วันนี้ผมขอร่วม สวดมนต์ให้กับชาวบรัสเซลส์ ที่ประสบชะตากรรมจากการก่อการร้ายอย่างโหดเหี้ยม มีผู้เสียชีวิต 34 คน บาดเจ็บอีกราว 250 คน โชคดีที่คนไทยในกรุงบรัสเซลส์ทุกคนปลอดภัย เมื่อไหร่หนอโลกเบี้ยวใบนี้จะสงบสุขอย่างแท้จริงเสียที มนุษย์ทุกคนทุกศาสนามีความรักในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

วันนี้ผมขอพาท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง เศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy กันครับ ไม่อยากคุยเรื่องโหดร้ายที่เกิดขึ้น แค่เห็นภาพข่าวในสนามบินบรัสเซลส์ ก็เศร้าหมองเต็มที

ท่านผู้อ่านคงจำได้ เมื่อครั้งหนังซีรีส์ดังเกาหลีใต้ “แดจังกึม” มาฉายทางช่อง 3 คนไทยคลั่งไคล้กันทั้งบ้านทั้งเมือง แล้ว Creative Economy เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ก็กลายเป็นแฟชั่นในสังคมไทยหวังเลียนแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เกาหลีใต้ เพื่อส่งออกวัฒนธรรมทั้งหนังและเพลงอย่างเกาหลีใต้กันบ้าง คลั่งกันสักพัก แล้วทุกอย่างก็ลอยหายไปกับสายลม เมื่อวันเวลาเปลี่ยนผ่านตามวัฒนธรรมสังคมแบบไทยๆ

ที่ยังเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ก็คือ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ Thailand Creative&Design Center หรือ TCDC ที่เกือบจะถูกยุบทิ้งไปเมื่อปีก่อน

วันนี้ Creative Economy เศรษฐกิจสร้างสรรค์ กำลังฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ท่ามกลางกระแส Start Up และ Fin Tech ที่กำลังมาแรงและเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับธุรกิจใหม่ๆของคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับเศรษฐกิจดิจิตอลที่กำลังมาแรง ต่อยอดความมั่งคั่งให้กับคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่เจ้าของธุรกิจรวยเร็วในชั่วข้ามคืนอย่างไม่น่าเชื่อ

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเศรษฐกิจ ที่เพิ่งนำทีมกลับจากการเยือน เกาหลีใต้ ประเทศที่เป็นแรงบันดาลใจเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐว่า เห็นเกาหลีแล้วฝ่อ เราเริ่มพัฒนามาพร้อมกันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนี้เขาไปไกลมาก แต่เราค่อยๆ ยุบหาย ขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วันนี้เกาหลีมี “ศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์” อยู่ 18 แห่งทั่วประเทศ ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์

...

อย่างระบบออนไลน์ เขาจะให้ประชาชนส่งไอเดียดีๆเข้ามา จากนั้นจะคัดเลือกและนำมาพัฒนาต่อ โดยภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านจะคอยให้คำแนะนำแก่เจ้าของไอเดีย ส่วนระบบออฟไลน์ จะมีการสร้างสถานที่และสิ่งแวดล้อมต่างๆให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ผลงาน สิ่งเหล่านี้ไทยมีอยู่แล้ว เช่น ทีซีดีซี ซึ่งผมเป็นคนริเริ่มไว้ แต่หลังจากนโยบายเปลี่ยน ก็ไม่มีการสนับสนุนต่อ

เรื่องน่าเศร้าของประเทศไทยอีกอย่างก็คือ ข้าราชการไทย นอกจากจะไม่ส่งเสริมและสนับสนุนไอเดียดีๆของประชาชนแล้ว ซํ้าร้ายยังขโมยไอเดียของเอกชนไปจัดเลียนแบบอีกด้วย เพื่อเอาผลงานและได้ใช้งบประมาณ แต่ทำได้แย่กว่าเอกชนอีกต่างหาก

ดร.สมคิด กล่าวว่า เวลาที่เหลือของรัฐบาลอีกปีครึ่ง จะเร่งทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผลักดันให้เกิดสตาร์ตอัพให้ได้ หากทำได้ เศรษฐกิจไทยจะเกิดความเข้มแข็ง และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อีกมากมาย

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับ ดร.สมคิด เศรษฐกิจสร้างสรรค์วันนี้คือ เศรษฐกิจใหม่ของโลก สามารถทำรายได้มากกว่าการไปสร้างโรงงานผลิตสินค้าเพื่อส่งออก ดูอย่างซอฟต์แวร์เรียกรถแท็กซี่ อูเบอร์ และ แกร็บ ธุรกิจที่เกิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ล้วนๆ จากความไม่สะดวกของประชาชนในการเรียกรถแท็กซี่ตามท้องถนน วันนี้กลายเป็นธุรกิจหลายแสนล้าน โดยไม่ต้องมีโรงงานหรือมีรถแท็กซี่แม้แต่คันเดียว ปีที่แล้วอูเบอร์ทำรายได้สูงถึง 7 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

ที่สำคัญรัฐบาลต้องส่งเสริมจริงจัง และลงโทษข้าราชการที่ขโมยความคิดเอกชน

วันนี้ เศรษฐกิจสร้างสรรค์กำลังฮิตไปทั่วโลก อันเนื่องมาจาก เทคโนโลยีดิจิตอล ที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ แค่รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ก็สามารถสร้างธุรกิจใหม่ที่ทำรายได้สูงทดแทนอุตสาหกรรมได้อีกมหาศาลเลยทีเดียว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”