เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีโฆษณา 4 สี ชิ้นใหญ่ยักษ์ลงเต็มหน้า 16 ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ด้วยข้อความเพียงไม่กี่ตัวอักษร
เป็นผลให้ถ้อยคำเหล่านั้นกลายเป็นตัวใหญ่ยักษ์เหมือนพาดหัวตัวไม้หน้า 1 ที่บางครั้งจะสามารถอ่านได้รู้เรื่องจากขอบหน้าต่างรถเมล์ เวลารถติดอยู่แถวๆ 4 แยก ที่มีร้านขายหนังสือพิมพ์
ในโฆษณาชิ้นนี้ก็เช่นกัน สามารถอ่านข้อความในครึ่งแผ่นบนของหน้าโฆษณาได้อย่างชัดเจนมาก เพราะมีเพียงถ้อยคำว่า “ขออภัยคนกรุง 14 ม.ค. ปิดถนนเที่ยวไทยหน่อยนะ”
ส่วนอีกครึ่งหน้าด้านล่างมีข้อความเยอะหน่อย แต่ก็ยังน้อยกว่าข้อความในล้อมกรอบโฆษณาสินค้าอย่างอื่นๆ และมีประโยคทองอยู่ประโยคหนึ่งว่า “ต้อนรับปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 กับ 6ขบวนพาเหรดทัศนวิถีไทยสุดยิ่งใหญ่ของเมืองไทยยาว 3.5 กิโลเมตร”
พร้อมกับแนบแผนที่มาให้ดูพร้อมสรรพ โดยขีดเส้นสีแดงเอาไว้ เพื่อให้เห็นว่าขบวนแห่บนถนนยาว 3.5 กม. ที่ว่านี้จะเริ่มจากจุดใดไปถึงจุดใดบ้างในวันเปิดงาน
โดยสรุปก็คือจากสี่แยกปทุมวันถึงสี่แยกราชประสงค์แล้วเลี้ยวขวาไปจนถึงสวนลุมพินีนั่นแหละ เพราะฉะนั้นใครจะผ่านไปผ่านมาใกล้เคียงกับเส้นทางดังกล่าวโปรดหลบเลี่ยงด้วยนะครับ
ท่านผู้อ่านคงจะพอนึกออกว่าผมได้เขียนถึงปีท่องเที่ยววิถีไทยมาตลอด นับแต่คอลัมน์ซอกแซกวันอาทิตย์แรกของปี 2558 โน่นแล้ว
คงต้องเรียนออกตัวว่าผมเขียนให้ด้วยความเชื่อมั่นว่างานนี้จะมีประโยชน์แก่ประเทศไทย จะมีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม และจะมีส่วนในการเชิญชวนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวบ้านเราเพิ่มขึ้น รวมทั้งเชิญชวนให้พวกเราที่มีสตางค์เหลือใช้ออกไปเที่ยวรอบๆประเทศไทยของเรามากขึ้น
ที่ผมต้องออกตัวก็พราะในปัจจุบันมีบริษัทรับจัดทำประชาสัมพันธ์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีเสียงพูดหนาหูว่าบริษัทบางบริษัทมักจะไปเคลมหรือไปแอบอ้างว่า ที่หนังสือพิมพ์เอาไปลงข่าวหรือที่คอลัมนิสต์เขียนถึงข่าวบางข่าวหรือเรื่องราวบางเรื่องนั้นเป็นผลงานของเขา
...
ผมขอเรียนว่า อย่าไปเชื่อพวกแอบอ้างนะครับ โดยเฉพาะในกรณีของงานท่องเที่ยววิถีไทย ถ้าจะมีใครส่งใบเบิกพร้อมกับอ้างว่า ได้มาติดต่อให้คอลัมน์นี้เขียนให้ท่านละก็ อย่าจ่ายให้เลยแม้แต่บาทเดียว
เพราะคอลัมน์เหะหะพาทีจะเขียนให้แต่เรื่องดีๆ เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวมเท่านั้น...ถ้าข่าวคราวหรือกิจกรรมของท่าน จะทำให้สังคมได้ประโยชน์ คนไทยได้ประโยชน์ ผมจะเขียนให้ทันที ยาวบ้างสั้นบ้างสุดแต่สาระและประโยชน์ที่ท่านจัดขึ้น
ดังเช่นโครงการนี้ของ ททท. ที่ผมเขียนให้ตั้งแต่แรก หลังจากอ่านเจอใน นิตยสาร อสท. ประจำเดือนธันวาคม ที่ส่งมาให้พวกเราอ่านเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าจะช่วยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดังกล่าว
ถ้าเราย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะพบว่าทุกครั้งที่เราจัดงานใหญ่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยอย่างพุ่งกระฉูด
นับตั้งแต่ปี 1980 หรือ 2523 ที่เราประกาศ “ปีท่องเที่ยวไทย” หรือ “Visit Thailand Year” ครั้งแรก ทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้นหลังวิกฤติเงินบาทปี 2527 รัฐบาลในยุคป๋าเปรม จึงสั่งให้โหมประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวและปูพื้นไปสู่ “ปีท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 2” ใน ค.ศ.1987 (พ.ศ.2530) ทำให้นักท่องเที่ยวพุ่งขึ้นไปอีก
ต่อมาใน พ.ศ.2541-2542 หลังวิกฤติต้มยำกุ้งก็ประกาศปี “อะเมซซิ่งไทยแลนด์” 2 ปีซ้อน เพื่อฟื้นฟูรายได้ประเทศ
ตามมาด้วย อันซีน ไทยแลนด์ (Unseen Thailand) ในปี 2546 และ Thailand Grand Invitation 2006 เนื่องในวโรกาสฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯลฯ
ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้ล้วนมีส่วนในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น เพราะเป็นหลักการตลาดสำหรับประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวอยู่แล้วว่าจะต้องมีกิจกรรม และมีความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ
จึงจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวได้ตลอดเวลา
ผมจึงเห็นด้วยกับการจัดงาน “ปีท่องเที่ยววิถีไทย” ที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ และหวังว่าจะประสบความสำเร็จเช่นทุกๆกิจกรรมที่ผ่านมา ...และยินดีที่จะยอมให้รถติดแถวๆนั้น 1 วันครับ.
“ซูม”