต่เป็นผลมาจากการพึ่งพาการส่งออกสินค้าไปขายในอเมริกา, ยุโรปและตะวันออกกลางเป็นหลัก ถ้าชาติมหาอำนาจเหล่านี้ไม่มีกำลังซื้อซะแล้ว พ่อค้าเซงลี้ห้ออย่างจีนก็มีแต่เจ๊กอั๊ก ต้องตกที่นั่งลำบากชัวร์ ซ้ำร้ายดันมาเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจจีนกำลังปรับตัวขนานใหญ่ จากเคยล่ำซำถึงขนาดแตะเบรกเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงเกินไป ทุกอย่างกลับพลิกผันกลายเป็นว่าตอนนี้รัฐบาลต้องออกนโยบายหักศอกยูเทิร์น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ถีบตัวสูงขึ้น เพราะการเติบโตชักจะถดถอยน่ากังวล

ยิ่งเศรษฐกิจโลกสวิงไปมามากเท่าไหร่ เดี๋ยวฟื้นเดี๋ยวไม่ฟื้น ทำท่าจะทรงกับทรุดแบบนี้ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของจีนก็ไม่มีทางกลับมาง่ายๆ ล่าสุด มีเสียงเตือนจากมหาเศรษฐีอันดับสองของประเทศจีน “หวัง เจียนหลิน” เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาฯอันดับหนึ่งแดนมังกร “ต้าเหลียน หว่านต้า กรุ๊ป” ผ่านซีเอ็นเอ็นมันนี่ว่า พายุร้ายกำลังก่อตัวในจีน เตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านได้เลย เพราะตลาดอสังหาฯจีนกำลังเผชิญกับวิกฤติฟองสบู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์!! ราคา ของบ้าน, คอนโด, ที่ดิน และทาวน์เฮาส์ เพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าราคาเป็นจริง จนเกิดความต้องการซื้อหลอกๆเพื่อเก็งกำไร อีกไม่นานดีมานด์ปลอมๆในตลาดจะหายวับไป กดดันให้ราคาอสังหาฯดิ่งฮวบลงจนเกิดภาวะฟองสบู่แตกโพละ สร้างปัญหาหนี้เสียหนี้เน่าให้ตามล้างตามเช็ดอีกยาวไกล

...

ความโลภที่จ้องจะเก็งกำไรในตลาดอสังหาฯกำลังครอบงำ เศรษฐกิจจีน ก่อนหน้านี้ไม่นาน รัฐบาลจีนเคยพยายามแทรกแซงเพื่อลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯในเมืองใหญ่ๆหลายครั้ง เพราะกลัวจะเกิดฟองสบู่ โดยออกกฎควบคุมการขายบ้าน และการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ถึงขนาดมีมาตรการลงโทษนายหน้าที่ปั่นราคาตลาดให้สูงขึ้นเกินจริงด้วย

กระนั้น ความพยายามของรัฐบาลมังกรไม่สัมฤทธิผล ทำยังไงๆ ก็ไม่สามารถสยบความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯได้ เพราะอาตี๋อาหมวยล้วนอยากรวยทางลัดทั้งสิ้น เฉพาะเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายใน ภาคอสังหาฯของจีนเติบโตขึ้นถึง 31.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน เรียกว่าโอเวอร์ฮีตจนแทบระเบิด ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะมีแต่คนจ้องเก็งกำไร ยังไม่นับรวมอาการฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีน ที่ถูกดันจนโป่งพอง และพร้อมแตกทุกเมื่อ...เก๊กซิมจริงๆ!!

สถานการณ์ไม่น่าไว้ใจแบบนี้ “เจ้าสัวหวัง” ซึ่งสร้างความมั่งคั่งจากธุรกิจอสังหาฯ จนมีสินทรัพย์มากกว่า 32,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้รับการยกย่องจากฟอร์บส์เป็นนักธุรกิจยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ยอมรับว่า ถึงเวลาเก็บกระเป๋าเผ่น!! โดยตอนนี้เขาค่อยๆปรับลดสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯแล้ว และหันไปโฟกัสธุรกิจด้านอื่นๆแทน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมบันเทิง, การกีฬาหรือท่องเที่ยว ซึ่งสร้างกำไรได้งอกงาม และมีโอกาสเติบโตอีกมาก

เมื่อปี 2012 “เจ้าสัวหวัง” เข้าซื้อธุรกิจโรงภาพยนตร์ใหญ่ในเครือ AMC เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งประเทศ และเพิ่งซื้อกิจการของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ของโลก “เลเจนดารี เอ็นเตอร์เทนเมนต์” ตอนต้นปี แถมกำลังเจรจาขอซื้อค่าย “ดิค คลาร์ค โปรดักชั่นส์” เจ้าของลิขสิทธิ์จัดงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ ดีลนี้ถ้าสำเร็จคาดว่าจะสร้างรายได้มหาศาลให้เจ้าสัวแดนมังกร

ขนาดเจ้าพ่ออสังหาฯเบอร์หนึ่งของประเทศยังถอดใจ คงถึงเวลาที่แมงเม่าตาดำๆอย่างเราต้องเผ่นกันแล้ว?!

มิสแซฟไฟร์