ต่างด้าวบุกป่าแก่งกระจาน เพชรบุรี สร้างเตาหลอมลอบนำแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์มาหลอมเอาโลหะไปขาย จนท.สนธิกำลังบุกจับได้ 26 คน มีทั้งพม่า จีน อ้างเช่าที่ดินจากคนไทย มีประธานสาขา ปชป.ชะอำลงนามให้เช่าแทนแม่ยาย ทั้งที่เป็นป่าสงวนฯ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 ก.ย. ร.ต.สุริยา คำภา หน.ชุดปฏิบัติการภารกิจพลเรือน กองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 2 กองพลพัฒนาที่ 1 พร้อมด้วย จนท.ศูนย์ปฏิบัติการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตร.ภ.7 พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.แก่งกระจาน นายณัฐ อารีกุล หน.ฝ่ายโรงงาน อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี นายอดุลย์เดช ขุนทอง หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 เพชรบุรี ได้สนธิกำลังและเดินทางไปยังพื้นที่ หมู่ 6 บ้านห้วยไผ่ ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน ซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายห้วยโสก เข้าไปประมาณหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาลักลอบตั้งโรงงานรีไซเคิลแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากเป็นคนงาน
เมื่อไปถึงพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมากกำลังทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้จำนวน 26 คน โดยแยกเป็นแรงงานชาวพม่า 21 คน ชาวจีน 5 คน มี นายพิชิต เล่าหาพิพัฒน์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.8 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ. เชียงราย เป็นผู้ดูแลคนงาน และอ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากนายจงรัก แช่จ้าว ชาว ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นผู้ว่าจ้าง และมีการนำสัญญาเช่าพื้นที่เพื่อทำโรงงาน ที่มีนายแรม อาจอ่อนศรี อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองชะอำ และเป็นประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ สาขาชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นผู้รับมอบอำนายจากนางประเทือง แสนมหาเกษม อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ถนนนราธิป เทศบาลเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นแม่ยาย เป็นผู้ให้เช่าในเนื้อที่ 18 ไร่ 3 งาน 23 ตร.ว.
...
สภาพพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบมีการก่อสร้างอาคารชั้นเดียวเป็นที่พักคนงาน และโรงเรือน ที่มีเครื่องจักรในการบดย่อยชิ้นส่วนวงจรอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเตาหลอมโลหะและบ่อน้ำ โดยรอบมีการนำเอาแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากมากองไว้ เพื่อเตรียมหลอมแยกเอาตะกั่ว ทองแดง และแร่อีกหลายชนิด พร้อมทั้งเบ้าใส่โลหะที่ถูกหลอมแยกออกมาอีกจำนวนมาก
จากการสอบถามนายอำนวย เฉลิมพันธ์ กำนัน ต.ห้วยแม่เพรียง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 เดือน พบว่ามีการขนวัสดุก่อสร้างเข้ามาดำเนินการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ดังกล่าว จึงสอบถาม ทราบว่าได้ขอเช่าพื้นที่เพื่อทำการเกษตร แต่ต่อมากลับมีการตั้งเตาหลอมโลหะ และขนแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งถ่านหินที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงเข้ามาในพื้นที่จึงเรียกผู้เกี่ยวข้องมาพบ เพื่อแจ้งว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะโรงงานแบบนี้จะก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งผู้รับมอบอำนาจอ้างว่าได้เลิกเช่าไปแล้ว แต่ก็ยังมีการทำงานอยู่อีก กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกันเข้าจับกุมกลุ่มบุคคลเหล่านี้
ด้านนายณัฐ อารีย์กุล หน.ฝ่ายโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า จากการตรวจพื้นที่ พบมีการก่อสร้างอาคารและติดตั้งเครื่องจักร เตาหลอมโลหะ ซึ่งเป็นการตั้งโรงงานจำพวก 3 ที่ต้องขออนุญาต แต่ผู้ประกอบการไม่ได้ยื่นขออนุญาตแต่ประการใด ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานอย่างชัดเจน
ขณะที่นายอดุลย์เดช ขุนทอง หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 เพชรบุรี ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่และจับพิกัดพบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าสงวนแห่งชาติยางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ จึงเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย
ทั่้งนี้ ภายหลังจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ดูแลและคนงานทั้งหมด ไปยัง สภ.แก่งกระจาน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และจะได้เรียกตัวนางประเทือง ผู้ที่ทำสัญญาให้เช่าพื้นที่ มาสอบสวนต่อ.