เมื่อถามว่า โลกเราทุกวันนี้ ทำไมถึงมีการก่อการร้ายรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์? คำตอบที่มักจะได้รับก็คือ เพราะระเบียบโลกใหม่เป็นโลกที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีสถาบันระหว่างประเทศใดเป็นผู้รักษากฎระเบียบให้โลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เดิม โลกเรายังมีสหภาพโซเวียตกับสหรัฐอเมริกาคานกัน พอสหภาพโซเวียตล่ม เหลือแต่สหรัฐอเมริกา โลกก็ยังอุ่นใจเพราะยังมีสหประชาชาติทำหน้าที่แก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐและรักษาให้เกิดสันติภาพ โลกในตอนนั้น ยังไว้เนื้อเชื่อใจสหประชาชาติมาก เพราะมีประเทศใหญ่ๆ เป็นสมาชิกประจำในคณะมนตรีความมั่นคง จะเข้าไปบุกประเทศไหน ก็ยังใช้มติจากประเทศสมาชิกประจำคณะมนตรีความมั่นคงอย่างสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย ยังไงก็ต้องมีการถ่วงดุลกันแน่นอน นี่เป็นความเชื่อของโลกก่อน 20 มีนาคม พ.ศ.2546แต่อเมริกากับอังกฤษซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของสหประชาชาติกลับละเมิดเจตนารมณ์ของสหประชาชาติ ด้วยการบุกอิรักเมื่อ พ.ศ.2546 โดยไม่มีมติสหประชาชาติ เรื่องนี้ทำให้ทุกคนเชื่อว่า โลกเราเข้ากลียุคแล้ว เป็นยุคที่อเมริกาเป็นใหญ่เพียงประเทศเดียว อเมริกาจะคุกคามประเทศไหนก็ได้ ทำให้มีคนเริ่มออกแบบองค์กรและวิธีการที่จะคานอำนาจอเมริกา
และหนึ่งในสิ่งที่ถูกออกแบบก็คือ องค์กรการก่อการร้าย
พ.ศ.2546 อเมริกากับอังกฤษบุกอิรัก ทำให้เกิดความรุนแรงลามไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง พอถึง พ.ศ.2547 ก็มีการก่อตั้งกลุ่มปฏิบัติการรบนอกแบบต่อต้านขึ้นมาหลายกลุ่ม หนึ่งในบรรดาหลายกลุ่มที่ว่านั้นก็คือ องค์กรแห่งเอกภาพในการศรัทธาและการญิฮาด ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น องค์กรแห่งการญิฮาดซึ่งมีฐานในประเทศแห่งสองแม่น้ำ องค์กรนี้นำโดยนายอบู มูซาบ อัล–ซอร์กอวี ชาวจอร์แดน
นายซอร์กอวีประกาศความจงรักภักดีต่อนายบินลาดิน ผู้นำสูงสุดแห่งองค์กรอัล-กออีดะฮ์ อีก 2 ปีต่อมา องค์กรนี้ก็เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธอีกหลายกลุ่มในอิรักภายใต้องค์กรที่มีชื่อว่า สภาที่ปรึกษามูญาฮีดีน เข้าร่วมปุ๊บ อเมริกาก็ส่งคนไปฆ่านายซอร์กอวี เมื่อ พ.ศ.2549
...
นายซอร์กอวีตายแล้ว กลุ่มนี้ก็มีผู้นำคนใหม่ที่ชื่อนายอบู อับดุลเลาะห์ อัล-รอชิด อัล-บักดาดี และเมื่อ 13 ตุลาคม 2549 มีการเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น กลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรัก Islamic State of Iraq หรือ ISI เป้าหมายของกลุ่มก็ชัดเจนครับ คือต้องการปลดปล่อยดินแดนของชาวมุสลิมนิกายซุนนีจากการกดขี่และยึดครองของกลุ่มชีอะฮ์และชาวต่างชาติ
เดือนเมษายน 2553 แกนนำระดับสูง 2 คน คือนายอบู อับดุลเลาะห์ อัล-รอชิด อัล-บักดาดี และนายอบู อัยยุ อัล-มาสรี ถูกอเมริกาฆ่าตาย
9 เมษายน 2556 กลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรัก (ISI) ขยายปฏิบัติการไปซีเรียเพื่อล้มรัฐบาลนายบาชัร อัล–อัซซาด เมื่อการทำงานขยายจากอิรักไปยังซีเรียด้วย จึงเปลี่ยนชื่อองค์กรให้คลุมพื้นที่ปฏิบัติการ โดยมีชื่อใหม่ว่า “รัฐอิสลามแห่งอิรักและอัล–ชาม” ซึ่งอัล–ชาม ก็คือ ซีเรีย และใช้ชื่อย่อภาษาอังกฤษว่า ISIS หรือ ISIL ส่วนชื่อย่อภาษาอาหรับก็คือ ดาอิซ
อัล-กออีดะฮ์ เป็นองค์กรสูงสุด ที่มีองค์กรย่อยกระจายทำงานกันอยู่ทั่วโลก และในซีเรียเองก็มีกลุ่มติดอาวุธของอัล-กออีดะฮ์ ที่มีชื่อว่ากลุ่มอัล-นุสรอ ปฏิบัติการอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
เมื่อรัฐอิสลามแห่งอิรักและอัล-ชามเข้าไป ก็ประกาศควบรวมกลุ่มอัล-นุสรอ เข้ากับกลุ่มของตนเอง เรื่องนี้นี่แหละครับ ที่ทำให้ไอซิซกับอัล-กออีดะฮ์แตกกัน และขัดแย้งกันจนกระทั่งทุกวันนี้
มีคนเคยถามผมว่า ไอซิซจะประสบความสำเร็จในการล้มรัฐบาลอิรักกับซีเรียและตั้ง “รัฐอิสลามแห่งอิรักและอัล-ชาม” ได้อย่างที่มุ่งหวังตั้งใจหรือเปล่า?
ขออนุญาตตอบนะครับ ว่าตอนนี้ยังเป็นไปได้ยาก แต่การเกิดของไอซิซทำให้คนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีขนาดกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นวิธีการที่จะ 1.เปลี่ยนแปลงโลก 2.เผยแพร่แนวคิดอิสลามนิยม และ 3.ล้มล้างมหาอำนาจอเมริกาและตะวันตก
เราได้รับข่าวสารแต่ในแง่ร้ายของไอซิซ แต่ในหลายประเทศ ภาพของไอซิซคือ ผู้ที่เข้ามาทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือชาวบ้าน เข้ามาสอนศาสนา แจกอาหาร แจกเงิน ซ่อมถนนหนทางและไฟฟ้า ซึ่งเรื่องพวกนี้ ผมขออนุญาตนำมารับใช้ต่อในวันหน้าครับ.