ประเทศไทยยังเกิดธุรกิจใหม่ๆ ได้ ล่าสุด พร็อพเพอร์ตี้ ดิสเคานต์ เซนเตอร์ ประเทศไทย เปิดศูนย์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ชูจุดขายเป็นแหล่งพบปะเจ้าของ ผู้ซื้อ และนักลงทุนโดยตรงไม่ผ่านนายหน้า

นายสจ๊วต ค็อกเลย์ ผู้อำนวยการศูนย์พร็อพเพอร์ตี้ ดิสเคานต์ เซนเตอร์ ประเทศไทย ผู้ทำธุรกิจเกี่ยวกับซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา รวมทั้งเปิดตัวศูนย์พร็อพเพอร์ตี้ ดิสเคานต์ เซ็นเตอร์ ประเทศไทย หรือ ตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นศูนย์แสดงอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้าน ที่อยู่อาศัย วิลล่า คอนโด และที่ดินจากทั่วประเทศ รวมถึงประเทศในอาเซียนขึ้น โดยหวังให้เป็นแหล่งพบเจ้าของ ผู้ซื้อ และนักลงทุนโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง

ทั้งนี้ ตามปกติธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของแต่ละคนจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 20-35% ของราคาขายสำหรับการโฆษณา ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าคอมมิชชั่นของตัวแทน ค่าเช่าบูธ เงินเดือนของผู้จัดการฝ่ายขายและส่วนลดที่ผู้ซื้อร้องขอ เป็นต้น แต่ศูนย์พร็อพเพอร์ตี้ฯ ใช้รูปแบบการขายอื่นแทน แต่ในการเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้ จะเป็นการดีกว่าที่จะทำให้ผู้ซื้อมีส่วนลดที่น่าสนใจ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ดีที่สุด

นายสจ๊วต กล่าวต่อว่า ศูนย์พร็อพเพอร์ตี้ฯ จะเป็นศูนย์กลางช่วยผู้ซื้อผู้ขาย เป็นตัวแทนคนกลางโดยไม่มีค่านายหน้า ทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งจะทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกค้า จะได้รับส่วนลดพิเศษจากส่วนลดค่าจัดการ หรือ ค่านายหน้าที่ถูกตัดทิ้ง สร้างโอกาสของผู้ซื้อและนักลงทุนในช่วงโควิด-19 อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจต้องหาวิธีการและรูปแบบใหม่ๆ ในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและการเพิ่มยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่ชะลอตัวลง หรือเกือบจะหยุดลง เนื่องจากอุปสรรคและข้อจำกัดโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างสถานที่ทำงานใหม่ๆ และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ.

...