คุณยายสุบิน ดีใจจนช็อกเสียชีวิต หลังหลานชายแท้ๆ "เจ้าดุ่ย" สินธุ์เพชร์ กรวยทอง นักยกน้ำหนักไทย คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิกสำเร็จ ท่ามกลางความเศร้าสลดของคนในครอบครัวและชาวบ้านคุ้มโนนระเวียงสามัคคี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์... 

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 ส.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันยกน้ำหนักทีมชาติไทย รุ่น 56 กก. ซึ่งมี "เจ้าดุ่ย" สินธุ์เพชร์ กรวยทอง ลงชิงชัย ท่ามกลางความตื่นเต้นลุ้นระทึกของคนไทยทั้งประเทศ ณ นครริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล เวลา 05.00 น.(เช้าวันจันทร์) ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 291 บ้านคุ้มโนนระเวียงสามัคคี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อนบ้านในหมู่บ้านเกือบ 100 คน ต่างมาเฝ้าลุ้นและส่งกำลังใจเชียร์กันอย่างคึกคักตลอดการแข่งขันร่วมกับครอบครัว โดยมีการนำกล้วย 2 เครือมาแขวนใต้ถุนบ้านใกล้กับที่นั่งเชียร์ เพื่อเป็นเคล็ด เชื่อว่าจะทำให้การยกน้ำหนักเป็นเรื่องกล้วยๆ และได้รับชัยชนะ และผู้ที่มาเชียร์ยังพากันเด็ดกินกล้วยกันอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย  

...


ทันทีที่นักกีฬาทีมชาติไทย รวมถึง สินธุ์เพชร์ กรวยทอง ทำการแข่งขันเพื่อลุ้นเหรียญ บรรดาญาติและผู้ที่มาร่วมเชียร์ได้ส่งเสียงเชียร์กันอย่างคึกคัก ในขณะที่นางจันทร์ กรวยทอง แม่ของสินธุ์เพชร์ ได้ทำการเซ่นไหว้บอกกล่าวศาลพระภูมิหน้าบ้าน เพื่อให้ช่วยสินธุ์เพชร์ประสบผลสำเร็จได้รับเหรียญ และเมื่อรู้ผลทุกคนต่างดีใจกันสุดขีด ส่งเสียงเชียร์สนั่น โดยเฉพาะนางจันทร์ ผู้เป็นแม่ แทบเป็นลม ทุกคนต่างช่วยกันประคองและให้กำลังใจจนอาการดีขึ้น


แต่ในช่วงของการแข่งขันในท่าแรกท่าสเน็ก ทุกคนต่างลุ้นและเชียร์อยู่นั้น อยู่ๆ คุณยายสุบิน คงทัพ อายุ 82 ปี คุณยายของสินธุ์เพชร์ หรือ เจ้าดุ่ย ซึ่งเป็นคุณยายที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กเกิดเป็นลมหมดสติไป ญาติๆ และชาวบ้านที่มาร่วมเชียร์ต่างตกใจและช่วยกันปั๊มหายใจ จนคุณยายฟื้นขึ้นมา ญาติรีบหามนำส่งโรงพยาบาลอำเภอชุมพลบุรี แต่ต่อมาประมาณ 1 ชั่วโมง ญาติมาแจ้งว่าคุณยายเสียชีวิตแล้ว ทำให้บรรยากาศของการเชียร์หยุดชะงักไปพักหนึ่ง ด้วยความเศร้าเสียใจ เมื่อทุกคนตั้งสติได้ ก็ได้ร่วมใจกันเชียร์สินธุ์เพชร์ หรือเจ้าดุ่ย กันอย่างคึกคักจนถึงท่าสุดท้ายของการแข่งขันและได้รับเหรียญทองแดง ต่างแสดงความดีใจกับแม่และพ่อ รวมถึงญาติๆ ของเจ้าดุ่ย


นางจันทร์ กรวยทอง แม่ของสินธุ์เพชร์ หรือเจ้าดุ่ย เปิดเผยว่า รู้ยินดีที่ลูกได้รับเหรียญในครั้งนี้ และขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังให้กับเจ้าดุ่ย และสนับสนุนจนประสบผลสำเร็จ สิ่งที่อยากได้จากส่วนราชการคือถนนเข้าหมู่บ้านที่ยังไม่สะดวก ที่ผ่านมาไม่ได้บนบานอะไรมากมาย เพียงแต่จะเซ่นไหว้ไก่และหมูถวายศาลปู่ตา และเจ้าที่เจ้าทางเจ้าบ้านเจ้าเรือนเท่านั้น และเมื่อเจ้าดุ่ยกลับมาจะไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อกลับมาบ้านจะทำอาหารที่ลูกชอบทุกอย่างให้กิน โดยเฉพาะน้ำพริกปลาทูที่เจ้าดุ่ยชอบเป็นพิเศษ

...


อย่างไรก็ตาม หลังจากจบการแข่งขัน บรรยากาศที่บ้านก็ยังคงมีผู้คนมาแสดงความยินดี ขณะที่ทางบ้านได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้เตรียมต้อนรับ แม้ว่ายายจะเสียชีวิตลงก็ตาม ญาติๆ มีทั้งดีใจและเสียใจ โดยศพของคุณยายจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านโพนม่วง ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ต่อไป.