เมื่อนึกถึงของคู่กายผู้หญิงต้องนึกถึงอะไรเป็นอันดับแรก?

1 ใน 3 ผู้หญิงจะตอบว่า ‘ผ้าอนามัย’ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ปัจจุบัน มี ‘ผ้าอนามัย’ หลากหลายชนิดที่ออกมาแข่งขันกัน ทั้งราคาและออปชั่นเสริมที่แต่งเติมเข้ามาเพื่อให้สะดวกและเข้ากับความต้องการของผู้หญิง อาทิ การซึมซับที่รวดเร็ว ความยาวที่กระชับต่อสรีระ กลิ่นหอมที่ช่วยลดกลิ่นอับ จนถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งทำให้ "ราคาสูงขึ้น" เกิดผลกระทบต่อผู้หญิงที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถเอื้อมถึง ‘ผ้าอนามัย’ ที่มีคุณภาพได้

แล้วคุณผู้อ่านทุกท่านรู้กันไหมว่า ‘ผ้าอนามัย’ ที่ผู้หญิงใช้กันอยู่ทุกเดือนจัดอยู่ในหมวด ‘เครื่องสำอาง’

ใช่!! ‘ผ้าอนามัย’ อยู่ในหมวด ‘เครื่องสำอาง’

หลายคนอาจจะตกใจว่า "ทำไม ‘ผ้าอนามัย’ ถึงต้องอยู่ในหมวดเครื่องสำอาง?"

แล้วเกิดการตั้งคำถามตามมาจากกลุ่มผู้หญิงส่วนหนึ่งว่า "การจัดให้ ‘ผ้าอนามัย’ อยู่ในหมวด ‘เครื่องสำอาง’ คือ ต้นเหตุของราคาที่แพงแสนแพง ใช่หรือไม่?"

...

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปฟังความ 2 ด้าน จาก 2 ฟากฝั่ง

ด้านหนึ่ง ‘จิตติมา ภาณุเตชะ’ ที่ปรึกษาแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา ที่ขอยืนข้างเรียกร้องให้นำ ‘ผ้าอนามัย’ ออกจากหมวด ‘เครื่องสำอาง’

ชี้เป็นต้นเหตุทำให้มีราคาสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น และแม้เป็นสินค้าควบคุม แต่ก็ไม่ได้มีการบังคับกำหนดราคาที่ชัดเจน พร้อมตั้งแคมเปญ "ต้องมีมาตรการควบคุมสินค้าประเภทผ้าอนามัยเพื่อให้ผู้หญิงทุกคนเข้าถึงได้ #ของมันต้องมี" บน change.org

อีกด้านหนึ่ง ‘เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม’ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้เหตุผลชัดๆ ทำไมต้องจัด ‘ผ้าอนามัย’ ในหมวด ‘เครื่องสำอาง’

ย้ำหนักแน่น ‘เครื่องสำอาง’ ไม่ใช่เงื่อนไขทำให้ ‘ผ้าอนามัย’ ราคาแพง ที่สำคัญ ‘ผ้าอนามัย’ ไม่ใช่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป

ส่วนที่มีกระแสแนะนำให้ผู้หญิงหันมาใช้ ‘ผ้าอนามัยแบบซักได้’ ราคาไม่แพง ช่วยเซฟเงิน ‘เภสัชกรหญิง สุภัทรา’ ก็บอกว่า "ตอนนี้ยังไม่มีการอนุญาตจาก อย. ถือว่ายังไม่ปลอดภัยในการใช้"

‘ผ้าอนามัย’ แพงจริงๆ หรือไม่?

แล้วการจัดหมวด ‘เครื่องสำอาง’ เป็นต้นเหตุจริงหรือเปล่า?

หาคำตอบได้ในรายการ 2SIDED

ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ เทียบกันให้เห็นชัดๆ จากการลงพื้นที่สำรวจร้านสะดวกซื้อในกรุงเทพมหานคร แล้วคุณผู้อ่านลองตรึกตรองหาข้อสรุปกันในใจว่า ‘ผ้าอนามัยแพง’ คือ "เรื่องจริง" หรือ "คิดไปเอง" ...

หากมองเพียงราคาหน้าห่อผ้าอนามัยจะพบว่า ราคามีตั้งแต่ 23-195 บาท วางปะปนกันทั้งแบรนด์ไทยทำและนำเข้าแบรนด์นอก

แบบราคาถูกสุดที่ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ตรวจพบอยู่ที่ 23 บาท ขนาดความยาว 22 เซนติเมตร ไม่มีปีก ไม่มีขอบปกป้อง ไร้กลิ่นใดๆ เจือปน ใน 1 ห่อ มี 20 ชิ้น ตกชิ้นละ 1.15 บาท หากทำตามคำแนะนำบนฉลากที่ให้เปลี่ยนทุก 3-4 ชั่วโมง ใน 1 วัน จะใช้ประมาณ 8 แผ่น ดังนั้น 1 ห่อ ใช้ได้ประมาณ 2 วัน และใน 1 รอบการเป็นประจำเดือนของผู้หญิงเฉลี่ย 3-7 วัน เท่ากับว่า 1 รอบประจำเดือน เผื่อเหลือเผื่อขาดใช้ 4 ห่อ ต้องจ่ายต่อรอบที่ 92 บาท

...

แต่หากเป็นราคาหน้าห่อที่แพงที่สุดของแบรนด์ไทย พบว่าอยู่ที่ 79 บาท ขนาดความยาว 42 เซนติเมตร มีความหนา มีปีก มีออปชั่นเสริมต่างจากแบบราคาถูก ใน 1 ห่อ มี 8 ชิ้น ตกชิ้นละประมาณ 9-10 บาท หากทำตามคำแนะนำบนฉลากที่ให้เปลี่ยนทุก 3-4 ชั่วโมง ใน 1 วัน จะใช้ประมาณ 8 แผ่น ดังนั้น 1 ห่อ ใช้ได้เพียงแค่วันเดียว และใน 1 รอบการเป็นประจำเดือนของผู้หญิงเฉลี่ย 3-7 วัน เท่ากับว่า 1 รอบประจำเดือน เผื่อเหลือเผื่อขาดใช้ 3-7 ห่อ ต้องจ่ายต่อรอบที่ 237-553 บาท

หากนำราคาเฉลี่ยของ ‘ผ้าอนามัย’ 1 ห่อ (8 ชิ้น) ที่ประมาณ 40-60 บาท (ใช้ตามคำแนะนำที่ถูกสุขลักษณะเปลี่ยนทุก 3-4 ชั่วโมง) เทียบกับรายได้ 300 บาทต่อวัน เท่ากับว่า สัดส่วนเงินที่ผู้หญิงต้องแบ่งจ่ายแลกความสะอาดอยู่ที่เกือบ 30% ของรายได้ต่อวัน

สรุปแล้ว คุณคิดว่า ‘ผ้าอนามัยแพง’ คือ "เรื่องจริง" หรือ "คิดไปเอง"?.

ข่าวอื่นๆ :

...