เมื่อ 26 มิ.ย. 4 วันหลังสหราชอาณาจักร (ยูเค) ลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลองด์ แห่งฝรั่งเศส 2 ชาติยักษ์ใหญ่ในอียู กล่าวว่า พวกตนเห็นพ้องกันเต็มที่ว่าจะรับมือผลกระทบอย่างไร โอลองด์เตือนว่าถ้าแยกกันจะเสี่ยงแตกแยก ขัดแย้งและทะเลาะกัน แต่การตัดสินใจของยูเคที่เคยเป็นสิ่งไม่คาดฝันแก้กลับไม่ได้แล้ว

แมร์เคิลยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกับโอลองด์ นายกฯแมตเตโอ เรนซี แห่งอิตาลี และนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานอียู ในกรุงเบอร์ลิน ขณะที่นายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปกรุงลอนดอนและกรุงบรัสเซลส์เพื่อหารือผลกระทบเช่นกัน ผู้นำอียูส่วนใหญ่ยังต้องการยูเครีบใช้มาตรา 50 ในสนธิสัญญาลิสบอน เริ่มกระบวนการเจรจาถอนตัวโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้มีนายกฯใหม่ในเดือน ต.ค. ดังที่นายกฯเดวิด คาเมรอน ระบุ

แต่นายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังยูเค กล่าวว่า ยูเคควรเริ่มกระบวนการเจรจาถอนตัวหลังมองออกชัดเจนแล้วว่าอนาคตของยูเคในอียูจะเป็นอย่างไร ส่วนนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ผู้นำฝ่ายรณรงค์ถอนตัว ตัวเก็งนายกฯคนใหม่ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องรีบเจรจาถอนตัว และยูเคยังเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป

เจ้าหน้าที่อียูยังเผยว่า อียูเตรียมย้ายธนาคารอียู (อีบีเอ) จากกรุงลอนดอนไปประเทศอื่น อาจเป็นกรุงปารีสในฝรั่งเศสหรือเมืองแฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนี ส่วนโพลของสถาบันผู้อำนวยการ (ไอโอดี) ระบุว่า ผู้นำธุรกิจของอังกฤษถึง 1 ใน 5 กำลังพิจารณาจะย้ายฐานธุรกิจไปต่างประเทศ ขณะที่ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์เผยว่าจะร่วมมือกันเจรจาหาข้อตกลงด้านการค้าและผู้อพยพกับอียูใหม่

ส่วนนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ฝ่ายค้านหลักของยูเค ยืนยันจะไม่ลาออก แม้รัฐมนตรีเงาของพรรคลาออกแล้ว 11 คนเพื่อกดดันให้เขาลาออก โทษฐานนำทีมรณรงค์หาเสียงสนับสนุนให้ยูเคอยู่ในอียูต่อไปอย่างไร้ประสิทธิภาพจนพ่ายแพ้ ด้านโพลล่าสุดของสำนัก “เซอร์เวชั่น” ระบุว่า ชาวสกอตส่วนใหญ่ร้อยละ 44.7 ไม่ต้องการให้มีการลงประชามติแยกสกอตแลนด์จากยูเคเป็นครั้งที่ 2 เทียบกับร้อย 41.9 ที่เห็นตรงข้าม

...

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรโรมันคาทอลิก เรียกร้องให้อียูหาวิธีใหม่ที่สร้างสรรค์เพื่ออยู่ร่วมกันต่อไป ส่วนนายกฯ หลี่ เค่อเฉียง แห่งจีน กล่าวว่าการที่ยูเคลงประชามติถอนตัวทำให้ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกทวีขึ้น ด้านนายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง ฉายา “พ่อมดการเงิน” เผยว่าตนไม่ได้เก็งกำไรจากค่าเงินปอนด์ก่อนการลงประชามติ.