“บ้านดีมีดาวน์” เปิดลงทะเบียนวันแรกคึกคัก รออีก 3 วันแจ้งผลตรวจสอบคุณสมบัติ ทางเอสเอ็มเอส ได้สิทธิหรือไม่ รับเงิน 5 หมื่นบาท จำกัดเพียง 1 แสนคนเท่านั้น

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเปิดลงทะเบียน “โครงการบ้านดีมีดาวน์” ในวันแรก ระบบมีความพร้อมในการรองรับการลงทะเบียนผ่าน www.บ้านดีมีดาวน์.com เป็นอย่างดี โดย ณ เวลา 13.00 น. มีผู้ลงทะเบียนแล้วจำนวน 40,906 ราย ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนแล้วระบบจะใช้เวลาตรวจสอบรอบแรก 3 วันทำการ และจะได้รับ SMS แจ้งผลการตรวจสอบคุณสมบัติในรอบแรกว่าได้เป็นผู้เข้าร่วมโครงการหรือไม่ และหากเป็นผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสามารถนำ SMS ดังกล่าวไปแสดงต่อสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการเพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้เข้าร่วมโครงการ

ส่วนการกรอกข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ลงทะเบียนมีเพียงข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ เลขประจำตัว 13 หลัก ชื่อ-สกุล วัน/เดือน/ปีเกิด รหัสหลังบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และ E-mail โดยกระทรวงการคลังกำหนดเวลาในการเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ 11 ธ.ค. 2562 – 31 มี.ค. 2563 และในช่วงแรกจะจำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียน 500,000 ราย เพื่อประโยชน์ในการประเมินผลของโครงการ

สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิยังคงเดิม 1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย 2. เป็นผู้อยู่ในระบบฐานภาษีกรมสรรพากรและมีเงินได้ในปีภาษี 2561 ไม่เกิน 1,200,000 บาท 3. เป็นผู้ที่มีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยหลังลงทะเบียนระบบจะตรวจสอบคุณสมบัติรอบแรกตามข้อ 1. ถึงข้อ 3. ก่อนแจ้งผลการตรวจสอบทาง SMS และ 4. เป็นผู้ที่ขอสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ 4.1 เป็นผู้ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและจดจำนองแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2562 ถึง 31 มี.ค. 2563 4.2. เป็นการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ที่สร้างเสร็จแล้วจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมาย และ 4.3 ไม่ใช่การกู้เพื่อ refinance

...

ทั้งนี้สามารถขอสินเชื่อได้จากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการตามรายชื่อสถาบันการเงินที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com โดยผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ 100,000 คนแรก จะเป็นผู้ได้รับสิทธิจะได้รับเงินสนับสนุน 50,000 บาท

“โครงการบ้านดีมีดาวน์เป็นโครงการที่จะช่วยผู้ที่อยู่ระหว่างตัดสินใจซื้อบ้านให้สามารถตัดสินใจซื้อบ้านได้เร็วขึ้น เป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐที่สนับสนุนให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อีกทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าโครงการนี้จะช่วยระบายสต๊อกของที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จแล้วและใกล้แล้วเสร็จที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 270,000 ยูนิต เพื่อก่อให้เกิดการลงทุนใหม่และส่งผลดีต่อเนื่องไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”