'ทนายปู' ซัด ผลตรวจสอบคุณภาพข้าว 'ปนัดดา' มีพิรุธ และวาระซ่อนเร้น จี้ถามมาตรฐานการตรวจสอบ โวยจ้องทุบตลาดข้าวไทย ขู่ใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยข้อมูลมาตรฐานการตรวจสอบ...
วันที่ 20 ธ.ค. นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบคดีรับจำนำข้าว กล่าวถึงกรณี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ระบุถึงผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวที่มีข้าวผ่านมาตรฐาน 12.23% ไม่ตรงตามมาตรฐาน 80.19%
ส่วนที่เหลือเป็นข้าวเสียและข้าวผิดชนิดว่า ไม่ทราบว่าสิ่งที่การตรวจสอบข้าวที่ม.ล.ปนัดดา พูดถึงเป็นการตรวจสอบในครั้งใด ที่ผ่านมารัฐบาลได้ตรวจสอบข้าวหลายหน่วยงาน ตรวจสอบหลายครั้ง แต่ละครั้งก็แถลงผลการตรวจสอบทั้งตัวเลข ปริมาณ คุณภาพข้าว แตกต่างกัน อีกทั้งการที่ ม.ล.ปนัดดา มีการแบ่งเกรดข้าวเป็นเกรดเอ บี ซีนั้น ใช้เกณฑ์ใดแบ่งเกรด ดูแล้วมีข้อพิรุธ และวาระซ่อนเร้น ควรระบุให้ชัดเจนว่า ใช้หลักเกณฑ์ใดแบ่งเกรดประเภทข้าว เพราะไม่เคยมีรัฐบาลใดทำมาก่อน การให้ข่าวว่า ข้าวไม่ได้มาตรฐาน ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน โดยใช้วิธีใด การกล่าวรวมๆ เช่นนี้เป็นการทุบตลาดข้าวไทย ไม่เป็นผลดีต่อข้าวไทยที่รอการระบายข้าว ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังจะทำข้อตกลงขายข้าวให้จีนอยู่แล้ว ม.ล.ปนัดดา จะกล้ารับผิดชอบหรือไม่
นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ส่วนการบอกว่ามีข้าวเสีย ข้าวผิดชนิด และข้าวกองล้มนั้น ไม่ทราบว่าพบที่โรงสีใด จังหวัดใด หากมีจริง ควรระบุให้ชัดเจนว่าอยู่ที่โรงสีใด เพราะรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างมาตรการป้องกันความเสียหาย เรื่องความบกพร่องของข้าวหายและข้าวเสื่อมคุณภาพไว้แล้ว หากมีการสูญหาย หรือข้าวเสื่อมคุณภาพ เพราะความบกพร่อง ก็มีสัญญาให้โรงสี โกดัง และบริษัท เซอร์เวย์เยอร์ ต้องรับผิดทางแพ่ง จะต้องชดใช้แก่รัฐตามหลักประกันที่วางไว้ และหากพบว่าเป็นความผิดทางอาญา ก็ต้องดำเนินการกับผู้กระทำผิดด้วยหากยังไม่มีการเปิดเผยให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ ทีมกฎหมายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจมีความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารเพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ขอเรียกร้องว่า ไม่ควรฉวยโอกาสเอาเรื่องผลการตรวจสอบมากล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยมีวาระทางการเมือง เพราะโดยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เรื่องผลการตรวจสอบข้าว อยู่นอกรายงานและสำนวน ป.ป.ช. จึงไม่ควรนำผลการตรวจสอบนี้มาใช้กล่าวหาลูกความตน
...