ผอ.รพ.ยันฮี เผยอาการน้องทราย นักเรียน ม.5 เหยื่อครูพละระเบิดอารมณ์ปาแก้วเซรามิกใส่จนใบหน้าเสียโฉม ล่าสุดกล้ามเนื้อ ซีกซ้ายยังบวม ตาปิดไม่ลง ใบหน้าซีกซ้าย ยังไม่ทำงาน แพทย์ให้ยาบำรุงเส้นประสาท เตรียมประชุมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อหาแนวทางการรักษา ก่อนจะเริ่มลงมือรักษาทันที ทั้งในส่วนของเส้นประสาท และลูกตาที่เริ่มพร่ามัว ขณะที่ครูพละผู้ก่อเหตุ บอกไม่ขอชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น เกรงจะมีผลกระทบต่อลูกศิษย์ ย้ำครูไม่คิดจะทำร้ายลูกศิษย์ ยังมีความรักและเป็นห่วงเหมือนเดิม เวลาเท่านั้นจะช่วยคลี่คลายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

จากกรณี น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพลศึกษา ปาแก้วเซรามิกใส่บริเวณกกหูซ้าย ส่งผลให้ใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลยันฮีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ก.ย. นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า อาการของน้องทราย ในส่วนของกล้ามเนื้อซีกซ้ายยังบวม ตายังปิดไม่ลง ใบหน้าซีกซ้ายยังคงไม่ทำงาน แพทย์ได้ให้ยาบำรุงเส้นประสาท ทั้งนี้ หลังจากน้องทราย เข้ารับตรวจสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) และเจาะเลือดตรวจสุขภาพไปแล้วนั้น ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ จะเรียกประชุมทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ประกอบไปด้วยแพทย์อายุรกรรม ศัลยกรรมเส้นประสาท จักษุแพทย์ เพื่อประมวลผลหาแนวทางการรักษา เมื่อได้แนวทางการรักษาแล้วจะเริ่มทันที โดยรักษาในส่วนของเส้นประสาท และลูกตาที่น้องทรายบอกเริ่มพร่ามัวไปพร้อมกันเลย ดังนั้นต้องให้น้องทรายอยู่โรงพยาบาลต่อไปก่อน

...

ส่วนกรณีเพจอ้างตัวเป็นหมอโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าน้องทรายเหยื่อครูที่มีอาการหน้าเบี้ยว อาจมาจากเจ็บป่วยเอง จนเป็นที่ถกเถียงของชาวโซเชียลนั้น น.ส.นฤดี จอดสันเทียะ เปิดเผยว่า ยืนยันว่า เมื่อก่อนตนยิ้มได้ตามปกติ ไม่เคยเจ็บป่วยหรือมีไข้อะไร จนมาประสบเหตุการณ์นี้ สำหรับสภาพจิตใจยังดีอยู่ เพราะได้เข้ารับการรักษาอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลยันฮีแล้ว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อสัมภาษณ์ นายไพฑูรย์ แกลงกระโทก ครูพละผู้ก่อเหตุ นายไพฑูรย์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ต้องการชี้แจงใดๆ เพราะเกรงจะมีผลกระทบต่อน้องทราย ผู้เสียหายที่เป็นลูกศิษย์ เรื่องที่เกิดขึ้นขอให้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตนเป็นครูมีความรักและผูกพันกับลูกศิษย์ทุกคน รวมถึงตัว

น้องทรายด้วย ไม่คิดจะทำร้ายลูกศิษย์อย่างแน่นอน ยังมีความรัก และเป็นห่วงน้องทรายในฐานะครูกับลูกศิษย์เหมือนเดิม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาจะช่วยคลี่คลายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ตอนนี้ขอมุ่งมั่นพาเด็กนักเรียนไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียน ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ก่อน ส่วนเรื่องต่างๆคงไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้