ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 7 ม.ค.2563 ว่า มีแรงซื้อหุ้นกลับคืนส่งผลให้ดัชนีหุ้นดีดตัวกลับขึ้นมา หลังวันก่อนดิ่งลงหนักร่วม 30 จุด จากเหตุการณ์ความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน โดยดัชนีปิดทำการที่ระดับ 1,585.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.73 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 61,992.83 ล้านบาท
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ขณะนี้ยังประเมินทิศทางได้ยากกับความขัดแย้งของ 2 ประเทศที่เกิดขึ้น จึงอยากให้นักลงทุนเฝ้าติดตามสถานการณ์และข่าวสาร รวมทั้งใช้ความระมัดระวังในการลงทุน
ส่วนการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปตามทิศทางตลาดทุนทั่วโลก เพื่อลดความเสี่ยงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
นายมนชัย มกรานุรักษ์ หัวหน้าสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ ประเมินว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบในระยะสั้นต่อตลาดหุ้นไทยและยังเชื่อว่าในระยะกลางและระยะยาว หุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องหลังจากปีที่แล้วหุ้นไทยปรับตัวน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค ส่วนกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือหุ้นกลุ่มขนส่งที่มีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น กรณีที่เหตุการณ์ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อไปยังหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางว่ามีโอกาสค่อนข้างน้อยที่จะลุกลามไปเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและรัสเซีย ยังคงนิ่งเฉยและยังไม่แสดงเจตนารมณ์อย่างเป็นทางการต่อเรื่องนี้ โดยทั้งจีนและรัสเซียยังมีปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ จึงเชื่อว่าเป็นเรื่องยากที่ทั้ง 2 ประเทศจะออกมามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
...
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนจาก 26 บริษัท โดยได้ประเมินเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 63 มีค่าเฉลี่ยที่ 1,679 จุด ซึ่งสูงกว่าระดับดัชนี ณ สิ้นปี 62 ที่ 1,579 จุด โดยปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยคือเศรษฐกิจต่างประเทศทั้งสหรัฐฯ ยุโรปและเอเชีย รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่เป็นขาลง และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยลบหรือความเสี่ยงคือเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว รวมทั้งความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองในประเทศและต่างประเทศ.