“ประยุทธ์” หวัง “Bike for Mom” แสดงพลังสามัคคีคนไทย แจงจำเป็นต้องมีคกก.ยุทธศาสตร์ชาติใน รธน. เพื่อดันแนวทางปฏิรูป-ปรองดอง-ขจัดความขัดแย้ง รบ.ปกติอาจทำไม่ได้ ออกตัวไม่ล้วงลูกฝ่ายบริหาร บอกปชช.ให้ตัดสินใจประชามติ เพื่ออนาคตชาติ

เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 14 ส.ค.58 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่งถึงการจัดกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไปว่า อีก 2 วัน ประชาชนชาวไทยก็จะได้ร่วมใจกันทำกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นเสมือนแม่ของแผ่นดิน อีกทั้งเป็นการแสดงพลังความรู้รักสามัคคีของคนไทยทุกคนพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการจัดทำสถิติความร่วมมือร่วมใจของปวงชนชาวไทยในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้ โดยกินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ด อีกด้วย ทั้งนี้ในช่วงการจัดกิจกรรมอาจส่งผลกระทบบ้างต่อการจราจร ก็ขอทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสนับสนุนกิจกรรม หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางของการปั่นจักรยานในช่วงนั้น โดยสามารถตรวจสอบเส้นทาง และวางแผนเดินทางไว้ล่วงหน้าได้ที่ โทร.1348 เว็บไซต์ www.Bikeformom2015.com และเฟซบุ๊ก bikeformom2015

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมคู่ขนาน สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีใจรักในงานศิลปะภาพถ่ายได้มีส่วนร่วมในการบันทึกเหตุการณ์สำคัญของชาติ และของโลกในครั้งนี้ โดยการร่วมส่งภาพในกิจกรรมที่ถ่ายทอดแนวคิด สื่อความหมาย ภายใต้แนวคิด “ความรัก ความสามัคคี ความกตัญญู ลูกทำเพื่อแม่ และความมุ่งมั่น” เพื่อชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สามารถส่งภาพเข้าร่วมได้ภายในวันที่ 23 ส.ค.นี้

...

นายกฯ เปิดเผยด้วยว่า อีกเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนไทยและประเทศไทยก็คือการที่ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “ความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์” แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ซึ่งนับว่าทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์แรกของโลก ที่ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลดังกล่าว โดย WIPO ได้ตระหนักถึงพระปรีชาสามารถด้านการสร้างสรรค์ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทรงมีผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ที่ได้รับการจดข้อมูลด้านลิขสิทธิ์ 354 ผลงาน ซึ่งรวมถึงงานด้านศิลปกรรมฝีพระหัตถ์ งานพระราชนิพนธ์ กลอน – หนังสือ – เพลง อีกทั้งยังทรงเป็นนักดนตรี ที่เปี่ยมความสามารถและพรสวรรค์ ทั้งดนตรีพื้นบ้านและดนตรีพื้นเมือง ที่สำคัญปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระองค์เจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา และเมื่อปี 2552 WIPO ได้เคยทูลเกล้าฯถวายเหรียญรางวัล “ผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา” ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาแล้วด้วยเช่นกัน

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการกำหนดให้มี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีหน้าที่ในการที่จะกำหนดแนวทางในการปฏิรูป ปรองดอง ขจัดความขัดแย้ง ซึ่งจะต้องมีทั้งอำนาจ หน้าที่ และกลไก ที่จะสามารถอำนวยการปฏิบัติได้ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกในการขจัดความขัดแย้งและความรุนแรง ที่รัฐบาลปกติหรือกฎหมายปกติอาจจะไม่สามารถแก้ไข ขับเคลื่อนประเทศได้อย่างเช่นสถานการณ์ในห้วงที่ผ่านมา ในส่วนของการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเรื่องของประชาชนทุกคนนั้นจะต้องร่วมกันในการตัดสินใจ ไม่ใช่ตัดสินใจเพื่อตน รัฐบาล หรือเพื่อ คสช. แต่ก็ให้ทุกคนคำนึงถึง เพื่อประเทศชาติ และอนาคตของลูกหลานต่อไป เราจะปฏิรูปบ้านเมืองกันได้อย่างไร สำหรับแนวทางการปฏิรูป 11 ด้านตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยภายในเดือน ก.ย.นี้จะส่งต่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป 200 คน ที่เราจะต้องจัดตั้งขึ้นใหม่ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไขให้พิจารณาอีกครั้ง

“คงจะต้องลงลึกในการจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อกำหนดลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วน ว่าจะทำทันที ปานกลาง หรือระยะยาว ให้มีความเหมาะสม จากนั้นจะต้องมีผลในทางกฎหมายก็คงจะต้องนำเข้าไปพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อจะได้ให้ที่รัฐบาลต่อไปได้นำไปสู่การปฏิบัติ เราก็คงจำเป็นจะต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติอำนวยการปฏิบัติ แต่ก็คงไม่สามารถจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการปกติของรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สำหรับเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันอาจจะไม่ได้เกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำอย่างเดียวเท่านั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือกระแสวัตถุนิยม ซึ่งอาจจะทำให้พี่น้องประชาชนก่อหนี้สินผูกพันโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่พสกนิกรชาวไทย เพื่อเป็นแนวทางการดำรงชีวิต ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน ประเทศ รัฐบาลนี้ก็ได้นำมาเป็นแนวทางนะครับ ไปสู่การพัฒนาและบริหารประเทศ เพื่อให้ดำเนินการไปได้ในทางสายกลาง ปัจจุบันนั้นรัฐบาลได้ให้การดูแลหนี้สินกับพี่น้องเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลก็ยังห่วงใยพี่น้องข้าราชการ ที่ถือเป็นมนุษย์เงินเดือน และมีรายได้น้อยเมื่อเทียบกับภาคเอกชน เรื่องภาระหนี้สินของกำลังพลและผู้ใต้บังคับบัญชานั้นถือเป็นหน้าที่หนึ่งของหัวหน้าหน่วยงาน ผู้บังคับบัญชา ที่นอกจากจะต้องคิดว่า จะรับใช้ประเทศชาติและดูแลประชาชนอย่างไรแล้ว ก็ต้องคิดด้วยว่า จะช่วยลูกน้องเราให้สามารถทำงานอย่างมีความสุขได้อย่างไร ยกตัวอย่างโครงการหนึ่งของกองทัพบกที่ปฏิบัติมาตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน แล้วประสบความสำเร็จอย่างดีในการช่วยบริหารจัดการหนี้สินครอบครัวกำลังพลในกองทัพบก ด้วยการนำหลักพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีมาใช้ อาทิ การสร้างความตระหนักรู้ต่อตนและครอบครัวถึงภาระหนี้สินและบัญชีครัวเรือน เพื่อให้รู้ด้วยตนเองว่า ภาระที่จะต้องจ่ายในแต่ละเดือน มีอะไรบ้าง การรีไฟแนนซ์ โดยหาแหล่งเงินทุนที่ดอกเบี้ยถูกกว่า หรือการเลือกชำระดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก่อน ที่สำคัญ คือการควบคุมตนเองไม่ให้ก่อหนี้ซ้ำอีก เป็นต้น

“หากตัวข้าราชการสามารถแก้ปัญหาหนี้สินของตนเองได้ ในระดับครอบครัว และหัวหน้าส่วนราชการสามารถดูแลช่วยให้ข้าราชการในสังกัดให้แก้ไขปัญหาหนี้สินได้แล้ว รัฐบาลก็จะมีทรัพยากรบุคคลที่มีความพร้อมในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังสามารถ ปราศจากเรื่องกังวล หนี้สิน ภาระ ซึ่งอาจจะคอยฉุดรั้งประสิทธิภาพในการทำงานให้กับประเทศชาติ” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟมด้วยว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดให้การจัดการขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งมีกรอบแนวคิดหลักในการสร้างสังคมรีไซเคิล ตามหลักการ 3R (Reduce + Reuse + Recycle) และเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้างวินัยคนในชาติ ที่จะมุ่งสู่การจัดการขยะที่ยั่งยืน รัฐบาลพร้อมทั้งภาคธุรกิจเอกชน และผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และร้านสะดวกซื้อ 15 หน่วยงาน อยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ในการเตรียมถุงผ้า กระเป๋า สำหรับหอบหิ้วสินค้า แทนการขอรับถุงพลาสติกในวันที่ 15 ของทุกเดือน หรือมากกว่านั้น หรือทุกๆ วันก็ได้ “เราจะเริ่มดำเนินการพร้อมกัน ในวันพรุ่งนี้ 15 ส.ค.58 ทั้งนี้ การปฏิเสธการรับถุงพลาสติกจากห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ เพียงคนละ 1 ใบต่อวัน ก็จะทำให้ประเทศไทย ลดปริมาณขยะจากถุงพลาสติก ได้ราว 70 ล้านใบต่อวัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว