เมื่อวานนี้มีข่าวเล็กๆของหน้าการศึกษา-ศาสนา-สาธารสุข ของไทยรัฐ อยู่ข่าวหนึ่ง ที่ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องใหญ่อยากจะฝากให้ผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาว่า เราจะหาทางออกให้แก่สิ่งที่เกิดขึ้นตามเนื้อข่าวนี้อย่างไรได้บ้าง?
ข่าวที่ว่านี้พาดหัวไว้ว่า “รพ.รามาฯ แฉพบนักมวยเด็ก 69% สมองผิดปกติ” พร้อมกับรายงานรายละเอียดว่า เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการเสวนาของกรมกิจการเด็กและเยาวชน และศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก โดย ศ.พญ.จิรพร เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้า ศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้าฯ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
ผลจากการวิจัยพบว่า ปัจจุบันมีนักมวยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ลงทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ของการกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวนถึง 9,998 คน
ทีมวิจัยได้สะแกนสมองด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอ กับอาสาสมัครจากเด็กทั่วไป 253 ราย และจากนักมวยเด็ก 323 คน ผลการวิจัยเบื้องต้นพบว่า นักมวยเด็กถึง 69 เปอร์เซ็นต์ มีความผิดปกติทางสมอง
เช่นมีจุดเลือดออกทางสมอง มีน้ำรอบเซลล์สมองมากกว่าเด็กทั่วไป ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะสมองบวม มีการสะสมของธาตุเหล็กในสมองที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลต่อการมีเลือดออกในสมองและลดการทำงานของสมองด้านความจำ
อันจะส่งผลต่อระดับเชาวน์ปัญญาที่ลดลงตามเวลา การชกมวยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ผมเห็นด้วยครับว่า การค้นพบครั้งนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง
สมควรที่จะมีการวิจัยหรือทดลองต่อไปเพื่อให้ได้ผลสรุปออกมาอย่างแท้จริงและชัดเจนว่า การให้เด็กๆขึ้นชกมวยนั้น มีผลกระทบต่อสมอง ของเด็กมากน้อยเพียงใด
เพื่อที่จะหาทางป้องกัน มิให้เด็กๆที่ฝึกหัดมวยและขึ้นต่อยมวย เด็กได้รับผลกระทบทางสมอง (หรืออาจจะมีอย่างอื่นๆอีกก็ได้) จนถึงขั้นที่อาจจะทำให้เชาวน์ปัญญาต่างๆลดลง ดังที่ผลการวิจัยขั้นต้นชี้ไว้
...
จริงๆแล้วกฎหมายของเราได้ห้ามไว้แล้วว่า ผู้ที่จะขึ้นเวทีชกมวยอาชีพได้นั้น ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และเท่าที่ติดตามข่าวเวทีต่างๆใน กทม. หรือเมืองใหญ่ๆจะเคร่งครัดมากในเรื่องอายุ
แต่ตามเวทีต่างจังหวัด ยังคงมีการจัดมวยเด็กอยู่หลายแห่ง ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ขึ้นชกอยู่เนืองๆ บางครั้งอายุ 7-8 ขวบ ก็มีการจัดการแข่งขัน
ผมเข้าใจในภาวะความเป็นจริงของสังคมไทยในชนบทที่ยังมีความยากจนอยู่มาก และทำให้พ่อแม่ต้องหันมาให้ลูกๆหัดมวย เพื่อหวังจะขึ้นชกมวยหารายได้ในอนาคต
จึงมีการส่งเสริมให้เด็กๆหัดมวยอย่างกว้างขวาง จนตัวเลขนักมวยเด็กมีสูงถึงเกือบ 1 หมื่นคนทั่วประเทศ ดังที่รายงานวิจัยฉบับนี้กล่าวอ้าง
เคยมีคำถามว่า ทำไมถึงยังมีการจัดมวยเด็กอยู่? เพราะเด็กๆต่อยกันจะไปสนุกอะไรนักหนา...ดูผู้ใหญ่ต่อยกันน่าจะสนุกกว่า มันกว่าเยอะ
ซึ่งก็มีคำตอบว่า เหตุที่ยังมีการจัดมวยเด็ก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการพนัน เพราะเด็กๆมักจะไร้เดียงสา จึงชกกันจริงจัง ไม่มีล้มมวยเหมือนผู้ใหญ่ นักพนันจึงชอบ
ผมไม่แน่ใจว่าคำตอบนี้เป็นคำตอบที่สะท้อนความจริงอย่างถ่องแท้หรือไม่...ถ้าใช่...ก็คงต้องวิงวอนขอร้องว่าขอให้เลิกเสียเถอะครับ ความคิดที่จะสนุกหรือได้เสียกับการพนันแบบนี้
เพราะสิ่งที่เสียหายมากกว่าก็คือ ชีวิตของเด็กกลุ่มหนึ่งที่อาจจะต้องสมองพิการหรือกลายเป็นคนด้อยปัญญาไปตลอดชั่วอายุขัย
ซึ่งจะเป็นการเสียหายต่อประเทศชาติเป็นส่วนรวมด้วย เมื่อประชากรจำนวนมากของประเทศไทยอาจมีปัญหาด้านสมองพิการ
ผมต้องขอขอบคุณทีมวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สำหรับงานวิจัยอันทรงคุณค่าชิ้นนี้ และขอวิงวอนไปถึง “ผู้ใหญ่” ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวงการมวยไม่ว่าโปรโมเตอร์มวย หัวหน้าคณะนักมวยและ ฯลฯ
อย่าจัดมวยเด็กขึ้นชกอีกเลย...รอให้อายุ 15 ปีตามกฎหมายแล้วค่อยว่ากัน ระหว่างอายุไม่ถึงจะหัดมวยให้เตะกระสอบทรายหรือฝึกสอนขบวนท่าลีลาแม่ไม้ต่างๆไปก่อนก็ไม่ว่า...แต่ถึงขั้นขึ้นเวทีชกกันนั้น ควรรออายุ 15 ปีอย่างเดียวเท่านั้น
อย่าเห็นแก่ความสนุกหรือเห็นแก่เงินที่จะได้จากมวยเด็กกันมากจนเกินเหตุเลยครับ...ขอให้เห็นแก่อนาคตของเด็กไทยกันบ้างเถิด.
“ซูม”