ไลน์ยกโขยง 10 นักออกแบบสติกเกอร์ (ครีเอเตอร์) ไทยบุกญี่ปุ่น หลังคัดเลือกจากผู้ชนะการประกวดภายใต้โครงการ LINE Creators Market Sticker Contest เผยนักออกแบบส่วนใหญ่ไม่ใช่มืออาชีพ หลายคนทำงานประจำ แต่มีใจรัก ความคิดสร้างสรรค์ ขายสติกเกอร์จนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ 3–6 ล้านบาท
สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ไลน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (LINE) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้มีโอกาสต้อนรับบรรดานักออกแบบสติกเกอร์ (ครีเอเตอร์) ชาวไทย 10 คน ซึ่งเป็นผู้ชนะประกวดการออกแบบสติกเกอร์ ภายใต้โครงการ LINE Creators Market Sticker Contest ตามคอนเซปต์ Happy to be Thai
วัตถุประสงค์ของการเดินทางไปครั้งนี้ ทางไลน์ต้องการส่งเสริมนักออกแบบสติกเกอร์ชาวไทย ให้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับนักออกแบบชื่อดังชาวญี่ปุ่น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน
หนึ่งในนั้นได้แก่ นายโยชินากะ นักออกแบบสติกเกอร์ชาวญี่ปุ่น เจ้าของสติกเกอร์ชุด “Egypt : อียิปต์” ซึ่งมียอดดาวน์-โหลดสูงและโด่งดังมากในญี่ปุ่น โดยนายโยชินากะ เป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดาคนหนึ่งและวาดรูปไม่เก่ง แต่สติกเกอร์ของเขากลับได้รับความนิยมมาก ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ประหลาดใจ ซึ่งอาจเป็นเพราะการใช้คำโดนๆ ที่นิยมในช่วงเวลานั้นมาประกอบด้วย จนตอนนี้มีคนนำไปต่อยอดทำสินค้าอื่นๆออกมามากมาย โดยเขาจะได้ค่าลิขสิทธิ์ทุกครั้ง ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำแบบซื้อรถเงินสดได้ ไม่จำกัดยี่ห้อ
...
ด้วยครีเอเตอร์สาวอีกคน มาในลุคสวมหมวกและใช้ผ้าปิดปาก เพื่อปกปิดใบหน้าที่แท้จริงและชื่อจริง เพราะไม่ต้องการมีผลกระทบต่อการทำงานประจำ เนื่องจากไม่ต้องการให้บริษัทที่ทำงานประจำรับทราบว่าเป็นผู้ออกแบบสติกเกอร์ เพราะกลัวจะถูกกล่าวหาว่าใช้เวลาทำงานของบริษัทมาใช้ทำงานส่วนตัว เธอคนนี้ออกแบบสติกเกอร์ “Tumarin” หรือตัวหอยทาก ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและไทย
ขณะที่ครีเอเตอร์ชาวไทยทั้ง 10 คน ก็ได้นำผลงานสติกเกอร์ที่ชนะประกวดมาโชว์แลกเปลี่ยนกัน ได้แก่ 1. NAM THUNG (น้ำถุง) 2.น้องสไบ 3.ปิ่นโตแห่งความสุข 4.หม่ำกันเถอะเรา 5.นางสาวสุขศรี 6.การ์ตูนเล่มละบาท 7.แฮปปี้ ทู บี “อาหารไทย” 8.หนูขวัญ&แมว 9.Shewsheep Happy meal 10.สายด่วนแฮปปี้แล๊นนน
โดยขณะนี้สติกเกอร์ NAM THUNG, หนูขวัญ&แมว ได้ออกแบบครบเซ็ตและเปิดให้ดาวน์โหลดเรียบร้อย ส่วนที่เหลือกำลังทยอยดำเนินการ
ทั้งนี้ นักออกแบบสติกเกอร์ชาวไทยแต่ละคน ไม่ได้เป็นนักวาดรูปมืออาชีพ แต่ทุกคนมีใจรักมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และอยากลอง จนทำให้กลายมาเป็นครีเอเตอร์ในวันนี้ จากการสอบถาม ทุกคนไม่ต้องการเปิดเผยตัวเพราะส่วนใหญ่มีงานประจำ บางคนเป็นเจ้าของสติกเกอร์แล้วหลายชุด มียอดโหลดถล่มทลาย มีรายได้สูงถึง 6 ล้านบาทแล้ว ส่วนในเคสได้รับความนิยมปานกลาง รายได้จะอยู่ที่ 3 ล้านบาทขึ้นไป
นายนาโอโตะโมะ วาตานะเบ หัวหน้าฝ่ายออกแบบและวางแผนสติกเกอร์ของไลน์ กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไลน์มีครีเอเตอร์ทั่วโลกราว 450,000 คน โดยในจำนวนนี้มีคนไทยอยู่ราว 52,000 คน ขณะนี้มีสติกเกอร์ของครีเอเตอร์อยู่ในสโตร์มากกว่า 170,000 เซ็ต และจากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่ครีเอเตอร์ไม่ได้เป็นนักวาดการ์ตูน แต่เป็นพนักงานออฟฟิศที่ใจรักวาดการ์ตูน จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้
ขณะเดียวกัน ทางไลน์ได้ปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่ออนุมัติสติกเกอร์วางจำหน่ายให้รวดเร็วยิ่งขึ้น จากเดิม 3 เดือน เป็น 1 สัปดาห์ เพื่อตอบสนองความ ต้องการของผู้ใช้
...
เนื่องจากปัจจุบันตลาดสติกเกอร์ถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ นอกจากวางจำหน่ายในไลน์สโตร์ แล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจได้ และตลาดสติกเกอร์ที่ยังคงครองแชมป์คือ ญี่ปุ่น รองลงมาคือไทย และไต้หวัน โดยไทยนั้นได้เบียดแซงไต้หวันขึ้นแท่นอันดับสอง เมื่อช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การใช้ไลน์ในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก มีผลทำให้ตลาดสติกเกอร์ไลน์เติบโตสูงขึ้นตามไปด้วย
โดยมียอด การใช้ไลน์อยู่ที่ 33 ล้านบัญชี อันดับ 1 คือ ญี่ปุ่น 58 ล้านบัญชี จากยอดทั่วโลกทั้งหมด 211 ล้านบัญชี และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ไลน์ยังได้ออกแคมเปญใหม่ “Rising Star” เพื่อเฟ้นหาครีเอเตอร์ดวงใหม่ โดยทีมงานจะคัดเลือกผลงานการออกแบบสติกเกอร์ที่อยู่ในครีเอเตอร์ มาร์เก็ต โดยจะคำนวณอันดับ หลังจากการเริ่มขายให้ดาวน์โหลดเป็นระยะเวลา 10 วัน และทุกต้นเดือนจะประกาศรายชื่อครีเอเตอร์ทั้ง 3 ประเภท คือ ยอดดาวน์โหลดสูงสุด สติกเกอร์ที่ถูกใช้มากสุด และครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่มาแรงที่สุด.