หนุ่มสกุลเหงียนถูกแทงดับกลางดึกรับสงกรานต์ พยานเห็นผู้ตายวิ่งหนีมาตามถนนประดิษฐ์มนูธรรม ก่อนถูกกลุ่มคนร้าย 5-6 คน ที่แต่งตัวคล้ายเด็กเสิร์ฟร้านอาหารในละแวกที่เกิดเหตุ ไล่ตามมาทำร้ายจนดับคาถนน ตร.เผยสอบญาติไม่พบชนวนเหตุใดๆ คาดผู้ตายน่าจะเจอโจทก์เก่าสมัยอยู่เวียดนามโดยบังเอิญ ก่อนคู่อริจะเรียกพวกมาถอนแค้น
หนุ่มเวียดนามถูกแทงดับ คาดเจอโจทก์เก่า เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 13 เม.ย. ร.ต.ท.ชาตรี ขาวสะอาด พงส. สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุชายต่างชาติถูกแทงเสียชีวิตบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ฝั่งขาเข้า ตรงข้ามห้างโลตัส สาขาเลียบด่วนรามอินทรา แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.ตร. และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ฝั่งขาเข้า บริเวณช่องจราจรขวาสุดพบศพนายหว่อง อานวัง อายุ 19 ปี ชาวเวียดนาม เสียชีวิตในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวปลายแขนดำ กางเกงยีนส์ ขายาว ไม่สวมรองเท้า ตรวจสอบพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่หน้าอกขวา 3 แผล ชายโครงซ้าย 1 แผล ข้อมือขวา 1 แผล ที่มือซ้ายของผู้ตายยังกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพพร้อมเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์
สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายวิ่งมาตามถนนประดิษฐ์มนูธรรม ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าถนนลาดพร้าว เมื่อถึงจุดพบศพ ผู้ตาย พยายามจะวิ่งข้ามถนน แต่ถูกกลุ่มคนร้ายประมาณ 5-6 คน สวมเสื้อสีขาวกางเกงยีนส์ แต่งกายคล้ายเด็กเสิร์ฟร้านอาหารในละแวกนั้น ไล่มาทันก่อนรุมทำร้ายจนผู้ตายล้มลงบนพื้นถนน จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้วิ่งข้ามถนนไปเรียกรถแท็กซี่หลบหนีที่บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขาเลียบด่วนรามอินทรา
ด้านนางแอน พี่สาวผู้ตายให้การอย่างกระท่อนกระแท่นทั้งน้ำตาว่า ตนพร้อมญาติเดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ที่เมืองไทย โดยพักอยู่กับแฟนตนที่อพาร์ตเมนต์ ในซอยลาดพร้าว 71 ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขอตัวออกมาซื้อของเมื่อประมาณเที่ยงคืน ก่อนตนเห็นว่า ผู้ตายหายไปนานจึงโทรศัพท์เข้ามือถือ ทำให้ทราบว่าน้องชายถูกแทงเสียชีวิตแล้ว
...
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเข้ามาหางานทำในประเทศ ไทยอย่างถูกกฎหมาย ได้ประมาณเดือนเศษแล้ว แต่ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งและไม่เคยมีเรื่องราวกับใครในประเทศไทย แต่ก่อนหน้านี้ญาติผู้ตายระบุว่า ผู้ตายเคยมีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวที่บ้านเกิดมาก่อน คาดว่าเมื่อต่างฝ่ายต่างแยกย้ายมาทำงานในประเทศไทย กลับมาพบกันโดยบังเอิญ จึงลงมือก่อเหตุ ดังกล่าว เบื้องต้นสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนหาพยานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสคนร้ายกลุ่มนี้ คาดต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากกล้องของ กทม.บริเวณนั้นค่อนข้างน้อย ต้องรอประสานขอความร่วมมือตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าใกล้เคียงต่อไป