คณะกรรมการสอบสวนซาอุฯ ตัดสินแล้ว ‘ซาอุดี บิน ลาดิน กรุ๊ป’ บริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ในซาอุฯ ต้องมีส่วนรับผิดชอบ โศกนาฏกรรมเครนยักษ์ล้มใส่มัสยิดฮะรอม จนมีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมดับกว่า 100 ราย

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เครนขนาดใหญ่ล้มใส่มัสยิดฮะรอม หรือแกรนด์ มัสยิด ที่นครเมกกะ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิต 111 ศพ บาดเจ็บเกือบ 400 คน ขณะเหลืออีกเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์จะถึงวันประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวมุสลิมจากทั่วโลกว่า จากการสืบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุ คณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาแล้วว่า บริษัทซาอุดี บิน ลาดิน กรุ๊ป บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย ต้อง ‘มีส่วน’ รับผิดชอบจากอุบัติเหตุสลดครั้งนี้

สำนักข่าว ซาอุดิ เพรสส์ เอเจนซี่ (SPA) ของทางการซาอุดีอาระเบีย รายงานว่า คณะกรรมการได้ตัดสิน บริษัทซาอุดี บิน ลาดิน กรุ๊ป ‘ไม่เคารพ’ ต่อหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้าง พร้อมกันนั้นยังมีคำสั่งห้ามคณะผู้บริหารของบริษัทซาอุดี บิน ลาดิน เดินทางออกนอกประเทศ จนกว่าการสอบสวนอุบัติเหตุเครนยักษ์ถล่มจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย รวมทั้งบริษัทยังจะต้องถูกยกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการสาธารณะกับรัฐบาลทั้งหมดในช่วงนี้เช่นกัน

...

ทั้งนี้ บริษัทซาอุดี บิน ลาดิน กรุ๊ป ซึ่งก่อตั้งมานานกว่า 80 ปีแล้ว โดยบิดาของโอซามา บิน ลาดิน อดีตผู้ก่อการร้ายหมายเลขหนึ่งของโลก หัวหน้ากลุ่มอัลเคดา โดยปัจจุบัน บริษัทซาอุดี บิน ลาดิน กรุ๊ปบริหารกิจการโดยนายบาเคอร์ พี่ชายของนายบิน ลาดิน และได้ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงขยายพื้นที่รอบมัสยิดฮะรอมมานานกว่า 4 ปีแล้ว และตามแผนจะมีการขยายพื้นที่ให้ได้ 4.4 แสนตารางเมตร เพื่อต้องการรองรับผู้แสวงบุญให้ได้จำนวน 2.2 ล้านคนในคราวเดียว