ป้องกันจังหวัดกาญจน์ พร้อมทหาร ฉก.ลาดหญ้า ซุ่มรวบ 8 แรงงานชาวเมียนมา พร้อมผู้นำชาวไทยอีก 2 ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดี ด้านผู้ว่าฯ สั่งจับตา-เข้มงวด ขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย...

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 นายยงยุทธ สุโนภักดิ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังไปซุ่มโป่งบริเวณป่าชายเขาบ้านห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีขบวนการขนแรงงานชาวเมียนมานำแรงงานมาพักไว้ที่บริเวณดังกล่าว

จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.30 น. พบเห็นรถจักรยานยนต์เปิดไฟหน้าปิดหัวปิดท้ายวิ่งลัดเลาะมาตามชายเขา ระหว่างกลางของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน มีกลุ่มบุคคลเดินเรียงแถวตามกันมาจำนวนหนึ่ง เมื่อมาถึงจุดที่ซุ่มโป่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว พร้อมปิดล้อมจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด ประกอบไปด้วยแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 8 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 1 คน ส่วนผู้นำพาเป็นคนไทย 2 คน ทราบชื่อ นายสมชาย เพชรดำดี อายุ 27 ปี ชาว ต.ศรีสำราญ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และนายวิรัตน์ พวงแก้ว อายุ 40 ปี ชาว ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวแรงงานชาวเมียนมา พร้อมผู้นำพาชาวไทยและรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน มาที่สำนักงานป้องกันจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อสอบปากคำและลงบันทึก ก่อนที่จะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

...

ทั้งนี้ นายยงยุทธ เปิดเผยว่า นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งกำชับให้ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้เฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น

"ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการขนแรงงานข้ามชาติมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันขบวนการเหล่านี้เริ่มหันมาใช้เทคนิคใหม่ๆ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ด้วยการแฝงตัวเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยว โดยขอเอกสารเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีอย่างถูกต้อง ซึ่งเอกสารที่ออกให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ 7 วัน แต่จะต้องอยู่เฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีเท่านั้น หลังจากได้รับการอนุญาต แรงงานเหล่านี้ก็จะฉวยโอกาสหลบหนีไปทำงานตามโรงงานต่างๆ ในพื้นที่ชั้นใน รวมทั้งพื้นที่อำเภอท่ามะกาและจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีกลุ่มบุคคลไทยคอยอำนวยความสะดวกให้"

ซึ่งป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี ประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่เขตรอยต่อกับอำเภอเมืองกาญจนบุรี ให้เฝ้าระวังและช่วยสังเกตการณ์อีกทางหนึ่ง พร้อมฝากไปถึงผู้ประกอบการโรงงานต่างๆ ขอให้นำแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายตามที่รัฐบาลผ่อนผันให้ไม่เกินวันที่ 29 ก.ค.นี้ หากเลยกำหนดแล้วผู้ประกอบการยังนิ่งเฉยไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าตรวจสอบ หากจับกุมได้ผู้ประกอบการก็จะถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด