นายกฯ เป็น ปธ. ถกร่วม คตช. ดำเนินการปราบทุจริต ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ด้าน "เลขา ป.ป.ท." แจงพบเรื่องร้องเรียนหน่วยงานรัฐ 894 เรื่อง พร้อมประสานต่างชาติ เดินหน้าปราบโกง ขณะที่ "เมสซี่เจ" ขอร่วมส่งกำลังใจให้นายกฯ ลุยงานเพื่อความสุขของคนในชาติ

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ชาติอุดม ติตถะสิริ ประธานกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) พร้อมด้วย นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แถลงผลการประชุม คตช. ครั้งที่ 2/2559 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน

โดย พล.อ.ชาติอุดม กล่าวว่า นายกฯให้นโยบายว่ารัฐบาลยังคงดำเนินการปราบปรามการทุจริตภายใต้ธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง หากพบกระทำความผิดต้องนำเข้ากระบวนการยุติธรรม และเน้นย้ำให้สร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องและกว้างขวาง เพื่อให้ประชาชนรับรู้ในวงกว้าง โดยเฉพาะองค์กรการศึกษา ตามหลักสูตรโตไปไม่โกง และในช่วงลดเวลาเรียนสร้างเวลารู้ พร้อมขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน โดยเฉพาะกับโทรทัศน์ให้หาเวลาที่เหมาะสมในการประชาสัมพันธ์ รวมถึงต้องมีการตรวจสอบการรับรู้ของประชาชนให้เป็นข้อมูลตัวเลขที่ในเชิงปริมาณ เพื่อให้เห็นผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน พร้อมทั้งเร่งรัดการแก้ไขกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เช่น ระเบียบพัสดุ การกำหนดราคากลาง เป็นต้น เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว  ส่วนการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ ทางกรมบัญชีกลางต้องมีการเปิดเผยผ่านเว็บไซต์และเอกสารด้วย

ด้าน นายประยงค์ กล่าวว่า นายกฯยังให้นโยบายว่า การแก้ไขต้องมุ่งเน้นการปฏิบัติให้เกิดธรรมภิบาลภาครัฐ และต้องมีการป้องกันอย่างจริงจัง หากมีข้อสงสัยว่ามีการทุจริตขึ้น สามารถแจ้งต้นสังกัดเพื่อดำเนินการตรวจสอบได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดการทุจริตก่อน และโครงการจะต้องไม่หยุดชะงัก นอกจากนี้ตนยังได้รายงานตัวเลขหนังสือร้องเรียนของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง 35 แห่ง ซึ่งพบว่ามีเพียง 30 แห่งที่มีการรายงาน นายกฯ จึงสั่งให้มีการติดตามในส่วน 5 หน่วยงานที่เหลือ เบื้องต้นพบว่ามีเรื่องร้องเรียน 894 เรื่อง มีการดำเนินการทางวินัยไปแล้ว 71 เรื่อง เรื่องที่ยุติไปแล้ว 56 เรื่อง เรื่องที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ 755 เรื่อง และเรื่องใหม่ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ 12 เรื่อง ซึ่งจะมีการติดตามอย่างเนื่องต่อไป

...

นอกจากนี้ นายประยงค์ ยังกล่าวถึงศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตว่า ขณะนี้พบว่า ขาดกำลังคนในการทำงาน ประกอบกับโครงสร้างที่ไม่มีสายบังคับบัญชาที่ชัดเจน ทำให้งานล่าช้า นายกฯ จึงสั่งการให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. หารือร่วมกับสำนักงานข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. และสำนักงานพัฒนาระบบข้าราชการ หรือ ก.พ.ร. กำหนดรูปแบบและนำเสนอนายกฯโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการทำงาน อีกทั้งนายกฯ ยังติดตามเรื่องข้อร้องเรียนต่างชาติ ซึ่งป.ป.ท.ได้มีการประสานกับสถานทูตในกลุ่มประเทศอาเซียนไปแล้ว 6 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มีความพึงพอใจและเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศไทย และในระยะยาวจะมีการประสานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศด้วย พร้อมทั้งสั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาหากมีข้อร้องเรียนจากนักลงทุนต่างชาติด้วย

ขณะที่ ส.ต.ต.ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย หรือ เมสซี่เจ หนึ่งในแอมบาสเดอร์โครงการรณรงค์ "สำนึกไทยไม่โกง" กล่าวว่า ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ให้นายกรัฐมนตรีทำเพื่อความสุขของประเทศไทย และทำให้ประเทศสงบสุข ซึ่งตนในฐานะนักกีฬาขอเป็นอีกแรงที่ทำให้คนไทยมีความสุข โดยการทำให้ฟุตบอลไทยลงเล่นในฟุตบอลโลก