มานูเอล มาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส (ภาพ: AFP PHOTO)

ฝรั่งเศสประกาศมาตรการใหม่หลายอย่างเพื่อยกระดับการต่อต้านการก่อการร้า หลังจากเกิดเหตุโจมตีในกรุงปารีสเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน...

สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า นายกรัฐมนตรี มานูเอล วาลส์ กล่าวในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศสเมื่อวันพุธ (21 ม.ค.) ว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 700 ล้านยูโร (ราว 2.64 หมื่นล้านบาท) ตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้าเพื่อการต่อต้านการก่อการร้าย หลังจาเกิดเหตุโจมตีในวันที่ 7-9 ม.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย

การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นโดยฝีมือของผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธที่ทางการมีข้อมูลอยู่แล้ว ทำให้เห็นจุดอ่อนในด้านการข่าวกรองของฝรั่งเศส และนายวาลส์ระบุว่า มีผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธประมาณ 3,000 รายที่จำเป็นต้องจับตาดู ขณะที่จำนวนผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายในซีเรียและในอิรัก เพิ่มขึ้นกว่า 130% ในปีที่ผ่านมา

นายวาลส์กล่าววา เพื่อตอบสนองต่อเรื่องนี้ ฝรั่งเศสจะสร้างงานใหม่ 2,680 ตำแหน่ง เพื่อต่อสู่กับกลุ่มหัวรุนแรง โดยตำแหน่งงานเกือบครึ่งในจำนวนนี้จะอยู่ในหน่วยข่าวกรอง "สิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุด คือการเสริมกำลังคนและทรัพยากรเทคโนโลยีให้แก่หน่วยข่าวกรอง" นายวาลส์ระบุ และว่าร่วงกฎหมายเพื่อเริ่มแผนดังกล่าว จะเริ่มมีการอภิปรายในรัฐสภาในช่วงต้นเดือนมี.ค.

ส่วนประกอบหลักในการต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรงคือ การต่อสู้กับการกลายเป็นผู้ที่มีความคิดสุดโต่ง โดยนายวาลส์ประกาศจะจ้างอนุศาสนาจารย์อิสลามจำนวน 60 คน มาช่วยให้คำแนะนำและคำปรึกษาพื้นฐานตามจริยธรรมและศาสนธรรม แก่นักโทษในเรือนจำ เพิ่มเติมจากอนุศาสนาจารย์อิสลามจำนวน 182 คนที่มีอยู่เดิม เนื่องจากเชื่อว่า 2 ใน 3 คนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีในปารีสคือนาย อาเมดี คูลิบาลี และนายเชริฟ คูอาจี กลายเป็นพวกหัวรุนแรงหลังจากทั้งคู่พบกันในคุก

...

เมื่อสัปดาห์ก่อน นายวาลส์เคยเสนอให้ผู้ต้องขังในเรือนจำที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ความถูกแยกขังเดี่ยว และมีเรือนจำแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงปารีสกำลังทดลองใช้มาตรการนี้อยู่ ขณะที่ทางการจะยกระดับการต่อสู้กับการโจมตีทางไซเบอร์ของกลุ่มญิฮาดิซึมด้วย

อีกด้านหนึ่ง นายฟรองซัวส์ มูแลง อัยการกรุงปารีส กล่าวว่า ชาย 4 คนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าช่วยเหลือนายคูลิบาลีก่อเหตุจับตัวประกันที่ห้างสรรพสินค้าชาวยิวเมื่อ 9 ม.ค. ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับการก่อการร้ายแล้ว โดยหนึ่งในนั้นยังถูกตั้งข้อหา ครอบครองและลักลอบขนอาวุธด้วย หลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่า ชาย 3 คนในจำนวนนี้ เดินทางไปยังร้านค้าเฉพาะทาง เพื่อซื้ออุปกรณ์เช่น มีด, ปืนช็อตไฟฟ้า, เสื้อเกราะกันกระสุน และสเปรย์พริกไทย