เลขาธิการศาลปกครอง ปฏิเสธ แทรกแซงโผตร. ขู่ เตรียมดำเนินคดีผู้บิดเบือน ข้อเท็จจริง
วันที่ 28 เม.ย. นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ได้ทำบันทึกข้อความชี้แจงสื่อมวลชนถึงกรณี กรณี เว็บไซต์บางแห่ง นำเสนอภาพถ่ายของเอกสาร ที่นายดิเรกฤทธิ์ ได้ทำบันทึกข้อความไม่เป็นทางการ ไปถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้สนับสนุน พ.ต.ท.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ขณะดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.ป. สน.หัวหมาก ขึ้นไปเป็น ผู้กำกับการศูนย์รวมข่าว กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ผกก. ศูนย์รวมข่าวฯ บก.สปพ.) และวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ตำรวจประจำปี 2556 นั้น ว่า
เหตุผลที่ตน ในฐานะเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองทำหนังสือด่วนตัวถึง ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. เพื่อสนับสนุนข้าราชการตำรวจ เรื่องนี้สอดคล้องกับความเห็น ท่านประธานศาลปกครองสูงสุด ที่เห็นควรให้มีตำรวจศาล ซึ่งเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัย ที่ไว้วางใจได้
กรณีดังกล่าว ท่านประธานศาลปกครองสูงสุด ก็มีความรู้สึกกังวลใจ เนื่องจากหนังสือดังกล่าว หลุดออกไปสู่สาธารณะ และอาจทำให้กลุ่มบุคคลซึ่งไม่ทราบข้อเท็จจริง นำข้อมูลดังกล่าว ไปบิดเบียนจนทำให้เกิดความเสียหายได้ โดยปกติแล้วหน้าที่ในการประสานตำรวจ เพื่อรักษาความปลอดภัยของท่านประธาน เป็นหน้าที่ของตน ที่จะต้องเลือกคนที่ไว้วางใจได้ ซึ่ง พ.ต.อ.ชูธเรศ ก็เป็นเพื่อนสนิทกับหลานของท่านประธาน จึงเชื่อว่า จะสามารถไว้วางใจได้ เป็นอย่างดีในการปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัย ซึ่ง พ.ต.อ.ชูธเรศ ก็ได้มีความเสียสละช่วยเหลืองานภารกิจของศาลปกครองได้เป็นอย่างดี และมีผลงาน ความดีความชอบ จึงขอสนับสนุน โดยให้ผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.ชูธเรศ เป็นผู้ตัดสินใจพิจารณา ไม่ใช่เอาตำรวจ ที่เราไม่รู้ประวัติมาคอยคุ้มกันความปลอดภัย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นผลร้ายมากกว่า
...
เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง
ยืนยันว่า การเขียนและส่งข้อมูลดังกล่าว เป็นส่วนตัวในกรณีนี้ ไม่ผิดกฎหมาย หรือ ต้องห้ามตามกฎหมายใดๆ แต่การที่มีบุคคลนำข้อมูลภายในส่วนราชการ ไปเผยแพร่และกล่าวหา ใส่ร้าย ให้บุคคลอื่น หรือ สาธารณะเชื่อไปในทางที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และทำให้เกิดความเสียหาย ต่อหน่วยงานหรือบุคคล อาจถูกพิจารณาดำเนินคดีได้ จึงขอความร่วมมือผู้รับข่าวสาร ประกอบความเห็นบิดเบือนดังกล่าว อย่าได้ร่วมกระทำผิดในการเผยแพร่ ต่อโดยขาดการใช้วิจารณญาณ