เอกอัครราชทูตไทยประจำฟิลิปปินส์ เปิดบ้านต้อนรับคณะสื่อมวลชนไทยไปดูการพัฒนาฟิลิปปินส์ พร้อมบรรยายสรุปส่งเสริมความรู้เพื่อนบ้านอาเซียน ชี้เลือกตั้งตากาล็อก ใครไปใครมาไม่ส่งผลสัมพันธ์ 2 ชาติ เพราะแน่นแฟ้นช้านาน ขณะที่ ธุรกิจไทยยังมีโอกาส ท่ามกลางความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจากการบริโภคภายใน และใช้จ่ายภาครัฐเพื่อส่งเสริมสาธารณูปโภค

ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า เมื่อตอนสายวันที่ 24 มี.ค 59 นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เปิดทำเนียบเอกอัครราชทูต ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากประเทศไทย นำโดยนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ตามโครงการหลักสูตร "เสริมสร้างความรู้การเป็นประชาคมอาเซียนสำหรับสื่อมวลชน รุ่นที่ 4 : อาเซียนหลังปี 2015" ที่จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) พร้อมกันนี้นายธนาธิปได้ให้เกียรติจัดเลี้ยงอาหารกลางวันต้อนรับคณะสื่อมวลชนไทย โดยมีข้าราชการของสถานทูตมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย

...


เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลา กล่าวบรรยายสรุปให้คณะสื่อมวลชนไทยได้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับฟิลิปปินส์ ว่า ทั้ง 2 ชาติเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาโดยตลอด มีความร่วมมือในหลายๆ ด้าน ขณะที่ การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงของฟิลิปปินส์ในอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้านี้ แม้จะยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่า ใครจะเข้ามาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ ต่อจากประธานาธิบดีเบนิกโน เอส อาคีโน ที่สาม ซึ่งกำลังจะดำรงตำแหน่งครบวาระ 6 ปีนั้น ไม่เป็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับนโยบายความร่วมมือกับประเทศไทย เพราะตลอดเส้นทางความสัมพันธ์ 2 ชาติดำเนินมาด้วยดี บนพื้นฐานความเข้าใจมาโดยตลอด อีกทั้งยังไม่มีปัญหาทางประวัติศาสตร์ร่วมกัน


นายธนาธิป กล่าวถึงโอกาสและการลงทุนในฟิลิปปินส์ว่า ธุรกิจพลังงานเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจ หากแต่ต้องจับทางให้ถูก ศึกษาข้อมูล เข้ามาโดยใช้จุดแข็งของตนที่บริษัทไทยมีอยู่แล้ว และตอนนี้ตลาดในประเทศก็ขยายตัวได้จำกัด มาร่วมมือกับนักธุรกิจท้องถิ่นจะสามารถเป็นช่องทางได้ ซึ่งฟิลิปปินส์เองมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศหลายอย่าง ที่เอื้อประโยชน์ดึงดูดใจ ทั้งมาตรการทางภาษี ตลอดจนสิทธิพิเศษตามเขตลงทุนพิเศษแต่ละะแห่งอีกด้วย


เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลา กล่าวอีกว่า จุดแข็งอีกประการหนึ่งของฟิลิปปินส์คือ คนฟิลิปปินส์เป็นคนที่มีความอดทนสูง และเคร่งศาสนาอย่างมาก สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ประชากรในประเทศมี 107 ล้านคน เป็นตลาดขนาดใหญ่ และเป็นประชากรที่มีกำลังซื้อ เนื่องจากแรงงานที่ออกไปทำงานในต่างประเทศส่งเงินกลับเข้าประเทศให้ครอบครัว มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ อีกทั้งการที่ฟิลิปปินส์มีแผนที่จะพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ยัง ขาดแคลน ทำให้ยังมีตัวเลขการใช้จ่ายภาครัฐตรงนี้ ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ ล่าสุด ประธานาธิบดีคนปัจจุบันเพิ่งจะอนุมัติแผนการลงทุนมูลค่า 3 ล้านล้านเปโซ ในการยกระดับสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดีขึ้น

...


นายธนาธิป กล่าวด้วยว่า ฟิลิปปินส์กำลังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในปี 2017โดยจะเป็นปีที่ครบรอบ 50 ของอาเซียน ขณะนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เริ่มเตรียมการต่างๆ เพื่อรองรับการจัดการประชุมสุดยอดดังกล่าวแล้ว และยังได้ริเริ่มแนวความคิดใหม่ๆ ในการให้สถานเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด เข้ามามีส่วนร่วมกับการจัดกิจกรรมสำหรับโอกาสสำคัญที่จะมาถึงด้วย.