ชาวสวนบ้านในกอย จ.พัทลุง เกษตรกรผู้ปลูกสละมากว่า 20 ปี ใช้พื้นที่ดินน้อยมาปลูกสละแทนยางพาราที่เน่าตาย เผย ให้ผลผลิต 3 แสนบาทต่อไร่ ทั้งเปิดเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร จนมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วประเทศ ..
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 59 นายนัน ชูเอียด อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 150 หมู่ที่ 9 บ้านในกอย ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เกษตรกรผู้ปลูกสละมา 20 กว่าปี เล่าว่าใช้พื้นที่ปลูกยางพารามา 15 ไร่ ต่อมายางเริ่มเป็นโรคเปลือกเน่าตายนึ่ง หันมาปลูกส้มโชกุนก็ให้ผลไม่เต็มที่ โรคเยอะ เลยเริ่มศึกษาที่ดินในแปลงนี้น่าจะเหมาะสมกับการปลูกสละ ได้ไปซื้อสละพันธุ์เนินวงศ์ กับ พันธุ์สุมาลี มาปลูกประมาณสองปีครึ่ง สละเริ่มให้ผล และขณะนี้สละมีอายุ 20 กว่าปี
จนกระทั่งเริ่มให้ผลเต็มที่ และผลผลิตสามารถออกขายเรื่อยๆ ได้ตลอด เพราะสละจะออกดอกเป็นรุ่นตลอดทั้งปี เมื่อเริ่มออกดอกจะทำการผสมเกษรให้โดยตัดเกษรตัวผู้ไปสัมผัสเกษรตัวเมีย และติดชื่อวันเวลาไว้ ส่วนปุ๋ยส่วนมากจะใช้ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักขี้ไก่ ประมาณ 18 เดือน เก็บเกี่ยวผลผลิตขาย แม่ค้าจะมาซื้อถึงสวนในราคา กก.ละ 70 บาท ถ้าส่งขายพ่อค้าในตลาด กก.ละ 100-120 บาท ไร่หนึ่งจะให้ผลผลิต 3 แสนบาท ต่อปีนับว่าให้ผลผลิตกว่าพืชอื่นๆ
...
นายนัน ชูเอียด ได้เล่าอีกว่า การทำเกษตรแบบใหม่ต้องศึกษาทุกแง่มุม ไม่ว่าจะผลผลิตต่อไร่ ต้องการเหมาะกับพื้นที่ และสำหรับผู้ที่มีดินน้อยน่าจะปลูกสละ เนื่องจากผลผลิตสูงกว่าพืชอื่นๆ เป็นตัวอย่างกับคนอื่นสามารถดึงลูกที่เรียนจบมาดูแลสวนตัวเองได้ และเป็นการเปิดแหล่งเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาดูงานบ่อยๆ จนขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ขึ้นเกือบ 50 ไร่ ปลูกทั้ง มะละกอ กล้อยหอมทอง
ซึ่งขณะนี้ทำรายได้ให้กับครอบครัวเดือนละแสนกว่าบาท และสามารถแก้ปัญหาราคายางตกต่ำโดยมาปลูกสะละกันมากขึ้น จนขณะนี้สละบ้านในกอยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ทั้งยังเป็นที่สนใจของชาวมาเลเซีย เนื่องจากสละบ้านในกอยมีรสหวานหอมโดยเฉพาะพันธุ์สุมาลี รสชาติจะอร่อยกว่าที่อื่นจนผลิตไม่พอขาย แม่ค้าต้องสั่งจองล่วงหน้ากันมา.