เมื่อจันทร์ที่ผ่านมา หน่วยงานสำคัญภาครัฐ 3 หน่วย ที่ทำหน้าที่ในฐานะเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มานั่งแถลงข่าวร่วมกันเป็นครั้งแรก...ได้แก่ บีโอไอ, ททท. และกระทรวงพาณิชย์

เครื่องยนต์ตัวที่ 1 คือบีโอไอ หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแถลงว่า ยอดขอส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรกปีนี้ มีจำนวนถึง 311 โครงการ เพิ่มจากระยะเดียวกันของปีที่แล้วถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มูลค่ารวมกันถึง 89,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 234 เปอร์เซ็นต์

สำหรับเครื่องยนต์ที่ 2 หรือการท่องเที่ยวนั้น ตัวแทนของ ททท. ยืนยันว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้ว 9 ล้านคนเศษ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีกลาย สร้างรายได้ประมาณ 455,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์

ในส่วนของการส่งออกหรือเครื่องจักรเครื่องที่ 3 นั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นผู้แถลงสรุปว่า เฉพาะเดือนมีนาคม มีมูลค่า 19,124 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการขยายตัวบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และเมื่อรวม 3 เดือน หรือไตรมาสแรก มูลค่าส่งออกจะเท่ากับ 53,829 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 0.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีกลาย

“การส่งออกเริ่มเปลี่ยนจากแดนลบมาเป็นแดนบวก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่มีมูลค่าส่งออกเป็นบวก เพราะทั่วโลกยังลบอยู่มาก” ดร.สุวิทย์กล่าวย้ำและฝากความหวังไว้ว่า

“หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเครื่องจักร 3 ตัวของเรา เครื่องติดแล้ว ถ้าขับเคลื่อนไปได้พร้อมกัน รวมกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ลงไปถึงมือประชาชน เศรษฐกิจไทยจะโตอย่างมีเสถียรภาพแน่นอน”

จริงๆแล้วตัวแทนทั้ง 3 เครื่องจักรให้ข้อมูลและรายละเอียดมากกว่านี้ ผมไม่มีเนื้อที่พอจะลงได้ทั้งหมดก็ขออนุญาตสรุปเฉพาะประเด็นหลักๆในภาพรวมเท่านั้น

...

ถ้ามีใครถามว่าอ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง? ผมก็คงต้องตอบว่ารู้สึกใจชื้นขึ้นมาพอสมควรที่ได้รับทราบข่าวดีชิ้นนี้ แม้จะเป็นเพียงข่าวดีที่ยังจะต้องตีความและต้องวิเคราะห์ในรายละเอียดอีกมาก แต่อย่างน้อยเมื่อในภาพรวมๆดูดีขึ้น ก็คงต้องทำใจให้ชุ่มชื้นเอาไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ถ้าเราวิเคราะห์ตัวเลขให้ละเอียดหรือตีความให้ลึกลงไปอีกก็จะพบว่า มีอีกหลายๆประเด็นที่จะต้องติดตามกันต่อไปว่าตัวเลขที่ว่าดีนั้น ดีร้อยเปอร์เซ็นต์จริงหรือไม่

ด้านการลงทุนดูแล้วน่าจะดีจริง เห็นรายชื่อโครงการ เห็นประเภทโครงการที่ขอล้วนสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาของโลก...เพียงแต่ผลยังไม่เกิด เพราะยังต้องขอการลงทุนจริงๆเสียก่อน ก็ไม่เป็นไรประเด็นนี้รอได้เพราะเมื่อถึงเวลาก็จะมีเงินเข้ามา มีโรงงาน มีการก่อสร้าง มีการจ้างงานตามมาทีหลัง

ด้านการท่องเที่ยว แม้จะน่าดีใจที่ตัวเลขดีมาก แต่มีประเด็นจะต้องช่วยกันปรับปรุงแก้ไขอีกเยอะ เพราะส่วนมากยังเป็นนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งทราบกันดีว่ามีทั้งทัวร์ศูนย์เหรียญ มีทั้งตัวแทนอำพราง บริษัทจีนคนจีนเข้ามากินหัวคิวค่อนข้างมาก ต้องดูให้ดีๆว่าที่เราจะมีรายได้เท่านั้นเท่านี้ล้านบาทนั้น เป็นของเราเต็มเม็ดเต็มหน่วยแค่ไหน

ในด้านส่งออกนั้น...ถ้าดูรายละเอียดจะเห็นว่าที่ส่งออกได้ดียังคงเป็นรถยนต์ ส่วนประกอบเครื่องจักรกล อัญมณี ฯลฯ และอุตสาหกรรมบางประเภท แต่ที่น่าห่วงก็คือ สินค้าเกษตรต่างๆยังคงย่ำแย่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นรายได้หลักของเกษตรกรในหลายๆภาค ยังคงลดทั้งราคาและปริมาณ ดังนั้น ถึงภาพรวมจะเพิ่มขึ้น แต่ดูละเอียด เป็นรายสาขาแล้วยังต้องลุ้นกันต่อไป อย่าได้วางใจหรือดีใจเกินเหตุ ที่เห็น ตัวเลขส่งออกโดยรวมเพิ่มขึ้น

ครับ! ก็ฝากข้อคิดเอาไว้เพื่อให้ภาครัฐไปดูแลเครื่องยนต์ทั้ง 3 ตัวให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและอย่างต่อเนื่อง

อย่าลืมว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นมากนัก นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกยังคงไม่มั่นใจว่าจะมีการฟื้นตัวในปีนี้--ในขณะที่ภาคเอกชนไทย อย่างคุณ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานธนาคารกสิกรไทย ท่านก็บอกว่า เศรษฐกิจไทยแค่กระเตื้องเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นฟื้นตัว

ก็หวังว่าท่าน รมช.สุวิทย์ เมษินทรีย์ จะรับฟังไว้แล้วไปเร่งรัดจัดการให้กระเตื้องมากขึ้นเท่าที่จะมากได้...ช่วยกันอย่างเต็มที่ทุกๆฝ่าย ต้องฟื้นตัวได้แน่นอน เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง.

"ซูม"