นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัสพรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของอุปทาน (จำนวนยูนิตตลาดคอนโดมิเนียม) เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี โดยราคาจะปรับเพิ่มสูงขึ้น 8-12% ต่อปี ซึ่งราคาคอนโดมิเนียมที่สูงขึ้นเป็นเพราะปัจจัยหลักคือราคาที่ดินที่สูงขึ้น ที่ดินหายากขึ้น “ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมไตรมาส 2ของปีนี้ พบว่าอุปทานคอนโดมิเนียมในตลาดกรุงเทพฯเติบโตขึ้น9,395 ยูนิต จาก 20 โครงการ ทำให้ในตลาดมีคอนโดมิเนียมรวม 573,000 ยูนิต โดยทำเลที่เปิดโครงการใหม่มากที่สุดคือ บริเวณจรัญสนิทวงศ์และสะพานควาย ซึ่งเป็นเขตรอบใจกลางเมือง”
สำหรับด้านราคาพบว่ากลุ่มตลาดใจกลางเมืองยังคงเป็นตลาดที่ครองตำแหน่งการปรับตัวของราคาสูงที่สุดคือ 6% ส่วนตลาดรอบใจกลางเมืองปรับตัวสูงขึ้น 4% และตลาดรอบนอกราคาสูงขึ้น 3%
ทั้งนี้ ความต้องการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พบว่าเป็นคนไทยที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงมากกว่า 80% แต่ในระยะเวลาช่วง 1-2 ปีนี้ จะเห็นได้ว่าเริ่มมีกำลังซื้อจากต่างชาติมากขึ้น.