นางเจนเนต ซีบริทส์ หัวหน้าแผนกวิจัยตลาดที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เปิดเผยว่า จากรายงานการใช้ชีวิตทั่วโลก (Global Living Report) ประจำปีนี้ ที่ได้รวบรวมข้อมูลตลาดที่พักอาศัยจาก 35 เมืองสำคัญทั่วโลกพบว่า การลงทุนในเขตเมือง เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การเชื่อมต่อ ค้าปลีก ศูนย์วัฒนธรรม และตลาดที่พักอาศัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในรายงานปีนี้ ได้เพิ่มจำนวนเมืองหลักที่สำรวจจาก 29 เมือง เป็น 35 เมือง ซึ่งรวมถึงเมืองที่มีความน่าสนใจตั้งแต่เมืองใหม่ๆที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเซินเจิ้นและกรุงเทพฯ เมืองหลวงแบบดั้งเดิม เช่น โรมและลิสบอน ไปจนถึงศูนย์กลางเมืองสมัยใหม่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างดูไบและโยฮันเนสเบิร์ก

นางเจนเนต กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เมืองที่มีราคาที่พักอาศัยแพงที่สุดในโลก 3 อันดับแรกอยู่ในเอเชีย โดยฮ่องกงยังคงเป็นเมืองที่ราคาที่พักอาศัยแพงที่สุดในโลกด้วยราคาเฉลี่ย 39.52 ล้านบาท ตามมาด้วยสิงคโปร์ราคาเฉลี่ย 27.97 ล้านบาท และเซี่ยงไฮ้ราคาเฉลี่ย 27.92 ล้านบาท ส่วนกรุงเทพฯอยู่อันดับที่ 33 ด้วยราคาเฉลี่ย 3.4 ล้านบาท โดยเมืองที่มีอัตราการโตของราคาเฉลี่ยมากที่สุดได้แก่ บาร์เซโลนา (16.9%) ดับลิน (11.6%) เซี่ยงไฮ้ (11.2%) ส่วนลอนดอนแม้ราคาจะโตเพียง 1.1% แต่ยังคงติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองใหญ่ที่มีราคาที่พักอาศัยโดยเฉลี่ยสูงสุดที่ 20.7 ล้านบาท.