อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ประกาศ ปิดการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมดำน้ำบริเวณ เกาะหยวก-เกาะกระ-เกาะเทียน-เกาะทองหลาง ไว้ก่อน แบบไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูปะการังที่ฟอกขาวและได้รับความเสียหายให้กลับคืนสภาพเดิม...

เมื่อวันที่ 7 ก.ย.59 นายนิตย์ชัย พันธุเดช พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ สำนักงานอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่เจ้าหน้าที่อุทยานได้มีการสำรวจแล้วพบว่า ทรัพยากรทางทะเลอย่างแนวปะการังชนิดต่างๆ เช่น ปะการังเขากวาง, ปะการัง กัลปังหา, ปะการังสมอง ในบริเวณหมู่เกาะรัง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการังที่สำคัญของท้องทะเลตราดได้เกิดปรากฏการณ์ฟอกขาว เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน

นอกจากนี้ยังพบว่ามีปะการังอีกบางส่วน ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำโดยฝีมือมนุษย์ โดยที่พบบ่อยที่สุด คือ การโยนสมอเรือลงไป ทำให้ปะการังเสียหาย ซึ่งเรือส่วนใหญ่ที่มาจอด ก็จะเป็นเรือนำเที่ยวทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ลงไปดำน้ำ แล้วเหยียบปะการังจนหัก เสียหาย จำเป็นที่ทางอุทยานฯเกาะช้าง ต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมดำน้ำบริเวณ เกาะหยวก-เกาะกระ-เกาะเทียน-เกาะทองหลาง ไว้ก่อน แบบไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูปะการังที่ฟอกขาวและได้รับความเสียหายให้กลับคืนสภาพเดิม

...

นายนิตย์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วที่ผ่านๆ มาทางอุทยานฯ จะประกาศปิดราว 5 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น หรือฤดูมรสุม เพราะคลื่นลมในทะเลค่อนข้างรุนแรง น้ำทะเลขุ่น ไม่เหมาะกับการดำน้ำ ชมปะการัง แต่ในปัจจุบันพบว่าปะการังบริเวณหมู่เกาะดังกล่าวเสื่อมโทรมหนัก ทางหัวหน้าอุทยานฯ เกาะช้าง จึงเห็นสมควรว่าจะต้องมีการประกาศปิดการท่องเที่ยว ด้านดำน้ำ ชมปะการังบริเวณหมู่เกาะดังกล่าวไว้ก่อน ตามคำสั่งของอธิบดีกรมอุทยานฯ โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามดูอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากปะการังไม่ฟื้นตัวก็คงจะปิดแบบไม่มีกำหนดต่อไป เพื่อให้แนวปะการัง กลับมามีความสมบูรณ์เหมือนเดิม ซึ่งทางอุทยานฯ ได้มีการประชาสัมพันธ์ และทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการโรงแรม, รีสอร์ต, ธุรกิจเรือทัวร์นำเที่ยว, บูธทัวร์, ผู้นำท้องถิ่น รวมไปถึงไกด์นำเที่ยว มัคคุเทศก์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้รับทราบข้อมูลโดยทั่วกัน

ด้าน นายจักรพรรดิ์ ตะเวทีกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด กล่าวว่า การประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการัง ดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจทำได้ เพราะเกาะดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานฯ เนื่องจากพบว่าปะการังใต้ทะเลบริเวณโดยรอบเกาะดังกล่าวนั้น ได้เกิดการฟอกขาวและได้รับความเสียหายวงกว้าง จำเป็นจะต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ซึ่งที่ผ่านมาทางอุทยานฯ ได้มีการประกาศปิดเพื่อฟื้นฟูปะการังในช่วงนี้เป็นประจำ หากไม่มีการประกาศปิด ปะการังอาจจะถูกทำลายเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งทางสมาคมฯ ก็เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเห็นด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในเกาะช้าง, เกาะกูด และเกาะหมาก ส่วนใหญ่เห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือในการงดเว้นโปรแกรมนำนักท่องเที่ยว ไปดำน้ำดูปะการังตามเกาะที่ประกาศปิดดังกล่าว.