ผบ.ตร.มอบนโยบาย สตม. เน้นย้ำใช้เทคโนโลยีไอทีตรวจตราคนเข้าประเทศ ยันแม้ศัลยกรรมก็ไม่สามารถหลบหนีความผิดได้ พร้อมชวนคนใช้สิทธิลงประชามติ 7 ส.ค.นี้ มอบหมาย ศรีวราห์ กำกับดูแลจุดลงเสียงทั้ง 94,000 จุด ...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวมอบนโยบายการบริหารราชการ และแนวทางการปฏิบัติงานให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่าเน้นย้ำในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงตรวจตราคนเข้า-ออก โดยใช้เทคโนโลยีไอทีในการตรวจตรา เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองถือเป็นประตูแรกของการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมได้เน้นย้ำ พล.ต.ท.ณัฐธร ผบช.ตม. ให้กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด ส่วนการป้องกันอาชญากรที่ศัลยกรรมปลอมแปลงใบหน้า หรือ Face off นั้น ทางเจ้าหน้าที่มีขั้นตอนการตรวจสอบในหลายภาคส่วน แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงใบหน้า แต่ก็ยังมีหลักฐานอื่นที่สามารถนำมาใช้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดได้ ยืนยันแม้ศัลยกรรมก็ไม่สามารถหลบหนีความผิดได้อย่างแน่นอน

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้เชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ซึ่งตนก็ได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดออกมาใช้สิทธิลงเสียงเช่นกัน ส่วนการรักษาความปลอดภัยในวันลงเสียงประชามติ ในวัน 7 ส.ค. นั้น มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นผู้กำกับดูแลจุดลงเสียงทั้ง 94,000 จุด โดยมีการระดมกำลังพลกว่า 200,000 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ยืนยันไม่กังวลกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งมีการจับกุมผู้ที่กระทำความผิดไปแล้วด้วย ยืนยันไม่ว่าอย่างไรก็ยึดถือการดำเนินการตามกฎหมายเป็นหลัก และมั่นใจว่าขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มการต่อต้านที่เชื่อมโยงกับการเมืองแน่นอน

พล.ต.ท.ณัฐธร เผยว่า สำหรับมาตรการในการป้องกันผู้ต้องหาที่ลักลอบหลบหนีและศัลยกรรมใบหน้าเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งป้องกันกรณีที่มีการให้บุคคลหน้าคล้ายไปทำเอกสารราชการหรือพาสปอร์ตแทนนั้น หลังจากได้ทำเรื่องของบประมาณจากรัฐบาลในการสั่งซื้อเครื่องไบโอเมตริค ซิสเท็ม ที่ไว้ใช้ในการตรวจสอบใบหน้าและลายนิ้วมือ ป้องกันบุคคลต้องห้ามแล้วนั้น ล่าสุดได้บริษัทที่จะมาดำเนินการแล้ว อยู่ระหว่างพูดคุยและทำสัญญากัน คาดว่าไม่เกิน 6-8 เดือน เครื่องดังกล่าวจะสามารถติดตั้งได้.

...