ออสเตรเลียวิตก สั่งระงับการออกวีซ่าให้แก่ประชาชนจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของอีโบลาชั่วคราว แถมใช้มาตรการเข้มตรวจสอบนักท่องเที่ยว ด้านโพลมะกันชี้ ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อ รัฐบาลต้านอีโบลาได้...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าประเทศออสเตรเลียสั่งงดการออกวีซ่าให้แก่ประชาชน รวมถึงผู้อพยพในประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจลุกลามมายังประเทศออสเตรเลียได้
นายสก็อตต์ มอร์ริสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง แถลงต่อรัฐสภาออสเตรเลียว่า รัฐบาลออสเตรเลีย จะระงับการออกวีซ่าให้แก่ประชาชนและผู้อพยพในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก รวมถึงจะระงับโครงการด้านมนุษยธรรมไว้ชั่วคราวด้วย ส่วนผู้ที่ถือวีซ่าถาวรของประเทศออสเตรเลียจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดจะถูกกักตัวเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ที่ประเทศต้นทาง ก่อนที่จะเดินทางมายังออสเตรเลีย และนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจะต้องได้รับการตรวจสอบและเฝ้าติดตามอาการเมื่อเดินทางมาถึง
ทางหน่วยตรวจคนเข้าเมืองของพรรคออสเตรเลียนกรีน ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การที่รัฐบาลไม่รับผู้อพยพจากประเทศในแอฟริกาตะวันตกเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัว และโหดร้าย ส่วนนายโทนี่ แอ็บบอตต์ นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียกล่าวว่ารัฐบาลมีความจำเป็นจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวด เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา
ส่วนที่สหรัฐฯ ซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล โพล เผยผลโพลสำรวจความมั่นใจของชาวอเมริกันที่มีต่อมาตรการรับมือของรัฐบาลสหรัฐต่อวิกฤติไวรัสอีโบลา โดยประชาชน 7 ใน 10 คน เชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสอีโบลาได้ ขณะที่ประชาชนอเมริกัน 8 ใน 10 คน เชื่อว่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะที่ และประชาชนอีก 54 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ารัฐบาลมีมาตรการรับมือต่อการแพร่ระบาดที่ดี
...
ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อมาตรการในการรับมือกับเชื้อไวรัสอีโบลาของรัฐบาลอยู่ในระดับสูง ขณะที่คะแนนนิยมต่อประธานาธิบดี บารัก โอบามา ลดลงมาเหลือเพียง 45 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากความไม่พอใจในทิศทางการทำงานของรัฐบาล
ส่วนประชาชน 53 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในชุมชนของตนได้รับการฝึกฝนเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว ขณะที่ประชาชนเพียง 26 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าจะมีประชาชนในชุมนของตนติดเชื้อไวรัสอีโบลาเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังระบุว่า ประชาชน 36 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าอีโบลาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลางเทอมของสภาคองเกรส