นํ้าพริกเผากินไม่อร่อยแล้ว เมื่อเรื่องราวคดีการฮุบมรดกเริ่มบานปลายแฉเบื้องหลังความขัดแย้งของ “แม่-ลูก” ที่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาและเป็นคู่ความขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะทรัพย์สินมรดกเงินก้อนโตที่ไม่เข้าใครออกใคร เผยแม่พยายามขอคืนทรัพย์สินที่เป็นสินสมรส แต่ลูกไม่ยอม เรื่องจึงคาราคาซัง ขณะที่หลานสาวคนโต “แม่ประนอม” โพสต์ไอจี ไม่อยากโต้ตอบยาย ขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ศึกสายเลือดคดีฮุบทรัพย์สินมรดกบุพการี ในกิจการน้ำพริกเผาพันล้านยังเข้มข้นต่อเนื่อง หลังนางประนอม แดงสุภา เจ้าของกิจการ ออกทีวีแฉแหลก ยันไม่เคยโอนหุ้นทั้งของตัวเองกับสามีให้ลูกสาวคนโต ลูกเขยและหลาน ทั้งไม่เคยคิดขายกิจการน้ำพริกเผาพันล้านให้กับใคร ยังคงหาข้อยุติไม่ได้ และส่อเค้าว่าจะบานปลายไปกันใหญ่

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายทวิชา หวังโภคา ที่ปรึกษา ด้านกฎหมายของนางศิริพร แดงสุภา ฝ่ายลูกสาว เปิดเผยว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้เลขานุการติดต่อมายังนางศิริพร นัดเข้าเยี่ยมสอบถามสารทุกข์สุกดิบ แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ท่านบอกว่าเรื่องอยู่ในกระบวนการศาล การไกล่เกลี่ยเป็นอำนาจของศาล จะไปก้าวล่วงไม่ได้ ในส่วนของนางศิริพร หากมีการไกล่เกลี่ยจริง ยินดีอย่างมากที่จะพูดคุยเจรจากัน เพื่อหาทางยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ต้องรอการประสานจากเลขานุการของ ม.ล.ปนัดดา อีกครั้งว่าจะนัดวันเวลาใด

นายทวิชากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนางประนอม เป็นผู้จัดการมรดกของนายศิริชัย สามี ตามคำสั่งศาลตลิ่งชันและเป็นผู้รวบรวมทรัพย์สินทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้นางศิริพร ลูกสาวคนโตและนายสุชาติ ลูกเขย คืนที่ดิน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 97 แปลง ซึ่งนางประนอมและนายศิริชัย ซื้อในนามของนางศิริพร 77 แปลง และนายสุชาติ ลูกเขย อีก 20 แปลง เรื่องนี้นางประนอมยื่นฟ้องนางศิริพรที่ศาลตลิ่งชัน ศาลนัดไต่สวนปัญหารายละเอียดในเรื่องนี้วันที่ 11 เม.ย.2559 ตนยังไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดได้ เพราะจะกลายเป็นก้าวล่วงอำนาจศาล

...

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้นางศิริพร แดงสุภา และนายสุชาติ ภาษาประเทศ ได้เคยยื่นคำให้การต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2558 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของนางประนอม โดยยืนยันว่าทรัพย์สินที่ได้มานั้นได้มาโดยสุจริต

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากคนที่เคยทำงานใกล้ชิดนายศิริชัย แดงสุภา ว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างนางประนอมและนางศิริพร สองแม่ลูก เพิ่งเกิดขึ้นหลังจากนายศิริชัย เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้ นางประนอม เป็นคนที่รักและตามใจนางศิริพรมากที่สุด ในจำนวนลูกทั้ง 4 คน ไม่ว่านางศิริพรจะทำผิดพลาดอะไร นางประนอมจะปกป้องและให้การช่วยเหลือตลอด รวมทั้งเป็นแม่งานจัดงานแต่งงานให้นางศิริพรกับนายสุชาติ อีกด้วย

ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายศิริชัยไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามผู้เปิดเผยรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่านางศิริพร เป็นคนที่มีวาทศิลป์ และเข้าหาผู้ใหญ่ได้ดี ทำให้นายศิริชัยและนางประนอมไว้วางใจ ให้นางศิริพร ดูแลส่วนการบริหารในโรงงาน ดูแลความเป็นอยู่ของน้องๆ รวมทั้งลูกหลานในตระกูลแดงสุภาและตระกูลวงษ์ประดิษฐ์ที่นายศิริชัยเอามาส่งเสียเลี้ยงดู แทนพ่อและแม่ แต่ไม่เคยได้ยินว่านายศิริชัยสั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น

คนใกล้ชิดนายศิริชัยกล่าวอีกว่า กระทั่งนายศิริชัยเสียชีวิต และนางประนอมได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก ได้เรียกรวมทรัพย์สินกองมรดกทั้งหมด ซึ่งเดิมนางประนอม ตั้งใจอยากได้เฉพาะที่ดิน 41 แปลง ที่เป็นสินสมรสของนางประนอมกับนายศิริชัยที่ซื้อด้วยกัน หุ้นบริษัทในส่วนของนายศิริชัยของนางประนอม และของ น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา แล้วจะโอนที่ดิน 97 แปลง ที่ก่อนหน้านี้ซื้อไว้ในชื่อนางศิริพรและนายสุชาติ คืนกลับไปให้ แต่ปรากฏว่า นางศิริพรไม่ตกลงด้วย จึงเกิดการฟ้องกัน

“ต่อมาเมื่อศาลจังหวัดนครปฐม สั่งให้นางประนอมและนางศิริพรไปไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกัน ทั้งคู่จึงไปที่บ้านของเพื่อนสนิทของนายศิริชัยคนหนึ่งที่นางประนอมและนางศิริพรให้ความนับถือ โดยนางประนอมได้ยื่นข้อเสนอสุดท้าย โดยขอเฉพาะที่ดินโรงงานเก่า 13 แปลง ที่ดินที่ อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม กับอีก 12 แปลงและบ้านที่เขาใหญ่ มูลค่า 10 ล้าน กับเงินสด 300 ล้านบาท แต่นางศิริพรก็ไม่ยอมอีก ความขัดแย้งจึงคาราคาซังจนถึงวันนี้” คนใกล้ชิดนายศิริชัยกล่าว

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดนครปฐม สาขาอำเภอนครชัยศรี กรณี ที่ดินที่มีปัญหา ระหว่างนางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้ง น้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม กับนางศิริพร แดงสุภา ลูกสาวคนโต ที่ถูกนางประนอมกล่าวหาว่าฮุบกิจการทั้งหมด ที่นางประนอมเป็นผู้ก่อตั้ง และมีที่ดินมากมายใน อ.นครชัยศรี ซึ่งซื้อไว้ตั้งแต่ในสมัยที่ นายศิริชัย แดงสุภา สามีนางประนอมยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่ที่ดินเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า ที่ดินที่เป็นชื่อของนางศิริพร แดงสุภา อยู่ในพื้นที่ ต.ท่าพระยา อ.นครชัยศรี เป็นโฉนด 9 แปลง เป็นชื่อของนายศิริชัย แดงสุภา สามีของนางประนอม 1 แปลงที่ยังไม่ได้มีการโอนและเป็นของนายสุนทร แดงสุภา น่าจะเป็นญาติของนายศิริชัย 1 แปลงอยู่ใน ต.วัดแค อ.นครชัยศรี รวมทั้งหมด 11 แปลง มีเนื้อที่รวมกันกว่า 40 ไร่ ราคาประเมินตารางวาละ 4,500 บาท จนต่ำสุดอยู่ที่ตารางวาละ 800 บาท ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ติดถนนในหมู่บ้านหรือชุมชนทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน นางอุรชา พีชาสารานนท์ กรรมการและผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาแม่ประนอม จำกัด บุตรของนางศิริพร แดงสุภา และเป็นหลานสาวคนโต ของนางประนอม ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมส่วนตัว “Japannzo” ใจความว่า “ขอทำทุกอย่างอย่างมีเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ โอดตกเป็นจำเลยสังคม แต่จะมาตอบโต้ผู้เป็นยาย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากครอบครัวคดโกงและเลวจริง คงมีญาติพี่น้องมากมาย ออกมาร่วมประณามมากกว่าคนหนึ่งคน ที่มานั่งกำกับบท”