"องอาจ" ยันพร้อมเล่นทุกกติกา ไม่ขัด กกต.ชงมีใบดำ ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต ชี้ผู้เล่นต้องพร้อมเล่นตามกฎ หากเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์-เที่ยงธรรม ด้าน "วิรัตน์" รับกังวล หวั่น กกต.ชงตัวเองเป็นยักษ์

วันที่ 12 ก.ย.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ต่อ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยกำหนดระดับความผิดฐานกระทำการทุจริตไว้เป็น "ใบเหลือง-ใบส้ม-ใบแดง-ใบดำ" ว่า ตนไม่ติดใจเรื่องกฎกติกาการเลือกตั้ง ที่จะมาใช้กับนักการเมือง แม้ กกต.จะเพิ่ม ใบส้ม หรือ ใบดำ ตนไม่ได้หวั่นไหว ผู้เล่นต้องพร้อมเล่นตามกติกา ถ้ากติกานั้นเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม เราไม่มีปัญหาอะไร เชื่อมั่นโดยบริสุทธิ์ว่า ไม่ได้คิดที่จะทำผิด หรือทุจริตการเลือกตั้ง ทั้งนี้ข้อเสนอของ กกต.ยังต้องผ่าน กรธ.และ สนช.อีก ก่อนออกมาเป็นกฎหมาย สังคมคงจะช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ เราอยากเห็นการช่วยป้องกันการซื้อเสียง ที่ถือเป็นด่านแรกของการกลั่นกรองบุคคล ที่จะเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองในฐานะที่เป็นผู้แทนฯ

"ในเมื่อเราไม่คิดจะทำความผิดทุจริตเลือกตั้ง จึงไม่มีอะไรต้องวิตกกังวลแต่อย่างใดว่า กฎหมายจะออกมากำหนดโทษรุนแรงมากน้อยแค่ไหนก็ตาม เพราะเราก็อยากเห็นการเลือกตั้งที่ไม่สกปรก เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม อย่างไรก็ดีร่างกฎหมายเลือกตั้งที่ กกต.ส่งให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังต้องผ่านการพิจารณาของ กรธ.และ สนช.ก่อนจะออกมาเป็นกฎหมายเลือกตั้ง และใช้บังคับต่อไป ซึ่งเชื่อว่าทั้ง กรธ.และ สนช.จะช่วยกันกลั่นกรอง เพื่อให้กฎหมายออกมาช่วยป้องกันปราบปรามการทุจริตเลือกตั้งได้ และสามารถปฏิบัติได้จริงเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่จะช่วยทำให้การเลือกตั้งสะอาด บริสุทธิ์ สุจริต เที่ยงธรรม ได้ในที่สุด" นายองอาจ กล่าว

...

ด้าน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณี กกต.เสนอให้มีทั้งใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม ใบดำเอาไว้ลงโทษผู้สมัคร ที่ทำทุจริตเลือกตั้งนั้น ว่า ตนกังวลเป็นเรื่องการตัดสิทธิทางการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. หาก กกต.หลงในอำนาจ หรือใช้อำนาจโดยมิชอบเหมือนอดีต จะสุ่มเสี่ยงใช้อำนาจตามอำเภอใจ การให้อำนาจ กกต.ตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทั้งใบส้ม ใบแดง หรือใบดำที่ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตได้แบบนี้ ควรเป็นอำนาจของศาลที่มีกระบวนการยุติธรรมที่รัดกุมกว่า เรื่องการตัดสิทธิผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยให้ กกต.ใช้สีต่างๆตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง แบบนี้เท่ากับร่างอำนาจให้ กกต.กลายเป็นยักษ์ขึ้นมา จะมีการวิ่งเต้นมโหฬารแน่ ในสมัย กกต.บางชุดในอดีต สำนวนกองหมักหมมกองพะเนินค้างเป็นพันคดี เพราะไปรับเงินมาแล้วจึงสั่งทำสำนวนคดีไม่ได้ เรื่องนี้อย่าไปหลงทำพลาดอีกรอบจะเสียหาย กกต.อย่าปฏิเสธข้อเท็จจริงนี้ ควรไปจะหาช่องทางการกันทุจริตทุกรูปแบบน่าจะดีกว่า แต่ต้องไม่ใช่เสนอเพิ่มอำนาจให้ตัวเองแบบเบ็ดเสร็จดังกล่าว