อะไรก็ตามที่เป็น “เทคโนโลยี” ถือว่ามาเร็วและไปเร็ว เผลอแป๊บๆรุ่นใหม่มาแล้ว ส่วนที่อยู่ในมือยังใช้ไม่ครบลูกเล่นเลยก็ได้ตกรุ่นเสียแล้ว ที่พูดถึงนี้ เน้นเรื่องโทรศัพท์มือถือนะครับ เป็นตัวอย่างชัดเจนมากที่สุด
หลายคนน่าจะคุ้นกับคำว่า “สมาร์ทโฟน” กันดี เพราะเดี๋ยวนี้น่าจะหาได้น้อยมากแล้วกับใครที่ยังใช้มือถือรุ่นธรรมดาๆอยู่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เพราะมีโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่น ช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้เพียบ! จนแทบวางไม่ลง ไม่ว่าเช็กอีเมลงานหรือส่วนตัว เสิร์ชหาข้อมูลและอื่นๆรวมทั้งเข้าสื่อสังคมออนไลน์จำพวกเฟซบุ๊ก ฯลฯ และยังมีแอพฯแปลกใหม่ออกมาสนองผู้ใช้อยู่ตลอด แถมมีให้เลือกหลายรุ่นหลายยี่ห้อและหลากราคาตามแต่รสนิยมและเงินในกระเป๋า
ที่เกริ่นซะยาวก็แค่อยากจะบอกว่าจริงๆ แล้ว สมาร์ทโฟนมีมาตั้งแต่ 20 ปีก่อนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าสมาร์ทโฟนยุคนี้จะครองโลกยุคโลกาภิวัตน์หมดจนไม่เหลือเมมโมรีให้คนจดจำของเก่าๆเดิมๆ
สมาร์ทโฟนตัวแรก ของโลกที่ว่า คือ “ไอบีเอ็ม ไซมอน” หรือเรียกง่ายๆว่ารุ่น “ไซมอน” (Simon) ออกวางขายเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2537 แม้การดีไซน์ตัวเครื่องจะดูแบบเฉิ่มๆทึบ เป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำ น้ำหนัก 500 กรัม แต่มาพร้อมเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และถือว่ามีดีไซน์รูปลักษณ์ล้ำยุคทีเดียว (ในยุคนั้น)
แม้จะมีลูกเล่นและจุดเด่นในตัวเหมือนกับที่ผู้ใช้คุ้นเคยกันในตอนนี้ อย่างมี จอแอลซีดีสีเขียว ปากกาเขียนหน้าจอ ปฏิทิน เขียนบันทึกข้อความ (notes) ส่งอีเมลและข้อความสั้น ได้ และยังเป็นมือถือรุ่นแรกที่มีแอพฯเชื่อมต่อเครื่องโทรสาร (fax machine) แต่ตอนนั้นไซมอน ก็ไม่ได้ถูกเรียกขานว่าสมาร์ทโฟนแต่อย่างใด
ด้วยความที่มีขายแค่ในสหรัฐฯ มีเครือข่ายให้บริการแค่ใน 15 รัฐ และขายได้ 50,000 เครื่อง ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่อยากมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นน้องๆคอมพิวเตอร์ บวกกับราคาแพงและอายุแบตเตอรี่จำกัดแค่ 1 ชม. และสมัยนั้นยัง ไม่มีบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตบนมือถือ ไซมอน จึงค่อยๆหายจากตลาด หลังวางขายได้ราวๆ 2 ปี
...
แต่เมื่อดูจากรูปแล้ว ต้องขอบอกว่า ใครจะตัดสินโทรศัพท์จากแค่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ.
เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์