"อรรถวิชช์" แฉ กระทรวงพลังงานลักไก่ต่อสัมปทาน จี้ควรรอให้การแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเสร็จก่อน หวั่นเอื้อประโยชน์สัมปทานรอบที่ 21ให้กับเจ้าเดิม "เชฟรอน-ปตท." ย้ำ 2 แหล่งก๊าซมีก๊าซอีกมาก...

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันที่ 30 พ.ค. นี้ กระทรวงพลังงานจะเสนอเรื่องการต่ออายุสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติ เอราวัณและบงกช ที่จะหมดอายุในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ โดยจะเจรจากับเจ้าของสัมปทานเดิมก่อน หากไม่สำเร็จจึงเปิดประมูลรายใหม่ ต่อที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งตนเห็นว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากควรรอให้การแก้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเสร็จสิ้นก่อน เพราะร่างกฎหมายก็ผ่านสำนักงานกฤษฎีกามาแล้ว เหลือแค่เข้าสภา สนช. ซึ่งหากไม่มีการดึงเกม คาดว่าราว 1 เดือนก็เสร็จแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องวนกลับมาทะเลาะกับภาคประชาชนในเรื่องนี้อีกครั้ง

"ร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียม ที่แก้กันอยู่จะช่วยเพิ่มทางเลือกว่า จะทำสัมปทานในระบบรับเป็นเงินค่าภาคหลวงแบบเดิม หรือจะใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต หรือการว่าจ้างผลิตให้ก็ได้ และยังแก้ปัญหาการนำค่าใช้จ่ายของหลุมเก่า มาหักภาษีในหลุมใหม่ด้วย หากไม่รอแก้กฎหมาย เกณฑ์ใหม่จะให้นำไปใช้ตอนไหน เพราะหากต่ออายุให้เจ้าเดิมคือ เชฟรอน กับ ปตท.สผ. ในแหล่ง บงกช กับ เอราวัณ ไปแล้วก่อนรอกฎหมายออก ก็เท่ากับว่า สัมปทานรอบ 21 ก็คงจะเสร็จบริษัทเจ้าเดิมเช่นกันเพราะพื้นที่สัมปทานรอบที่ 21 กับแหล่งก๊าซธรรมชาติ 2 แหล่งดังกล่าวมันใกล้กัน ผมคิดว่าการต่ออายุสัมปทานแหล่งเอราวัณ-บงกช สำคัญกว่าสัมปทานรอบที่ 21 มาก เพราะทั้ง 2 แหล่งนี้ยังคงมีก๊าซอีกมากแน่ๆ โดยสามารถผลิตก๊าซได้ 70% ของการผลิตก๊าซทั้งอ่าวไทย คิดเป็น 50% ของความต้องการของประเทศ" นายอรรถวิชช์ กล่าว.

...