ผู้ใช้บริการสายการบินนกแอร์ ที่สนามบินภูเก็ต โวยเคาน์เตอร์เช็กอินปิดก่อนเวลา ปฏิเสธเลื่อนไฟลต์ เสียเงินฟรี ต้องควักกระเป๋าซื้อตั๋วใหม่ วอนผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้โดยสาร...
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 59 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ วิพงศ์ศักดิ์ มงคลบุตร ซึ่งเป็นกรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอันดามันได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับปัญหาการใช้บริการสายการบินในสนามบินนานาชาติภูเก็ตและฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งข้อความดังกล่าวระบุว่า “ฝากเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กทุกคนทราบเกี่ยวกับสายการบินนกแอร์ภูเก็ตกับบริการที่แย่ จองตั๋วไฟลต์บิน 07.50 น. เคาน์เตอร์ปิดเช็กอินก่อนเครื่อง Boarding 30 นาที แต่ผมมาถึงก่อน 40 นาที พนักงานบอกว่า เคาน์เตอร์ปิดแล้ว ผมได้ถามกลับไปว่าจะทำยังไง เวลายังเหลืออีก 40 นาที ทำไมถึงปิดแล้ว ความเสียหายตรงนี้ใครรับผิดชอบ พนักงานบอกคำเดียวว่า ถ้าจะไปต้องซื้อตั๋วใหม่ เลื่อนไฟลต์ไม่ได้ ผมว่าการบริการอย่างนี้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไปรึเปล่า มีกฎหมายข้อไหนที่จะคุ้มครองผู้บริโภคได้บ้าง ฝากไปยังหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลหน่อยนะครับ อย่าปล่อยให้สายการบินนกแอร์ต้องเอาเปรียบผู้บริโภคหรือผู้โดยสารอย่างนี้ตลอดไป ฝากเพื่อนๆ อย่าใช้บริการ ถ้ายังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลการบริหารจัดการของสายการบินนี้” นอกจากนี้ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า “ต้องซื้อตั๋วโดยสารใหม่อีกหกพันกว่าบาทของบางกอกแอร์เวย์ส”
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายวิพงศ์ศักดิ์ ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวระบุว่า ตนเองจองตั๋วเดินทางกับสายการบินดังกล่าวพร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดยระบุเวลาเดินทางออกจากสนามบินภูเก็ต 07.50 น. ถึงสนามบินดอนเมืองเวลา 09.15 น. ซึ่งตามกฎแล้วเคาน์เตอร์เช็กอินจะเปิดให้ผู้โดยสารทำการเช็กอินก่อนเวลาออกเดินทาง 2 ชั่วโมง และปิดให้บริการ 30 นาทีก่อนเวลาออกเดินทาง ตนจึงรีบเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 07.10 น. ซึ่งเหลือเวลาอีก 40 นาที แต่พนักงานบอกว่าเคาน์เตอร์เช็กอินปิดแล้ว จึงถามว่าทำไมถึงปิดแล้ว เพราะยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อย ก็ไม่ได้รับคำตอบ ถามต่อว่าพอจะเปลี่ยนไฟลต์บินให้ได้หรือไม่ ทางพนักงานแจ้งว่า ถ้าเปลี่ยนไฟลต์บินต้องซื้อตั๋วใหม่เท่านั้น ตนเองพยายามพูดคุยอยู่นาน แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงตัดสินใจซื้อตั๋วใหม่กับอีกสายการบิน เพื่อเดินทางไปทำธุระต่อ โดยต้องซื้อใหม่ทั้ง 3 คน ในราคากว่า 6,000 บาท
...
อย่างไรก็ตาม นอกจากกลุ่มตนแล้ว ยังมีผู้ที่จองตั๋วไฟลต์เดียวกันอีก 1 รายที่เดินทางมาถึงภายหลังตน ซึ่งก็ถูกปฏิเสธการเดินทางในไฟลต์บินดังกล่าวด้วย รวมเป็นทั้งหมด 4 ราย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการด้วย