คุณสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีคลัง เปิดเผยกับสื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลเตรียมพิจารณาเพิ่มการขาดดุลในปีงบประมาณ 2560 ในสัดส่วนที่มากถึง 4% ของจีดีพี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากงบปี 2559 ที่ตั้งเป้าขาดดุลไว้ 390,000 ล้านบาท หรือ 2.9% ของจีดีพี

แสดงว่า ฐานะการเงินรัฐบาลเข้าขั้นวิกฤติแล้ว แต่รัฐบาลโดย กระทรวงคมนาคม ก็ยังจะทุ่มเงิน 400,000 กว่าล้านบาท ไป สร้างรถไฟความเร็วปานกลางให้จีนขนส่งสินค้าผ่านไทย สร้างหนี้ก้อนโตให้ลูกหลานไทย กองทัพเรือ ก็จะทุ่มเงินอีก 36,000 ล้านบาท ไป ซื้อเรือดำน้ำ เพื่อหน้าตา ทั้งที่ดำในอ่าวไทยไม่ได้

สาเหตุที่ต้องเพิ่มงบขาดดุลสูงลิ่ว รัฐมนตรีคลังสมหมาย ให้เหตุผลว่า เนื่องจาก การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบถึงจีน และ กระทบต่อมาถึงไทย เพราะ ไทยส่งออกไปจีน 12–13% ของยอดการส่งออกทั้งหมด เมื่อเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบ การส่งออกไทยก็ได้รับผลกระทบด้วย ยิ่ง “ฟองสบู่หุ้นและอสังหาจีนแตก” ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกำลังซื้อ แม้แต่ นักท่องเที่ยวจีน ก็ยังหายวับไป 20 เปอร์เซ็นต์

รัฐมนตรีคลังสมหมาย บอกว่า เมื่อเศรษฐกิจโลกซึม จีนยังต้านไม่อยู่ ปีนี้คาดว่าจีดีพีจีนจะหดตัวจาก 7.2% ในปีก่อนลงมาเหลือ 6% ในปีนี้ การที่จีดีพีจีนหายไป 1% ถือว่ามาก เพราะคิดเป็นสัดส่วนได้เท่ากับ 35% ของจีดีพีไทย เมื่อเศรษฐกิจจีนหดตัว ความต้องการสินค้าก็ลดลง กระทบไทยแน่นอน เพราะเราส่งออกไปจีน 12-13%

(จีดีพีจีนปี 2014 อยู่ที่ 10.36 ล้านล้านดอลลาร์ เอา 34 บาทคูณ เป็นเงิน 352.24 ล้านล้านบาท จีดีพีหายไป 1% ก็เท่ากับหายไป 3.52 ล้านล้านบาท)

รัฐมนตรีคลังสมหมาย บอกอีกว่า เรื่องนี้เรารู้อยู่แล้ว และรู้ว่าคนจะมีเงินในกระเป๋าน้อยลง อย่างจีดีพีที่คิดที่ราคาคงที่ คาดว่าอยู่ที่ 3.5% แต่ถ้าคิดกันที่ “ราคาตลาด” เทียบจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงแล้ว จีดีพีที่ราคาตลาดอาจเหลือแค่ 1.5% ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามทำในหลายๆเรื่อง เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจอย่างที่เห็นกันอยู่

...

ปัญหาฐานะการเงินของรัฐบาล ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลบิ๊กตู่จะเข้าใจแค่ไหน เพราะยังพยายามจะซื้อเรือดำน้ำ 36,000 ล้านบาท จะสร้างรถไฟความเร็วปานกลางไทยจีน 400,000 กว่าล้านบาท โดยฝ่ายไทยเป็นผู้ลงทุนเกือบทั้งหมด แต่จีนใช้ประโยชน์กว่า 90% เป็นโครงการที่คนไทยได้ประโยชน์น้อยมาก แถมยังซ้ำซ้อนกับรถไฟรางคู่ 1 เมตรของไทย ก็ไม่รู้จะสร้างไปทำไม

ถ้า รัฐบาลบิ๊กตู่ จะ กู้เงิน 5 แสนกว่าล้านบาทในงบปี 60 ไปใช้ลงทุนในสิ่งเหล่านี้ ผมว่ากู้เอาไป แจกเกษตรกร 30–40 ล้านคนที่กำลังเดือดร้อนจากภัยแล้งจะดีกว่า อย่างน้อยก็ยังช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ที่กำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกซบเซา ดีกว่าเอาไปซื้อเรือดำน้ำและสร้างรถไฟให้จีน

การเพิ่มการขาดดุลงบประมาณเป็น 4% ในงบประมาณปี 2560 ถือเป็นการขาดดุลงบประมาณที่สูงมาก งบประมาณปี 58 มีวงเงินเพิ่มจากงบปี 57 เพียง 2% และมียอดขาดดุลเพียง 250,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าจะไปสู่ “งบสมดุล” ในปีนี้หรือปีหน้าด้วยซ้ำ

แต่งบปี 59 ของ รัฐบาลบิ๊กตู่ นอกจากเพิ่มงบจากปี 58 สูงถึง 5.6% เป็น 2.72 ล้านล้านบาทแล้ว ยังเพิ่มงบขาดดุลเป็น 390,000 ล้านบาท หรือ 2.9% ของจีดีพี งบประมาณปี 2560 จะเพิ่มวงเงินอีกกี่เปอร์เซ็นต์ผมไม่ทราบ แต่ต้องเพิ่มงบขาดดุลสูงถึง 4% ของจีดีพี คิดคร่าวๆที่ จีดีพี 13 ล้านล้านบาท ยอดขาดดุลงบประมาณปี 2560 จะพุ่งขึ้นถึง 520,000 ล้านบาท

รัฐบาลกำลังก่อหนี้พอกพูนขึ้นไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว

การ “เพิ่มหนี้ของรัฐบาล” อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ท่ามกลาง กำลังซื้อในประเทศที่ถดถอย และ เงินลงทุนต่างชาติก็ยังถูกถอนออกไปมากมาย ผมถือว่า ไม่ใช่สัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจไทยแน่นอน เป็นเรื่องสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องหันไปดูฐานะการเงินของประเทศให้ดี จะใช้เงินอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด.

“ลม เปลี่ยนทิศ”