การเลือกตั้งสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่การหาเสียงอย่างจริงจังระหว่างตัวแทนของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งได้แก่นาง ฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีฝีปากกล้าชาวนิวยอร์ก ซึ่งต่างฝ่ายต่างเริ่มทำสงครามน้ำลายกันไปบ้างแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมา ผู้สมัครทั้งสองคนต่างต้องฟันฝ่ามรสุมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา นางคลินตันโดนตั้งคำถามเรื่องการใช้อีเมลส่วนตัวคุยงานราชการ ขณะที่นายทรัมป์ถูกฝีปากของตัวเองย้อนกลับมาเล่นงานหลายต่อหลายครั้ง จนสร้างศัตรูทั้งในและนอกพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นต้นสังกัด แต่ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าคะแนนนิยมล่าสุดของผู้แทนเดโมแครตจะนำอยู่เล็กน้อย
ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ และนโยบายบริหารเป็นเรื่องสำคัญมากก็จริง แต่เชื่อว่าหนึ่งในกลุ่มที่จะลงคะแนนให้เธอในการเลือกตั้งช่วงปลายปีนี้ ต้องมีลัทธิบูชายูเอฟโอ หรือผู้ที่เชื่อเรื่องวัตถุลึกลับจากนอกโลกรวมอยู่ด้วยแน่นอน หลังจากเธอประกาศว่า หากเธอได้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เธอจะเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอเลี่ยนที่เป็นข้อถกเถียงมานาน โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่ยูเอฟโอตกลงมาเมื่อปี 1947 และฐานทัพ แอเรีย-51 ที่เต็มไปด้วยปริศนา
...
เหตุการณ์ที่รอสเวลล์
เรื่องที่ว่า ยูเอฟโอ หรือมนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ ยังคงคำถามที่คาใจของมนุษยชาติมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการเปิดเผยภาพถ่าย-คลิปวิดีโอที่ถ่ายติดภาพวัตถุลึกลับบนท้องฟ้า, รอยปริศนาในทุ่งนา หรืออื่นๆ ยิ่งสร้างความพิศวงงงงวยมากขึ้นไปอีก แม้ผู้เชี่ยวชาญจะพยายามหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์มาหักล้างปริศนาเหล่านี้ แต่ก็ไม่อาจตอบคำถามได้สมบูรณ์หรือทั้งหมด
และปริศนาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นข้อถกเถียงและทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากที่สุดคงไม่พ้น 'เหตุการณ์ที่รอสเวลล์' ซึ่งต้องย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1974 เมื่อมีข่าวลือเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิ.ย. ว่ามีผู้เห็นแสงประหลาดที่ทุ่งนาทางตอนเหนือของเมืองรอสเวลล์ ในรัฐนิวเม็กซิโก ก่อนที่หนังสือพิมพ์ รอสเวลล์ เดลี่ เรคคอร์ด จะตีพิมพ์ข่าวสะท้านโลก (ในเวลานั้น) ในวันที่ 8 กรกฎาคม ว่ามีคนพบซากของวัตถุบางอย่างที่อาจเป็นยานบินลึกลับในทุ่งนาดังกล่าว
รายงานของรอสเวลล์ เดลี่ เรคคอร์ด เกิดขึ้นหลังจาก พันตรีเจสซี มาร์เซล เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของกองทัพอากาศเมืองรอสเวลล์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เจออะไรบางอย่างที่ทุ่งแห่งนั้นจริงๆ และหลังจากที่เขากับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ กองทัพอากาศเมืองรอสเวลล์ออกแถลงการณ์ ที่ฮือฮาอย่างมากว่า เจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศรอสเวลล์โชคดีมากที่ได้ครอบครองจานบินลำหนึ่ง
แต่เพียงไม่นานต่อมา ภาครัฐก็ออกแถลงการณ์ปฏิเสธเรื่องการพบยูเอฟโอ โดยอ้างว่าวัตถุลึกลับที่ตกลงมาเป็นเพียง บอลลูนตรวจอากาศ แต่แน่นอนว่าคำพูดของรัฐบาลไม่อาจยับยั้งข่าวลือที่แพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่งได้ เหตุการณ์ที่รอสเวลล์ยังทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดขึ้นมากว่า มีการพบเอเลี่ยนอยู่ในจานบินด้วย แต่หลักฐานทั้งหมด ถูกรัฐบาลเก็บไปหมดแล้ว ที่แอเรีย-51
แอเรีย-51
แอเรีย-51 หรือ เขตพื้นที่ 51 เป็นชื่อเรียกของเขตหวงห้ามของรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งอยู่ทางเหนือของนครลาสเวกัส ในรัฐเนวาดา ประมาณ 95 ไมล์ เป็นที่ตั้งของเขตทดลองต่างๆ และฐานทัพอากาศเนลลิส ซึ่งการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันทำให้รู้ว่า พื้นที่ที่เป็นสถานที่ที่กองทัพอากาศสหรัฐฯและบริษัทเอกชนต่างๆ ใช้วิจัย, พัฒนา และทดสอบเครื่องบินรบรุ่นใหม่ๆ ที่มีอานุภาพร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ข้อมูลของแอเรีย-51 ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด ทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดขึ้นมาเรื่อยๆ บ้างก็ว่าเป็นจุดที่รัฐบาลนำยูเอฟโอที่ตกบนโลก มาตรวจวิเคราะห์ เพื่อนำเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวไปใช้สร้างเครื่องบินรบรุ่นใหม่, เป็นจุดที่สหรัฐฯ ใช้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว และยังถูกกล่าวหาว่าถูกใช้เป็นสถานที่สร้างฉากลวงคนทั้งโลกว่า นีล อาร์มสตรอง เหยียบพื้นผิวของดวงจันทร์ด้วย
นอกจากนี้ยังเคยเกิดกรณีของนายบ๊อบ ลาซาร์ ชาวลาสเวกัสผู้อ้างว่า เคยทำงานในแอเรีย-51 ระหว่างปี 1988-89 ออกมาเปิดเผยว่า เขาพบวัตถุสิ่งบินขนาดใหญ่ที่เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าเป็นจานบินอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า เอส-4 ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ถูกออกแบบมาให้กลมกลืนไปกับพื้นทราย เขายังอ้างว่าพบเอเลี่ยนภายในนี้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทางการสหรัฐฯ ปฏิเสธคำพูดของเขา และว่าวัตถุสิ่งบินที่ลาซาร์เห็นคือเครื่องบินรุ่นใหม่ของสหรัฐฯ ต่างหาก
...
คลิปผ่าเอเลี่ยนสะท้านตับ
กระแสเรื่องยูเอฟโอที่รอสเวลล์ก็เริ่มซบเซาลงตามกาลเวลา จนกระทุ่งถูกจุดติดขึ้นมาอีกครั้งในปี 1995 หลังนายเรย์ แซนทิลลิ ผู้ทำงานเบื้องหลังในวงการบันเทิงในอังกฤษ เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ใช้ชื่อว่า 'Alien Autospy' หรือ 'การชันสูตรศพมนุษย์ต่างดาว' ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นศพของเอเลี่ยนที่ได้มาจากเหตุการณ์รอสเวลล์นี้เอง โดยวิดีโอนี้เป็นภาพที่ถ่ายอย่างชัดเจน เห็นศพของสิ่งแปลกประหลาด หัวโต ตัวเล็ก มีบาดแผลที่ขา และมีคนแต่งกายปกปิดมิดชิดเข้ามาผ่าศพ
คลิปวิดีโอของแซนทิลลิทำให้โลกต้องตะลึงได้เพียง 11 ปี ก่อนที่เขาจะออกมายอมรับในปี 2006 ว่า คลิปนี้เป็นภาพยนตร์ที่ถูกทำขึ้น ซากเอเลี่ยนก็เป็นหุ่นที่ทำขึ้นมาจากเนื้อสัตว์ แต่เขายังยืนกรานทิ้งความหวังเล็กๆให้แก่ผู้เชื่อเรื่องยูเอฟโอว่า คลิปวิดีโอการผ่าตัดของจริงนั้นมีอยู่ แต่เสื่อมสภาพตามการเวลาไปแล้ว ทำให้ต้องมีการถ่ายทำขึ้นมาใหม่เพื่อประกอบกับของเก่าที่เหลือให้เกิดความสมบูรณ์
คลินตันลั่นขุดคุ้ยเรื่องยูเอฟโอ
นางคลินตันเคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อระหว่างการเลือกตั้งขั้นต้นเมื่อหลายเดือนก่อน ว่า หากเธอได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เธอจะสั่งให้มีการขุดคุ้ยหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องยูเอฟโอ และเอเลี่ยนที่รัฐบาลสหรัฐฯ รู้ โดยเฉพาะเหตุการณ์รอสเวลล์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่ยูเอฟโอตกลงมาเมื่อปี 1947 และที่ฐานทัพ แอเรีย-51 ที่เชื่อว่าซากยูเอฟโอและเอเลี่ยนถูกเก็บซ่อนเอาไว้
...
อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ผู้นี้ยังบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า เธอเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกอาจเคยเดินทางมาเยือนโลกของเราแล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้นเอง และเมื่อถูกถามว่า ในอดีตสมัยที่บิล คลินตัน สามีของเธอดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาก็เคยพยายามเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับยูเอฟโอแต่ไม่สำเร็จ นางคลินตันก็ตอบว่า เธอจะลองอีกครั้งหนึ่ง
คลินตันจะเปิดโปงความลับสำเร็จหรือไม่?
ในขณะที่หลายคนกำลังตั้งความหวังที่จะได้รู้ความลับเกี่ยวกับยูเอฟโอที่สหรัฐฯ อาจจะปกปิดไว้ นักวิเคราะห์หลายคนก็ออกมาตั้งคำถามว่า ต่อให้ฮิลลารี คลินตัน ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี แต่สหรัฐฯ จะมีเอกสารเกี่ยวกับยูเอฟโอให้เธอได้ขุดคุ้ยหรือไม่?
นายนิค โป๊ป นักเขียนและนักข่าวซึ่งเคยสืบสวนเรื่องเกี่ยวกับยูเอฟโอให้กับกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร กล่าวว่า นับตั้งแต่ โครงการสมุดปกน้ำเงิน (Project Blue Book) ซึ่งเป็นการศึกษาข้อมูลและภัยคุกคมจากยูเอฟโอจัดทำโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ จบลงในปี 1970 สหรัฐฯ ก็ไม่เคยตั้งหน่วยงานเพื่อสืบสวนเรื่องเกี่ยวกับยูเอฟโออย่างเป็นทางการอีกเลย และผลวิจัยของโครงการสมุดปกน้ำเงิน ก็เปิดให้สาธารณะได้อ่านกันที่สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติอยู่แล้ว
...
โป๊ป กล่าวต่อว่า สิ่งที่คลินตันต้องการหา เป็นอะไรบางอย่างที่อยู่เหนือสมุดปกน้ำเงิน ซึ่งเท่าที่เขารู้ สิ่งนั้นมันไม่มี ด้านนายเท็ด โร ผู้อำนวยการศูนย์รายงานอากาศยานแห่งชาติว่าด้วยเรื่องปรากฏการณ์ผิดปกติ (Narcap) ตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลจะยอมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดออกมาหรือไม่? เพราะเคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วในอดีต