นิทานเรื่องสัตว์ ที่อีสปเล่า ฟังแล้วชวนให้เกิดการเปรียบเทียบ สิงโตชวนให้คิดถึงคนมีอำนาจ หนูชวนให้คิดถึงคนต่ำต้อย อับวาสนา ลาหมายถึงคนโง่ แกะหมายถึงคนอ่อนแอ หมาจิ้งจอกหมายถึงคนมีเล่ห์กล มีอุบายมาก
และหมาป่า เช่นจากเรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ อีสปน่าจะมุ่งถึง คนพวกหนึ่ง ที่มีนิสัยชอบโกงกิน เอาแต่ได้
เรื่องหมาบ้าน ก็ใช่ว่า อีสป จะไม่เล่า เขาเคยเล่าเรื่อง หมาป่ากับหมาบ้าน
หมาป่าหิวโซตัวหนึ่ง พบหมาบ้านตัวใหญ่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ก็เข้าไปทักทาย และออกปากว่า “ข้าอยากจะได้รับการเลี้ยงดูเหมือนท่าน”
หมาบ้านรับปาก “ถ้าทำอย่างที่ข้าทำได้ ไม่ช้าเจ้าก็จะถูกขุนให้อ้วนพีเหมือนข้า”
หมาป่าเดินตาม หมาบ้านก็คุยต่อ “เพียงแต่เจ้าไล่พวกขอทาน เฝ้าบ้าน ดูแลความปลอดภัยให้คนในบ้านเท่านั้นเอง”
เดินกันไปคุยกันไป หมาป่าสังเกตขนคอหมาบ้านแหว่งหาย ถามก็ได้ความว่า เพราะหมาบ้านต้องใส่ปลอกคอ และปลอกคออันนั้น ก็มีโซ่ล่ามอีกทีหนึ่ง
“โซ่หรือ...” โซ่เป็นของแปลกสำหรับหมาป่า “แล้วท่านไปไหนมาไหน ตามใจชอบได้หรือเปล่า”
“เปล่า” หมาบ้านตอบแล้วย้อนถาม “การไปไหนมาไหน มันสำคัญนักหรือ”
“สำคัญมาก” หมาป่าว่า “ข้ายอมอดมื้อกินมื้อ ดีกว่ากินอิ่ม แต่ไม่มีอิสรภาพ เพราะต้องติดอยู่กับสายโซ่”
หมาป่าบอกหมาบ้าน แล้วก็ขอแยกทาง เดินกลับเข้าป่า
หมาป่าเจอกับหมาบ้านแล้ว อีสปก็เอาหมาป่าไปเจอกับหมาจิ้งจอก หมาที่ขึ้นชื่อในเรื่องเจ้าเล่ห์
หมาป่าตัวหนึ่ง สะสมอาหารไว้มากมายในถ้ำ มันกินอิ่มนอนหลับสบาย จนหมาจิ้งจอกเริ่มผิดสังเกต ที่เห็นมันเอาแต่เก็บตัว จึงเร่เข้าไปถึงปากถ้ำ แล้วถาม
...
“ข้าไม่ค่อยสบาย” หมาป่าตอบไม่เต็มเสียง “ไม่สะดวกจะออกมาคุยด้วย”
หมาจิ้งจอกแกล้งทำเป็นเชื่อ วิ่งออกไปบอกคนเลี้ยงแกะ ว่ามีหมาป่าอยู่ในน้ำกำลังนอนหลับ ถ้าจะใช้ปืนยิงก็จะยิงได้สบาย คนเลี้ยงแกะคว้าปืนไปยิงหมาป่าตาย
หมาจิ้งจอกก็ได้ทีเข้าไปยึดถ้ำ กินอาหารของหมาป่า แต่ไม่กี่วันต่อมา คนเลี้ยงแกะก็รู้ข่าว เอาปืนไปยิงหมาจิ้งจอกตายไปอีกตัว
อีสปเล่าให้หมาป่าเจอหมาบ้านแล้ว เจอกับหมาจิ้งจอกแล้ว นิทานเรื่องต่อไปนี้ หมาป่าเจอกับสิงโต
ก็คงตัวเดียวกับราชสีห์ ที่ติดบ่วงพราน ต้องให้เจ้าหนูตัวน้อยไปช่วย นั่นล่ะกระมัง
หมาป่าไล่จับแกะได้ตัวหนึ่ง ก็คงเป็นตัวที่มันหาเรื่องไล่จับ มาจากลำธาร...มันกำลังค่อยๆลากไปยังที่อยู่ โชคไม่ดี เจอสิงโตกลางทาง
สิงโตกำลังหิว มองหาเหยื่ออยู่พอดี เห็นเข้าก็วิ่งปราดเข้าไปแย่งแกะจากหมาป่า
“อะไรกันท่านสิงโต” หมาป่าโกรธมาก “เจ้าป่ายิ่งใหญ่ มีเขี้ยวเล็บแหลมคมแข็งแกร่งอย่างท่าน ทำไมไม่มีปัญญาหาอาหารได้เอง จึงต้องมาแย่งอาหารกลางถนน จากสัตว์น้อยซื่อสัตย์อย่างข้า”
“ข้าน่ะหรือ...ไปขโมยของผู้อื่น” สิงโตหัวเราะร่า
“เจ้าจะให้ข้าเชื่อหรือว่า เจ้าได้แกะมาอย่างซื่อสัตย์ ข้าเชื่อว่า คนเลี้ยงแกะเพื่อนรักของเจ้า ฝากแกะตัวนี้แก่เจ้า มาให้เป็นของกำนัลแก่ข้ามากกว่า”
ว่าแล้ว สิงโตเจ้าป่า ก็ขย้ำลูกแกะเข้าปาก และเดินอย่างองอาจสง่างาม ลาจากไป
นิทานอีสป สามเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าสัตว์โง่สัตว์ฉลาด เมื่อต้องปะทะหักหาญ ก็มักเสร็จสัตว์ใหญ่
ขึ้นชื่อว่าสิงโต หรือราชสีห์ ซึ่งถือเป็นสัตว์ทรงอำนาจนั้น...
ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ ขืนสู้ไป ก็มักแพ้ภัยตัว เอาตัวรอดไปได้
ถึงไม่ตายก็มักเลี้ยงไม่โต...
กิเลน ประลองเชิง