"ประยุทธ์" ห่วงความมั่นคงของประเทศ ปี 58 เนื่องจากยังไร้อุปกรณ์ตรวจคัดคนเข้าเมืองที่ทันสมัยพอ เลขาฯ สมช. ระบุ นายกฯ สั่งติดตามความเคลื่อนไหวขั้วอำนาจโลก ย้ำ จำเป็นต้องมี ม.112 พร้อมรับกลุ่มคนหนีคดีกลับไทย

วันที่ 18 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า รู้สึกเป็นห่วงเรื่องของความมั่นคงในปี 2558 ว่า จะมีภัยความมั่นคงมากขึ้น เพราะไทยจะเป็นแหล่งทรัพยากรมีหลายอย่าง ที่พวกทำผิดกฎหมายสามารถอยู่ได้ จึงต้องเข้มงวด อีกทั้งประเทศไทย ยังมีเครื่องมือคัดแยกคนด้วยเทคโนโลยี ที่ยังไม่ทันสมัย แตกต่างจากต่างประเทศที่มีเทคโนโลยีทันสมัย สามารถคัดแยกคนได้ดี

ส่วนความมั่นคงด้านการเมืองภายใน อยากให้มีเสถียรภาพของฝ่ายการเมือง ในการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องมีความสงบสุข ต่างประเทศจะได้มาคบเรา หากยังทะเลาะกันอีก จะไม่มีใครมาเชื่อมความสัมพันธ์ด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำการรักษาความปลอดภัยในช่วงปีใหม่ โดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รักษาความสงบเรียบร้อย และสั่งการให้กระทรวงคมนาคม ดูแลการขยายเส้นทางการจราจรส่วนตำรวจจะตั้งจุดให้บริการประชาชนเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้สูงสุด

ส่วนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กทม. ได้ติดกล้องไว้ตามจุดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น หากมีการกระทำที่คึกคะนองและทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย จะดำเนินคดีถึงที่สุด

นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช. ระบุว่า ได้หารือกำหนด นโยบายความมั่นคงแห่งชาติปี 2558-2564 โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ สมช.ต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของขั้วอำนาจในโลก ที่มาขยายอิทธิพลไปในแต่ละภูมิภาค ส่งผลให้ประเทศไทย ต้องปรับบทบาทความร่วมมือต่างๆ โดยต้องวางกรอบให้สมดุลมากขึ้น

...

ส่วนในระดับภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยจะต้องพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อให้มีอำนาจต่อรองกับนานาประเทศ แต่ก็ต้องเตรียมมาตรการดูแลการหลบหนีเข้าเมือง โรคอุบัติใหม่ และภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558

นายกรัฐมนตรี ระบุ พร้อมรับคนหลบหนีคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย ยืนยันจะดูแลอย่างดี เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ย้ำจำเป็นต้องมีกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อปกป้องสถาบัน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเคลื่อนไหวขององค์กรเสรีไทย ซึ่งจดทะเบียนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า เป็นความคิดที่แตกต่าง เชื่อว่าต่างประเทศมีความเข้าใจ และที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือ ขอตัวผู้หลบหนีในต่างประเทศ กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตลอด แต่ยังไม่มีประเทศไหนส่งตัวกลับมา เพราะต้องคำนึงถึงหลักกฎหมายที่แตกต่างกันด้วย ยืนยันว่า หากผู้หลบหนีกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะดูแลอย่างดี เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน

ส่วนกรณีที่ นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ ยื่นฟ้องรัฐบาลต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 นั้น ต้องไปดูว่า ไทยมีข้อตกลงในเรื่องนี้หรือไม่ แต่หากนำปัญหาทุกอย่างไปฟ้องจะทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ และขอให้สื่อมวลชน อย่าขยายความขัดแย้ง หรือสร้างความสับสนแตกแยก เพราะรัฐบาลเข้ามาแก้ไขเพื่อให้ประเทศเกิดการเดินหน้าได้

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำอีกว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีกฎหมายขึ้นมาดูแลเรื่องของสถาบัน เพราะพระองค์ท่านไม่สามารถปกป้องพระองค์เองได้ ซึ่งต้องมีกฎหมายอาญามาตรา 112 จะเห็นว่าไม่สามารถจะไปไหนมาไหนอย่างคนธรรมดาได้ มีแต่ว่าไปเยี่ยมประชาชน ในเมื่อท่านปกป้องพระองค์เองไม่ได้ ชี้แจงด้วยพระองค์เองไม่ได้ เราก็ต้องดูแลพระองค์ท่าน

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เงินสกุลรูเบิ้ลของรัสเซีย อ่อนค่าลง ว่า ได้ประชุมประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลกทุกวัน ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไร แต่กังวลว่ารายได้ประเทศจะลดลง การค้าขายและการส่งออกที่ยังคงต้องอาศัยประเทศมหาอำนาจถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเกิดความขัดแย้งกันจะส่งออกได้อย่างไร เพราะประเทศต่างๆ ก็ประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั้งสิ้น เมื่อไม่มีการซื้อสินค้า รายได้ประเทศก็ลดลง เก็บภาษีได้น้อยลง ทำให้ตัวเลขที่ประมาณการไว้ลดลง จึงถือเป็นปัญหาที่เกิดจากกลไกหลายอย่างที่จะต้องแก้ไข โดยได้มีการสั่งการให้เพิ่มตลาดชุมชน ตลาดท้องที่ และให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เปิดตลาดให้เพิ่มมากขึ้น